สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

Category Archives: ท่อลม-category

ท่อลม หลายวัสดุ

ท่อลม หลากหลายวัสดุ

ท่อลม คือท่อที่ออกแบบมาเพื่อขนส่งอากาศ ควัน ฝุ่น หรือไอร้อนภายในระบบระบายอากาศและดูดควัน ทำหน้าที่เชื่อมต่อระหว่างพัดลมหรือเครื่องระบายอากาศกับจุดต่าง ๆ ของระบบ ช่วยให้การไหลเวียนของอากาศเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ ท่อระบายอากาศมีหลายวัสดุให้เลือก เช่น พลาสติก, อลูมิเนียม, ผ้าใบเคลือบ PVC และสแตนเลส

รายการสินค้า

ประเภทท่อลมควรพิจารณาจากลักษณะงาน

การเลือกใช้ท่อเฟล็กซ์ลมควรพิจารณา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ความยาว และความยืดหยุ่นของท่อ เพื่อให้เหมาะกับแรงดันลมและปริมาณอากาศที่ต้องการระบาย รวมถึง อุณหภูมิและความชื้นของสภาพแวดล้อม หากงานต้องรับไอร้อนหรือไอเคมี ควรเลือกท่อที่ทนความร้อนและสารเคมีได้ดี เช่น ท่อสแตนเลสหรืออลูมิเนียม นอกจากนี้ควรคำนึงถึง การติดตั้งและบำรุงรักษา ท่อที่น้ำหนักเบาและยืดหยุ่นง่ายจะติดตั้งสะดวกและปรับเปลี่ยนทิศทางได้ง่าย แต่หากเป็นงานหนักหรือมีแรงดันสูง ควรเลือกท่อที่แข็งแรงและมั่นคง เช่น ท่อสแตนเลสหรืออลูมิเนียมแบบเสริมความแข็งแรง เพื่อให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีอายุการใช้งานยาวนาน

  • ท่อพลาสติก เหมาะกับงานเบา ระบายอากาศทั่วไป น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย 
  • ท่ออลูมิเนียม มีความยืดหยุ่น ทนความร้อนและการกัดกร่อนเล็กน้อย ใช้ได้ทั้งงานระบายอากาศและดูดควันในครัวหรือโรงงาน
  • ท่อผ้าใบเคลือบ PVC มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการหักงอและแรงดึง เหมาะกับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยหรือพื้นที่จำกัด
  • ท่อสแตนเลส ทนความร้อนสูง ทนสารเคมี และมีอายุการใช้งานยาวนาน เหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก

ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด

ท่อสแตนเลสลม
ตัวอย่างท่อลม
ลมคอลลูเกตท่อ
อลูมิเนียมฟอยล์ท่อลม

ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด

ตู้เก็บของสแตนเลส
เชื่อมหูตู้ไฟฟ้าสแตนเลส
ประตู-1-ชั้นสแตนเลสตู้

การเลือกใช้ท่อลมในระบบระบายอากาศ

ควรเริ่มจากการพิจารณาลักษณะงานและสภาพแวดล้อมที่ท่อจะถูกติดตั้ง งานแต่ละประเภทมีความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น งานระบายอากาศทั่วไปในโรงงานอุตสาหกรรมเบาอาจใช้ท่อพลาสติกที่น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย แต่ไม่เหมาะกับงานที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีสารเคมีกัดกร่อน วัสดุของท่อมีผลต่อประสิทธิภาพและอายุการใช้งานอย่างมาก ท่ออลูมิเนียมมีความยืดหยุ่นและทนความร้อนเล็กน้อย เหมาะกับงานที่ต้องการการโค้งงอหลายจุดหรือพื้นที่ติดตั้งจำกัด ขณะที่ท่อสแตนเลสมีความแข็งแรง ทนต่ออุณหภูมิสูงและสารเคมี จึงเหมาะกับงานอุตสาหกรรมหนัก ห้องครัวเชิงพาณิชย์ หรือระบบดูดควันที่มีไอร้อนและไขมัน

ท่อผ้าใบเคลือบ PVC มีจุดเด่นด้านความยืดหยุ่นสูง น้ำหนักเบา และทนต่อแรงดึง จึงเหมาะกับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อยหรือพื้นที่จำกัด ข้อดีคือสามารถปรับเปลี่ยนทิศทางได้ง่าย แต่ต้องระวังเรื่องอุณหภูมิสูงเกินกว่าที่วัสดุรองรับ เพราะอาจทำให้ผ้าใบเสียรูปหรือหลุดลุ่ย

