ราคารางกระดูกงูเหล็ก
กระดูกงูร้อยสายไฟ Steel Chain
ราคารางกระดูกงูเหล็ก (Steel Cable Drag Chain) มักจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดความกว้าง, ความสูง, ความยาว, และวัสดุที่ใช้ในการผลิต โดยปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อการกำหนดราคาให้เหมาะสมกับการใช้งานต่าง ๆ วัสดุ: กระดูกงูร้อยสายไฟที่ทำจากเหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel) มักจะมีราคาสูงกว่าเหล็กธรรมดา เนื่องจากการเคลือบสังกะสีช่วยเพิ่มความทนทานต่อน้ำและการกัดกร่อน
" ราคารางกระดูกงูเหล็ก | กระดูกงูร้อยสายไฟ "
การเปรียบเทียบคุณสมบัติและราคารางกระดูกงูเหล็ก
คุณสมบัติมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการสึกหรอและการกัดกร่อน ทำให้ป้องกันสายเคเบิลจากความเสียหายทางกล ฝุ่น น้ำ และสิ่งสกปรกได้ดี. นอกจากนี้ยังรองรับน้ำหนักของสายเคเบิลและท่อที่มีน้ำหนักมากได้ และสามารถติดตั้งและถอดออกได้ง่าย ทำให้การจัดเรียงสายเคเบิลดูเป็นระเบียบ
- ความแข็งแรงสูง: ทำจากวัสดุเหล็กที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการสึกหรอและการกระแทกได้ดี
- รองรับน้ำหนักได้ดี: รองรับน้ำหนักของสายเคเบิลและท่อที่มีน้ำหนักมากได้ ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง.
- การติดตั้งและการบำรุงรักษา: สามารถติดตั้งและถอดออกได้ง่าย มีหลายขนาดและรูปแบบให้เลือกใช้ตามความต้องการ.
- ความสวยงามและเป็นระเบียบ: ทำให้การจัดเรียงสายเคเบิลดูเป็นระเบียบ และช่วยให้พื้นที่ทำงานดูสะอาดเรียบร้อย
- ความทนทาน: มีความทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากกว่า Cable Drag Chain ที่ทำจากพลาสติก เช่น สภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่หรือการใช้งานที่มีแรงกระแทกแรงเสียดทาน
- ความทนทานต่อสารเคมี: มีความทนทานต่อสารเคมีมากกว่าพลาสติก ซึ่งช่วยให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือเหนียวโคลนได้
- ความทนทานต่ออุณหภูมิ: มีความทนทานต่ออุณหภูมิสูงกว่าพลาสติก ซึ่งทำให้ สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมากกว่า
กระดูกงูร้อยสายไฟช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
อายุการใช้งานของรางกระดูกงูเหล็ก Cable Drag Chain Steel
รางกระดูกที่มีโครงสร้างเป็นเหล็กที่ใช้สำหรับป้องกันสายไฟหรือสัญญาณจากการโค้งงอหรือการพับขณะเคลื่อนที่ในแอปพลิเคชันอุตสาหกรรม โดยรุ่น TL มักจะมีลักษณะเฉพาะที่ช่วยให้การติดตั้งและการบำรุงรักษาเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ มีความทนทานและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีการเคลื่อนที่เป็นประจำ ทนณหภูมิสูง และสารเคมีต่างๆ
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ (Cable Chain Measurement)
การเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในด้านความกว้างและความสูงภายในรางเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญมากในการติดตั้งและใช้งานเพื่อป้องกันการสึกหรอและลดโอกาสเกิดความเสียหายกับสายเคเบิลหรือสายพาน โดยการทำตามแนวทางนี้ จะช่วยให้การติดตั้งและใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้ตามแนวทางดังนี้:
- 1. การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement) ทำการวัดความกว้างของ โดยให้ความสนใจว่าความกว้างนี้ต้องพอเพียงสำหรับการติดตั้งสายเคเบิลหรือสายพานหลายเส้นในแนวขนาน ซึ่งหากมีสายหลายเส้นในรางเดียว ควรมีช่องว่างระหว่างแต่ละเส้นอย่างน้อย 10% ของความกว้างสาย
- 2. การคำนวณค่า 10% ของความกว้างสายเคเบิล (Calculate 10% of Cable Width) เมื่อทราบความกว้างของสายเคเบิลหรือสายพานที่ต้องการติดตั้งในรางแล้ว ให้คำนวณค่า 10% ของความกว้างนี้เพื่อเป็นช่องว่างเพิ่มเติม โดยการเพิ่ม 10% นี้จะช่วยป้องกันการเสียดสีและช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายทำได้อย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดของสายขณะเคลื่อนที่
- 3. เว้นช่องว่างความสูงอย่างน้อย 10% ไม่เพียงแค่ความกว้าง ช่องว่างในแนวสูงภายในรางก็ควรมีอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลหรือสายพานเช่นกัน เพื่อให้สายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะการทำงาน
