สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
ท่อดูดควันอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้น เป็นท่อลมที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในระบบระบายอากาศและดูดควัน สามารถทนความร้อนได้สูงสุดถึง 150°C และมีความแข็งแรงสูง โครงสร้างฟอยล์อลูมิเนียม 3 ชั้นช่วยป้องกันการฉีกขาดและลดการรั่วไหลของอากาศภายในระบบ นอกจากนี้ ลวดเหล็กสปริงที่อยู่ภายในช่วยให้ท่อสามารถโค้งงอได้ง่ายและคืนรูปเดิมโดยไม่เสียหาย ท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในครัวเรือน ร้านอาหาร โรงงานอุตสาหกรรม และงานก่อสร้างที่ต้องการการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ ติดตั้งง่าย น้ำหนักเบา และมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับระบบระบายอากาศและการดูดควัน
หมวดหมู่สินค้า
จำหน่ายอุท่อลมอลูมิเนียมระบบระบายอากาศและดูดควัน การใช้งานท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม, ครัว, หรือการดูดควันในกระบวนการผลิตต่าง ๆ โดยการติดตั้งสามารถทำได้ง่ายเนื่องจากความยืดหยุ่นของท่อ การเลือกขนาดท่อควรพิจารณาจากการไหลของอากาศหรือควันและขนาดของพื้นที่ติดตั้ง เพื่อให้การระบายอากาศหรือการดูดควันมีประสิทธิภาพสูงสุด ขอใบเสนอราคา / สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ค่ะ!
ท่อดูดควันอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้นมีโครงสร้างเสริมด้วยลวดเหล็กสปริง ช่วยให้ท่อคงรูป ไม่เสียทรงแม้ใช้งานในระบบที่มีแรงดูดสูง อีกทั้งยังมีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิสูง สามารถรองรับอุณหภูมิได้ตั้งแต่ -30°C ถึง 150°C โดยไม่เกิดการละลายหรือเสียรูป นอกจากนี้ ท่อชนิดนี้ยังสามารถรองรับแรงดันลมสูงและป้องกันการรั่วซึมของควันหรืออากาศได้ดี เหมาะสำหรับระบบดูดควันในโรงงานอุตสาหกรรม งานครัวขนาดใหญ่ หรือระบบระบายอากาศที่ต้องการท่อที่มีความแข็งแรงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
คุณสมบัติที่ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างง่ายดายและสะดวก ด้วยความยืดหยุ่นที่สูงทำให้สามารถเข้าถึงพื้นที่ติดตั้งที่ยากหรือจำกัดได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์เสริมมากมาย ทั้งนี้ ท่อชนิดนี้ยังมีคุณสมบัติป้องกันการก่อตัวของเชื้อราและการสะสมของคราบน้ำมัน ซึ่งเป็นปัญหาหลักในการใช้งานในครัวและโรงงานการผลิตอาหาร ช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากการสะสมสิ่งสกปรกที่อาจทำให้ระบบทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อฟอยด์ ท่อส่งลม ร้อน เย็น ขนาด 2นิ้ว-24นิ้ว มีความยางมาตรฐาน 10 เมตร เหมาะสำหรับระบบระบายอากาศ ที่มีแรงดันระดับต่ำถึงสูง โครงสร้างทนต่อการฉีกขาดยืดหยุ่น มีแกนในที่เรียบเมื่อติดตั้งอย่างถูกต้องซึ่งมีการสูญเสียแรงเสียดทานต่ำ ต้านทานสูง สามารถทนต่อแรงกดอากาศปานกลาง ต้นทุนการดำเนินงานต่ำท่อบีบอัดช่วยลดต้นทุนการขนส่งและ การจัดเก็บ ไม่มีการรั่วไหลของอากาศ สปริงลวดเหล็กสปริงช่วยให้มั่นใจในความมั่นคงของมิติต่อต้านการละเมิดทางกลและให้การกระจายอากาศที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.
การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.
การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
ท่อดูดควันอลูมิเนียมได้รับความนิยมในระบบระบายอากาศและดูดควันเนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ท่ออลูมิเนียมมีความทนทานสูงต่ออุณหภูมิและแรงดัน ทำให้สามารถใช้งานในที่ที่มีความร้อนหรือควันพิษได้ดี นอกจากนี้ การออกแบบที่ยืดหยุ่นและการเคลือบฟอยล์ 3 ชั้นยังช่วยเพิ่มความทนทานต่อการฉีกขาดและแรงดันของอากาศ ทำให้ท่อมีอายุการใช้งานยาวนานและไม่เกิดการเสียรูปหรือรั่วซึมได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรมและพื้นที่ที่ต้องการการระบายควันหรืออากาศร้อนที่มีประสิทธิภาพ ท่อดูดควันอลูมิเนียมยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในด้านความทนทานต่อการขยายตัวและหดตัวจากการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการรั่วซึมหรือเสียหายเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ท่อเหล่านี้ยังมีน้ำหนักเบาและสะดวกในการติดตั้ง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดในการติดตั้ง
การเลือกขนาดท่ออลูมิเนียมฟอยล์ที่เหมาะสมกับงานระบายอากาศนั้นมีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา เพื่อให้การระบายอากาศทำได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยหลักการเลือกขนาดที่เหมาะสมมีดังนี้:
ปริมาณอากาศที่ต้องการระบาย (Airflow Volume): คำนึงถึงความสามารถในการระบายอากาศหรือปริมาณอากาศที่ต้องการไหลผ่านท่อ โดยปริมาณนี้มักจะวัดเป็น CFM (Cubic Feet per Minute) หรือ M3/h ซึ่งจะช่วยในการเลือกขนาดท่อที่สามารถรองรับการไหลของอากาศได้เพียงพอ.
ระยะทางการไหลของอากาศ (Duct Length): ยิ่งท่อมีระยะทางที่ยาวขึ้น จะมีแรงเสียดทานที่ทำให้การไหลของอากาศลดลง ดังนั้นต้องคำนึงถึงขนาดท่อที่สามารถรองรับแรงต้านทานได้ดี.
ความเร็วของอากาศ (Air Velocity): ควรคำนวณความเร็วของอากาศในท่อเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยการเลือกขนาดท่อที่ทำให้ความเร็วของอากาศไม่สูงเกินไป จะช่วยลดการเสียดทานและเสียงรบกวน.
การติดตั้งในพื้นที่ (Installation Location): พิจารณาขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งท่อ เช่น ถ้าท่อจะติดตั้งในพื้นที่แคบหรือมีข้อจำกัดในการติดตั้ง ควรเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมกับพื้นที่นั้นๆ.
การใช้งานที่ต้องทนทาน (Durability Requirement): การเลือกขนาดท่อที่สามารถทนทานต่ออุณหภูมิและการใช้งานที่ต้องการ เช่น ท่อที่ใช้ในงานที่มีการดูดควันหรือความร้อนสูงจะต้องเลือกขนาดท่อที่สามารถรองรับได้ดี.
มาตรฐานและข้อกำหนดการใช้งาน (Standards and Regulations): ตรวจสอบมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรฐานการระบายอากาศในอาคารหรืออุตสาหกรรมที่กำหนดขนาดท่อและปริมาณอากาศที่ต้องการ.
การคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้เลือกขนาดท่ออลูมิเนียมฟอยล์ที่เหมาะสมกับงานระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
| ขนาดท่อ (นิ้ว) | เส้นผ่านศูนย์กลาง (มม.) | ตัวอย่างการใช้งาน |
|---|---|---|
| 2 นิ้ว | 50.8 | ระบบระบายอากาศในพื้นที่ขนาดเล็ก, การระบายอากาศในครัวหรือห้องเครื่อง |
| 3 นิ้ว | 76.2 | การดูดควันในร้านอาหารขนาดเล็ก, ระบบระบายอากาศในสำนักงาน |
| 4 นิ้ว | 101.6 | การระบายอากาศในโรงงานขนาดกลาง, การดูดควันจากเครื่องจักรในโรงงาน |
| 5 นิ้ว | 127.0 | ระบบระบายอากาศในอุตสาหกรรม, การดูดควันในโรงงานอาหาร |
| 6 นิ้ว | 152.4 | การดูดควันในโรงงานขนาดใหญ่, ระบบระบายอากาศในอาคารพาณิชย์ |
| 8 นิ้ว | 203.2 | ระบบระบายอากาศในโรงงานขนาดใหญ่, การดูดควันในห้องอบหรือห้องทำความร้อน |
| 10 นิ้ว | 254.0 | ระบบระบายอากาศในโรงงานที่ใช้เครื่องจักรหนัก, การดูดควันในห้องปลอดสารเคมี |
| 12 นิ้ว | 304.8 | การระบายอากาศในพื้นที่ขนาดใหญ่, ระบบดูดควันในห้องอบหรือห้องผลิต |
| 14 นิ้ว | 355.6 | การระบายอากาศในอุตสาหกรรมหนัก, การดูดควันในโรงงานขนาดใหญ่ |