ขนาดของท่อก็เป็นปัจจัยสำคัญ ต้องเลือกเส้นผ่านศูนย์กลางและความยาวให้เหมาะสมกับแรงดันลมและปริมาณอากาศที่ต้องการลำเลียง หากท่อมีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้แรงดันลดและประสิทธิภาพการระบายอากาศต่ำ ในขณะที่ท่อใหญ่เกินไปอาจสิ้นเปลืองพื้นที่และวัสดุโดยไม่จำเป็น

การติดตั้งและบำรุงรักษาเป็นอีกประเด็นที่ต้องพิจารณา ท่อที่น้ำหนักเบาและยืดหยุ่นจะติดตั้งง่ายและปรับเปลี่ยนทิศทางได้สะดวก ส่วนท่อหนักหรือแข็งแรงเช่นสแตนเลส อาจต้องการอุปกรณ์เสริมในการยึดและรองรับแรงดัน เพื่อป้องกันการเสียรูปหรือหลุดจากตำแหน่ง

การเลือกท่อระบายอากาศควรพิจารณาความทนทานต่อสภาพแวดล้อมระยะยาว เช่น ท่อที่ติดตั้งภายนอกอาคารควรทนต่อรังสี UV ความชื้น และฝน ท่อสแตนเลสและอลูมิเนียมมีคุณสมบัตินี้ดี ทำให้ไม่เกิดสนิมหรือผุกร่อนง่าย ส่วนท่อผ้าใบเคลือบ PVC ควรเลือกชนิดที่เคลือบสารป้องกันรังสี UV เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การออกแบบเส้นทางเฟล็กซ์ลมก็สำคัญ การวางแนวท่อให้สั้นที่สุด ลดการโค้งงอเกินจำเป็น จะช่วยให้แรงดันลมคงที่และประสิทธิภาพการระบายอากาศสูงขึ้น ท่อที่มีรอยโค้งมากหรือความยาวเกินจำเป็นจะทำให้แรงต้านลมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้พัดลมทำงานหนักและสิ้นเปลืองพลังงาน

ระบบท่อที่ดีควรมีจุดตรวจสอบและบำรุงรักษา เช่น ช่องเข้าถึงเพื่อล้างฝุ่นหรือไขมันในท่อ ท่อที่ทำความสะอาดง่ายจะช่วยลดปัญหาการอุดตันและคงประสิทธิภาพการระบายอากาศ นอกจากนี้การเชื่อมต่อระหว่างท่อและอุปกรณ์ต้องแน่นหนาเพื่อป้องกันการรั่วของอากาศ

วิธีเลือกขนาดท่อลมให้เหมาะสมกับแรงดันลม

การเลือกขนาดท่อลมเป็นขั้นตอนสำคัญในการออกแบบระบบระบายอากาศหรือดูดควัน เพราะขนาดท่อที่เหมาะสมช่วยให้แรงดันลมคงที่ และอัตราการไหลของอากาศเป็นไปตามที่ต้องการ ทำให้ระบบทำงานเต็มประสิทธิภาพ ไม่สิ้นเปลืองพลังงาน และลดปัญหาการสั่นสะเทือนหรือเสียงรบกวน ประเมินปริมาณอากาศที่ต้องการ (Airflow Volume) เริ่มจากการคำนวณปริมาณอากาศที่ต้องการลำเลียงต่อชั่วโมงหรือวินาที (เช่น CFM – Cubic Feet per Minute หรือ m³/h) ข้อมูลนี้จะเป็นตัวกำหนดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อเบื้องต้น

  • พิจารณาแรงดันลม (Air Pressure) แรงดันลมที่ระบบต้องการส่งผ่านท่อมีผลต่อการเลือกขนาด หากท่อเล็กเกินไป จะทำให้แรงต้านลมสูง พัดลมต้องทำงานหนัก เสี่ยงต่อการเสียหายหรืออายุการใช้งานสั้นลง
  • คำนวณขนาดท่อ (Duct Sizing Calculation) ใช้สูตรหรือตารางมาตรฐานในการเลือกเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ โดยอิงจากปริมาณอากาศและแรงดันลม เช่น ท่อกลมจะมีขนาดต่างจากท่อสี่เหลี่ยมในอัตราการไหลเท่ากัน
  • พิจารณาความยาวและจำนวนโค้งของท่อ ท่อที่ยาวหรือมีโค้งมาก จะเพิ่มแรงต้านลม ดังนั้นในบางกรณีอาจต้องเพิ่มขนาดท่อเพื่อชดเชยแรงต้านและรักษาอัตราการไหลให้เหมาะสม
  • เลือกวัสดุท่อให้เหมาะกับงาน วัสดุของท่อมีผลต่อแรงเสียดทานภายใน เช่น ท่อสแตนเลสมีผิวเรียบ ลดแรงต้านลม ท่อผ้าใบอาจมีแรงเสียดทานสูงกว่า การเลือกวัสดุที่เหมาะสมช่วยให้การคำนวณขนาดท่อมีความแม่นยำ
  • ตรวจสอบและปรับขนาดตามมาตรฐาน หลังจากคำนวณแล้ว ควรตรวจสอบตามตารางมาตรฐานหรือคู่มือการออกแบบ HVAC เพื่อให้แน่ใจว่าขนาดท่อที่เลือกสามารถรองรับอัตราการไหลและแรงดันลมได้จริง