- 4. ประโยชน์จากการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม การเว้นช่องว่างทั้งด้านกว้างและสูงอย่างน้อย 10% จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสายภายในราง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและสายพานได้ ทำให้ระบบการเคลื่อนที่ภายในเครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องที่อาจส่งผลต่อการผลิตหรือการทำงานของระบบ
รัศมีการดัดโค้ง (Bending Radius) ของกระดูกงูมีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้
- หลักการเว้นพื้นที่ 15%: ควรเว้นพื้นที่ในรางอย่างน้อย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สายไฟหรือท่อสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดแรงกดหรือแรงตึงที่อาจทำให้สายเสียหาย
- การรองรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ: พื้นที่ว่างช่วยให้สายไฟหรือท่อโค้งงอได้โดยไม่มีแรงกระทำมากเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายจากการเสียดสี
- ผลกระทบต่ออายุการใช้งาน: หากเว้นพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายไฟหรือท่อขาดความยืดหยุ่นและเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ
- ความสำคัญของรัศมีโค้ง: รัศมีโค้งที่เหมาะสมช่วยลดแรงกระทำต่อสายไฟและราง ทำให้ระบบเคลื่อนไหวได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน
การใช้ cable drag chain steel ในอุตสาหกรรม
ป้องกันการบิดหัวเสา ช่วยลดการบิดหัวเสาสายไฟหรือสายสัญญาณในกรณีที่มีการเคลื่อนที่แบบเรียกว่า linear motion หรือ rotational motion ในระบบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีสายไฟหรือสายสัญญาณต้องเคลื่อนที่พร้อมกับอุปกรณ์หลัก เช่น หุ่นยนต์อุตสาหกรรม หรือเครื่องจักรอื่นๆ ที่ต้องการเคลื่อนที่ตามแนวเสาหรือลำแสงที่ต่างกัน ป้องกันการสะสมความเสียหาย: ช่วยลดการสะสมความเสียหายของสายไฟหรือสายสัญญาณจากการเคลื่อนที่ที่ไม่เป็นระเบียบ เช่น การสับขาไฟหรือสัญญาณ หรือการถูกขูดตัดโดยส่วนอื่นของเครื่องจักร ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานโดยลดความเสี่ยงในการชนกันของสายไฟหรือสายสัญญาณกับสิ่งอื่นๆ ในบริเวณที่มีการเคลื่อนที่
ความแตกต่างรางกระดูกงูแบบโปร่งและแบบทึบ
ตัวอย่างการใช้งาน cable chain steel
3 ประเภทหลัก แผ่นรองรับสายไฟ Supporting Plate
การเลือกใช้ รางกระดูกงูเหล็ก (Steel Cable Drag Chain)
การเลือกใช้ Steel Cable Drag Chai) แบบทึบ (Enclosed) หรือแบบโปร่ง (Open) ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมของแต่ละโครงการ หากงานต้องการการปกป้องสายไฟจากสิ่งสกปรก หรือการสัมผัสกับอันตรายจากภายนอก เช่น ฝุ่น, น้ำ, หรือสารเคมี แบบทึบจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถป้องกันสิ่งเหล่านี้ได้ดีและรักษาความสะอาดของสายไฟได้ตลอดเวลา
ในขณะที่ แบบโปร่ง เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการให้การไหลของอากาศหรือการระบายความร้อนดีขึ้น หรือในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องการการปกป้องสูงมาก แต่ต้องการให้การเคลื่อนไหวของสายไฟเป็นไปอย่างราบรื่น โดยที่สามารถมองเห็นสายไฟได้ง่ายและตรวจสอบการทำงานได้สะดวก
การเลือกใช้ รางเหล็กแบบทึบ (Enclosed) มีข้อดีในการปกป้องสายไฟจากมลพิษภายนอก เช่น ฝุ่น, น้ำ, หรือสารเคมี ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและลดความเสี่ยงจากการขัดข้องหรือเสียหายจากการสัมผัสสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ยังเหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันความปลอดภัยจากการสัมผัสกับสายไฟ
ในขณะเดียวกัน รางเหล็กแบบโปร่ง (Open) เหมาะกับการใช้งานที่ไม่ต้องการการป้องกันเต็มที่จากสิ่งแวดล้อม แต่ต้องการให้การเคลื่อนที่ของสายไฟเป็นไปอย่างอิสระและมีการระบายความร้อนที่ดี ซึ่งเหมาะกับงานที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง เช่น ระบบหุ่นยนต์อุตสาหกรรมหรือสายการผลิตที่ต้องการการเคลื่อนที่อย่างราบรื่น
การเลือกใช้ระหว่างทั้งสองประเภทควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานที่เฉพาะเจาะจง ความต้องการในการปกป้องสายไฟ ราคารางกระดูกงูแบบทึบจะค่อนข้างสูงกว่า และการจัดการความร้อนในพื้นที่นั้นๆ การใช้แบบที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุดและยืดอายุการใช้งานของระบบได้.