ท่ออลูมิเนียมฟอยล์สำหรับการระบายอากาศในห้องครัวและโรงงานอาหาร เป็นตัวเลือกที่ดีในการจัดการกับความร้อน, กลิ่น, ควัน, และมลพิษในอากาศที่เกิดจากกระบวนการปรุงอาหารหรือการผลิตอาหาร ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงและความชื้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการทำงานในห้องครัวและโรงงานอาหารที่ต้องมีการระบายอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ
คุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในห้องครัวและโรงงานอาหาร:
การออกแบบมาเพื่อความทนทานสูงและความยืดหยุ่นในหลายประเภทของการใช้งาน เช่น การระบายอากาศ การดูดควัน หรือการส่งผ่านอากาศร้อน ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการ ป้องกันการฉีกขาด ที่มักเกิดจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันสูง หรือการสัมผัสกับวัตถุที่มีคม ฟอยด์อลูมิเนียม 3 ชั้น ซึ่งทำให้ท่อมีความหนาและทนทานต่อแรงกระแทกและการขีดข่วนได้ดีกว่าท่อที่มีชั้นเดียว ความยืดหยุ่นสูง: การออกแบบที่ยืดหยุ่นช่วยให้ท่อสามารถรองรับการยืดและหดได้โดยไม่เกิดการฉีกขาด แม้ในระหว่างการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความยืดหยุ่นทนทานต่อแรงดัน: ท่อลมฟอยด์ 3 ชั้นสามารถทนต่อแรงดันอากาศสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งลดความเสี่ยงของการฉีกขาดจากแรงดันที่สูง ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: การมีหลายชั้นของวัสดุช่วยให้ท่อทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลันและความร้อนที่สูงโดยไม่เกิดการเสียรูปหรือการฉีกขาด
ท่อฟอยล์ที่มีความหนา 60 ไมครอนสามารถทนความร้อนได้ดี โดยทั่วไปสามารถทนความร้อนได้ถึง 150 องศาเซลเซียส ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ระบบระบายอากาศในโรงงานหรือการดูดควันในห้องครัว ท่อชนิดนี้ช่วยป้องกันการเปลี่ยนรูปหรือการฉีกขาดจากความร้อนที่สูงและยังมีความยืดหยุ่นสูงในการติดตั้งและการใช้งาน นอกจากนี้ยังสามารถทนทานต่อการขยายตัวและหดตัวจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย
คุณสมบัติในการทนต่อแรงดันและลมที่มีความเร็วสูงได้ดี ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในระบบที่มีการเคลื่อนไหวของอากาศหรือการดูดควันในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานต่ออุณหภูมิและแรงดันสูง การใช้ท่อฟอยล์ชนิดนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการรั่วไหลของอากาศและควันในระบบระบายอากาศ ทำให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานหนักหรือมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
วยเพิ่มความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง และสามารถทนต่อการขยายตัวและหดตัวของท่อได้โดยไม่เสียรูปหรือเกิดการรั่วซึม ทำให้ท่อเหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการระบายอากาศและดูดควันในโรงงานอุตสาหกรรมหรือห้องครัวที่มีอุณหภูมิและการเปลี่ยนแปลงอากาศที่สูง นอกจากนี้ โครงสร้าง 3 ชั้นของท่อช่วยเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันการฉีกขาดหรือการเสียหายจากการใช้งานในระยะยาว ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา
ท่อเฟล็กซ์ หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)
อธิบายสรุป ท่อดูดควันอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้น (3-Ply Aluminum Foil Ducting) เป็นท่อลมที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในระบบระบายอากาศและดูดควัน โดยมีโครงสร้าง 3 ชั้นที่ช่วยเพิ่มความทนทานต่อแรงดันและความร้อนสูง ท่อชนิดนี้มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถป้องกันการฉีกขาดได้ดีจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างฉับพลันและแรงดันอากาศสูง เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอาหาร ห้องครัว และอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการการระบายอากาศและดูดควันที่มีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งทนทานต่อการสัมผัสกับสารเคมีหรือสิ่งสกปรกต่างๆ