การบำรุงรักษาท่อลมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ระบบระบายอากาศหรือดูดควันทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และลดปัญหาการอุดตัน ฝุ่น ไขมัน หรือสิ่งสกปรกสะสมภายในท่อ ซึ่งหากไม่ดูแล อาจทำให้แรงดันลมลดลง พัดลมทำงานหนัก เสียงดัง และอายุการใช้งานของระบบสั้นลง

1. ตรวจสอบท่อเป็นประจำ
ควรตรวจสอบสภาพท่ออย่างสม่ำเสมอ ทั้งรอยรั่ว รอยแตก หรือการเสียรูป โดยเฉพาะจุดเชื่อมต่อกับพัดลมหรืออุปกรณ์อื่น ๆ การตรวจสอบปัญหาเล็ก ๆ ก่อนจะช่วยป้องกันปัญหาใหญ่และลดค่าใช้จ่ายในการซ่อม

2. ทำความสะอาดท่ออย่างสม่ำเสมอ
ท่อที่ใช้ในห้องครัวหรือพื้นที่มีฝุ่นมาก ควรล้างทำความสะอาดเพื่อลดการสะสมของไขมัน ฝุ่น หรือคราบสกปรก อาจใช้เครื่องดูดฝุ่นพิเศษ แปรง หรืออุปกรณ์ทำความสะอาดท่อที่เหมาะสมตามประเภทวัสดุของท่อ เช่น ท่อสแตนเลสสามารถล้างด้วยน้ำยาทำความสะอาดอ่อน ๆ

3. ตรวจสอบแรงดันลมและอัตราการไหล
การวัดแรงดันลมและอัตราการไหลเป็นระยะช่วยให้ทราบว่าท่อมีการอุดตันหรือไม่ หากพบว่าการไหลของอากาศลดลง ควรทำความสะอาดหรือปรับปรุงระบบทันที

สรุปการใช้งานและการบำรุงรักษา

การเลือกใช้ท่อลมที่เหมาะสมจะช่วยให้ ระบบระบายอากาศหรือดูดควันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และยืดอายุการใช้งาน ของอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในระบบ การพิจารณาวัสดุ ขนาด ความยืดหยุ่น การติดตั้ง การบำรุงรักษา และสภาพแวดล้อมรอบตัวท่อร่วมกัน จึงเป็นกุญแจสำคัญในการออกแบบระบบท่อระบายอากาศที่ครบวงจรและตอบโจทย์การใช้งานทุกประเภท การบำรุงรักษา: ท่อควรมีจุดเข้าถึงสำหรับตรวจสอบและทำความสะอาด เช่น ล้างฝุ่น ไขมัน หรือสิ่งอุดตัน ท่อที่ทำความสะอาดง่ายจะช่วยคงประสิทธิภาพการระบายอากาศ ลดการสึกหรอ และยืดอายุการใช้งานของระบบ

 
 
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA

ท่อร้อยสายไฟ ผลิตจากโพลิเอไมด์ PA6 ซึ่งให้ความทนทานเชิงกลสูงและคงรูปได้ดี แม้ต้องรับแรงดึงหรือแรงกดซ้ำ ๆ วัสดุชนิดนี้ทนความร้อนได้ดีกว่า PE อย่างชัดเจน (โดยทั่วไปใช้งานได้ในช่วงอุณหภูมิประมาณ −40°C ถึง +115°C ขึ้นกับเกรดและการเติมสารเสริม)

ท่อลมแอร์อลูมิเนียม

ท่อส่งลมหรือท่อระบายอากาศที่ผลิตจากวัสดุฟอยล์อลูมิเนียมคุณภาพสูง ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อใช้ในระบบเครื่องปรับอากาศ (Air Duct System) และระบบระบายอากาศทั่วไป โครงสร้างของท่อมักประกอบด้วยหลายชั้น เช่น ฟอยล์อลูมิเนียมชั้นนอก ลวดสปริงเหล็กเสริมโครงภายใน