ความแตกต่างรางกระดูกงูแบบโปร่งและแบบทึบ
ความแตกต่างระหว่างกระดูกงูร้อยสายไฟแบบโปร่ง (Open Type) และแบบทึบ (Enclosed Type) ราคารางกระดูกงูแบบทึบจะสูงกว่าแบบโปร่ง สามารถอธิบายได้ใน 4 หัวข้อหลักๆ ดังนี้:
การป้องกันสิ่งแวดล้อม
- แบบทึบ (Enclosed Type): รางแบบทึบมีผนังปิดทึบทั้งสี่ด้าน ซึ่งช่วยป้องกันสายไฟจากมลพิษภายนอก เช่น ฝุ่น, น้ำ, สารเคมี, หรือการกระแทกจากวัตถุต่างๆ การป้องกันเหล่านี้ช่วยเพิ่มความทนทานให้กับสายไฟภายในและลดความเสี่ยงจากการเสียหายหรือขัดข้อง
- แบบโปร่ง (Open Type): รางแบบโปร่งมีลักษณะเป็นรางที่เปิดโล่ง โดยไม่มีกำแพงปิดทึบ จึงไม่สามารถป้องกันฝุ่นหรือสิ่งสกปรกจากภายนอกได้ดีเหมือนแบบทึบ แต่ในบางกรณีการเปิดโล่งนี้สามารถช่วยให้สายไฟมีการระบายความร้อนที่ดีขึ้น
การระบายความร้อน
- แบบทึบ (Enclosed Type): เนื่องจากผนังปิดทึบอาจจำกัดการไหลเวียนของอากาศภายในราง ทำให้การระบายความร้อนอาจทำได้ไม่ดีเท่าแบบโปร่ง หากใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง การระบายความร้อนจะต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ
- แบบโปร่ง (Open Type): รางแบบโปร่งมีข้อดีในการระบายความร้อนที่ดีขึ้น เนื่องจากมีช่องว่างที่ช่วยให้อากาศไหลผ่านได้สะดวก การระบายความร้อนนี้ช่วยลดโอกาสที่สายไฟจะร้อนเกินไปและเสี่ยงต่อความเสียหายจากความร้อน
ตัวอย่างการใช้งาน cable chain steel
1. โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์: ใช้บนสายพานลำเลียงชิ้นส่วนรถยนต์ เพื่อป้องกันสายไฟที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุมและเซ็นเซอร์ต่างๆ จากการเสียดสี สึกหรอ และความร้อน ช่วยให้สายไฟเคลื่อนที่ไปพร้อมกับสายพานลำเลียงได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดปัญหาสายไฟพันกันหรือชำรุด ช่วยลด downtime ของสายการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และความปลอดภัยของพนักงาน
2. โรงงานผลิตเครื่องจักร CNC: ใช้บนเครื่องจักร CNC เพื่อป้องกันสายไฟที่เชื่อมต่อกับเครื่องมือตัดและระบบควบคุมจากการเสียดสี สึกหรอ และความร้อน ช่วยให้สายไฟเคลื่อนที่ไปพร้อมกับหัวกัดได้อย่างสะดวก โดยไม่เกิดปัญหาสายไฟพันกันหรือชำรุด ช่วยให้เครื่องจักร CNC ทำงานได้อย่างแม่นยำ เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต และยืดอายุการใช้งานของเครื่องจักร
3. หุ่นยนต์ในโรงงานประกอบ: ใช้บนหุ่นยนต์ เพื่อป้องกันสายไฟที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุม เซ็นเซอร์ และกล้องจากการเสียดสี สึกหรอ และความร้อน ช่วยให้สายไฟเคลื่อนที่ไปพร้อมกับการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์ได้อย่างสะดวก โดยไม่เกิดปัญหาสายไฟพันกันหรือชำรุด ช่วยให้หุ่นยนต์ทำงานได้อย่างราบรื่น ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ
ประโยชน์ของรางกระดูกงูเหล็กที่สามารถกำหนดขนาดและความยาวได้เอง
กำหนดขนาดและความยาวได้เองมีประโยชน์หลายประการ เช่น ช่วยให้สามารถปรับขนาดของรางให้เหมาะสมกับสายไฟหรือเคเบิ้ลที่ใช้งานจริง โดยไม่ต้องใช้ขนาดที่จำกัดจากมาตรฐาน ซึ่งทำให้สามารถจัดระเบียบสายไฟได้ดีขึ้นและลดการตึงเครียดจากการที่รางไม่พอดีกับขนาดของสายไฟ อีกทั้งยังช่วยลดการสูญเสียพื้นที่ในการติดตั้ง เนื่องจากสามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่มีจำกัดได้ การปรับความยาวได้เองยังช่วยให้การติดตั้งรวดเร็วขึ้น ประหยัดเวลาและลดค่าใช้จ่ายในการซื้อรางหลายๆ ขนาด นอกจากนี้ยังเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งานในแต่ละโครงการ อีกทั้งยังช่วยเสริมความทนทานของระบบเนื่องจากการเลือกขนาดและความยาวที่ถูกต้องช่วยป้องกันการสึกหรอจากการใช้งาน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนหรือมีแรงกระแทกสูง เพราะรางเหล็กมีความแข็งแรงและปลอดภัย
3 ประเภทหลัก แผ่นรองรับสายไฟ Supporting Plate
แผ่นรองรับสำหรับรางสายไฟ (Supporting Plate) มี 3 ประเภทหลัก ๆ ที่ใช้ในการติดตั้งรางสายไฟ ซึ่งช่วยให้การติดตั้งมีความมั่นคงและปลอดภัย ตามรายละเอียดดังนี้:
Supporting Plate (Frame Type) แผ่นรองรับประเภทนี้มีโครงสร้างเป็นกรอบที่แข็งแรง ทำจากวัสดุที่มีความทนทานสูง เช่น เหล็กหรือโลหะที่มีความคงทน เหมาะสำหรับงานติดตั้งรางสายไฟที่ต้องรับน้ำหนักมาก หรือในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนสูง เช่น ในโรงงานหรือเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหว
Supporting Plate (Split Type)แผ่นรองรับประเภทนี้สามารถแบ่งออกเป็นหลายส่วน ทำให้การติดตั้งสะดวกและยืดหยุ่นมากขึ้นใช้ในงานที่ต้องการการติดตั้งรางสายไฟที่มีความยาวมาก หรือในพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เช่น โครงการก่อสร้างขนาดใหญ่
Supporting Plate (Unitary Type) เป็นแผ่นรองรับสำหรับรางสายไฟที่มีลักษณะเป็นชิ้นเดียวและมีขนาดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการเหมือนกับประเภทอื่น ๆ ขนาดคงที่: การออกแบบให้มีขนาดที่กำหนดไว้ชัดเจนทำให้ไม่สามารถปรับขนาดให้เหมาะสมกับพื้นที่หรือความต้องการของงานได้
ราคารางกระดูกงูเหล็กจะแตกต่างกันตามหลายปัจจัย เช่น ขนาด, ความยาว, ประเภทของเหล็ก (เช่น เหล็กชุบสังกะสี หรือเหล็กชนิดอื่น ๆ) และลักษณะการออกแบบ (เช่น แบบทึบหรือโปร่ง) รวมถึงการปรับแต่งพิเศษที่อาจจำเป็นสำหรับแต่ละโครงการ โดยทั่วไปแล้วราคาจะคำนวณตามความยาวหรือปริมาณที่ใช้งานในแต่ละโครงการ เมื่อเลือกซื้อต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นเพื่อให้ได้กระดูกงูเหล็กที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับงบประมาณและความต้องการในการใช้งาน