ท่อลมแอร์ผ้าใบเคลือบ PVC (กันไฟลาม)

ท่อส่งลมที่ได้รับความนิยมสูงในงานระบบปรับอากาศ (HVAC) ทั้งในอาคาร โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ที่ต้องการการระบายอากาศต่อเนื่อง จุดเด่นของท่อชนิดนี้คือ การเคลือบผิวด้วยสาร PVC คุณภาพสูง ที่มีคุณสมบัติ “กันไฟลาม” ท่อจะไม่ติดไฟง่ายและไม่ลุกลาม

ท่อลมผ้าใบเคลือบ PVC (สีฟ้า)

ท่อผ้าใบเคลือบ PVC (สีฟ้า) คือท่อยืดหยุ่นสำหรับงานส่งลมหรือดูดลม ผลิตจาก ผ้าใบทาร์โพลีน (Tarpaulin) เคลือบด้วย PVC คุณภาพสูง ทั้งด้านในและด้านนอก เพื่อเพิ่มความทนทานและป้องกันการรั่วซึม เสริมด้วย ขดลวดสปริงเหล็กภายใน ทำให้ท่อเฟล็กซ์สามารถโค้งงอ

ท่อลมเหล็กกัลวาไนซ์

ท่ออ่อนส่งลมหรือดูดอากาศที่ผลิตจาก เหล็กชุบกัลวาไนซ์ (Galvanized Steel) ผ่านกระบวนการขึ้นรูปแบบ เกลียวลอน Interlock ซึ่งพับขอบท่อให้สอดและล็อกเข้าหากันแน่น ทำให้ท่อมีความแข็งแรงสูงและป้องกันการรั่วซึมของอากาศได้ดีเยี่ยม ระบายอากาศ ดูดควัน

ท่อลมสแตนเลส

ท่อเฟล็กซ์สแตนเลสเป็นท่อโลหะยืดหยุ่น ทำจากแผ่นสแตนเลสเกรดคุณภาพสูง SS304 ขึ้นรูปเป็นลอนต่อเนื่องและเสริมโครงสร้างให้สามารถโค้งงอได้ตามต้องการ โครงสร้างลอนช่วยให้ท่อทนแรงดันลมและแรงดึงได้ดี พร้อมทั้งลดโอกาสการยุบตัวเมื่อใช้งานในระบบแรงดันลมต่ำถึงปานกลาง

ท่อลมหุ้มฉนวนใยแก้ว 16K

ท่อลมยืดหยุ่นที่ถูกออกแบบให้มีชั้นฉนวนใยแก้วความหนาแน่นสูง (16–24 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) หุ้มรอบท่ออลูมิเนียมหรือท่อฟอยล์ภายใน เพื่อช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการส่งลมเย็นหรืออากาศปรับอุณหภูมิในระบบปรับอากาศ (HVAC) ฉนวนใยแก้วหนา 1 นิ้ว

ท่อลมอลูมิเนียม (กึ่งแข็ง)

Semi-Rigid Aluminum Duct เป็นท่อส่งอากาศที่ผลิตจากอะลูมิเนียมคุณภาพสูง มีลักษณะโครงสร้างเป็นวงแหวนสปริงเล็กๆ ทำให้ท่อมีความกึ่งแข็ง สามารถคงรูปได้ดีและยืดหยุ่นพอที่จะโค้งงอหรือปรับตามมุมของพื้นที่ติดตั้ง ท่อชนิดนี้น้ำหนักเบา ทำให้สะดวกต่อการตัด ขนย้าย และติดตั้ง

ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์

ท่อระบายอากาศที่ผลิตจากฟอยล์อลูมิเนียมบริสุทธิ์คุณภาพสูง ถูกออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งหรือยืดหดได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับใช้ในระบบระบายอากาศ เครื่องปรับอากาศ เครื่องดูดควัน และงานดูดหรือเป่าลมทั่วไป โครงสร้างของท่อมักประกอบด้วยหลายชั้น

ท่ออ่อนอลูมิเนียม 4 นิ้ว

ท่ออ่อนแบบยืดหดได้ (Flexible Duct) ผลิตจาก อลูมิเนียมฟอยล์หลายชั้น เสริมความแข็งแรงด้วยโครงลวดสปริงด้านใน ทำให้สามารถบิดงอและยืดหดได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับงานระบบปรับอากาศ (HVAC) การระบายอากาศ ดูดควัน หรือส่งลมเย็นในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดเรื่องการติดตั้ง