
สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
ท่อ Corrugated (Posttensioned Duct) คือท่อเหล็กเคลือบสังกะสีที่มีลักษณะเป็นลูกฟูกตลอดแนว ซึ่งออกแบบมาเฉพาะสำหรับงานโครงสร้างคอนกรีตอัดแรง (Post-Tensioned Concrete) โดยเฉพาะ จุดเด่นของท่อนี้อยู่ที่ตะเข็บแบบ Double Seam ซึ่งเป็นเกลียวยาวและแข็งแรง ช่วยให้คอนกรีตสามารถยึดเกาะได้แน่นยิ่งขึ้น เพิ่มความมั่นคงให้กับโครงสร้าง
ใช้เป็นทางเดินของลวดเหล็กหรือสายเคเบิลแรงดึง (Tendon) ภายในระบบคอนกรีตอัดแรง เมื่อลวดถูกดึงและยึดไว้ จะถ่ายแรงให้กับคอนกรีต ทำให้รับน้ำหนักได้มากขึ้น ทนต่อแรงดัดงอ และลดการแตกร้าว ประเภทของท่อคอลลูเกต แบ่งได้ 2 แบบหลัก: แบบทรงกลม (Corrugated Round Duct) – ใช้ในงานทั่วไป เหมาะกับพื้นที่ที่มีช่องว่างมาก แบบทรงแบน (Corrugated Flat Oval Duct) – เหมาะกับงานพื้นคอนกรีตบางหรืองานที่มีข้อจำกัดด้านความสูง
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape): ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper): เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
1. เตรียมแบบเหล็กเสริมและตำแหน่งท่อ
2. ยึดและต่อท่อให้มั่นคง
3. ใส่ลวดอัดแรง (Tendon) ภายในท่อ ก่อนหรือหลังการเทคอนกรีต สามารถใส่ลวด PC Strand เข้าไปในท่อได้ โดยต้องแน่ใจว่าเส้นลวดไม่ติดขัด
4. เทคอนกรีตรอบท่อ เทคอนกรีตโดยระวังไม่ให้ท่อเคลื่อนหรือเสียรูป เมื่อลวดอยู่ในตำแหน่งและคอนกรีตแข็งตัวแล้ว ท่อจะถูกฝังอยู่ภายในเนื้อคอนกรีต
5. ดึงลวดอัดแรง (Post-Tensioning)
| ขั้นตอน | รายละเอียด | วัตถุประสงค์/ผลลัพธ์ |
|---|---|---|
| 1. เตรียมและวางท่อ | วางท่อคอลลูเกต ตามแนวสายอัดแรง บนเหล็กเสริมโดยใช้ลวดผูกหรือ Spacer รองไว้ให้มั่นคง | วางแนวเส้นลวดอัดแรงตามแบบเพื่อเตรียมการเทคอนกรีต |
| 2. เชื่อมต่อท่อ | ต่อท่อด้วย Coupler หรือปลอกต่อแบบพิเศษ เพื่อให้แนวท่อต่อเนื่องและไม่รั่ว | ป้องกันการรั่วซึมของปูนเกราท์ และให้ท่อมีความต่อเนื่องตลอดแนว |
| 3. ใส่ลวดอัดแรง (Tendon) | ใส่ลวดเหล็ก PC Strand เข้าไปในท่อ (ทำได้ก่อนหรือหลังเทคอนกรีต) | ให้ลวดอยู่ในแนวพร้อมสำหรับการดึงในภายหลัง |
| 4. เทคอนกรีต | เทคอนกรีตรอบท่อ โดยระวังไม่ให้ท่อเคลื่อนหรือยุบตัว | ฝังท่อไว้ในโครงสร้าง และเตรียมพื้นฐานให้ระบบพร้อมรับแรง |
| 5. ดึงลวดอัดแรง (Stressing) | ใช้แม่แรงดึงปลายลวดให้ตึงตามค่าที่วิศวกรกำหนด | ถ่ายแรงไปยังโครงสร้างคอนกรีต ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและลดการแตกร้าว |
| 6. ฉีดปูนเกราท์ (Grouting) | ฉีดปูนเกราท์เข้าไปในท่อให้เต็มทั่วแนวเพื่อยึดลวดและป้องกันสนิม | เพิ่มความยึดเหนี่ยว ป้องกันการกัดกร่อน และเสริมความปลอดภัยระยะยาว |
Corrugated Duct ในระบบ Post-Tensioned มีบทบาทสำคัญในการรองรับและเป็นแนวทางให้กับลวดอัดแรง (Tendon) ภายในโครงสร้างคอนกรีต ซึ่งระบบนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของโครงสร้าง ทำให้สามารถรับน้ำหนักและทนต่อแรงดัดโค้งได้ดีกว่าคอนกรีตทั่วไป ท่อเหล็กลูกฟูกเคลือบสังกะสี มีลักษณะย่นเป็นคลื่นตลอดแนว มีตะเข็บต่อแบบ Double Seam Spiral ที่แข็งแรง ใช้เป็น ทางเดินของลวดเหล็กอัดแรง (PC Strand) ภายในพื้น, คาน หรือโครงสร้างสะพาน เมื่อทำการดึงลวดอัดแรงภายหลัง (Post-Tensioning) ท่อนี้จะถูกฝังอยู่ภายในคอนกรีตตลอดอายุการใช้งาน
1. การวางท่อ
2. การต่อท่อ
3. การเทคอนกรีตรอบท่อ
4. การใส่ลวดแรงดึง (Tendon)
5. การดึงลวดอัดแรง (Stressing)
การติดตั้งท่อในโครงสร้าง ก่อนเริ่มงาน ต้องวางท่อให้ตรงตามแนวลวดแรงดึงที่ออกแบบไว้ โดยจะวางอยู่บนเหล็กเสริมและยึดด้วยลวดผูกหรืออุปกรณ์รองรับ (Spacer) เพื่อไม่ให้เคลื่อนระหว่างการเทคอนกรีต หากความยาวไม่พอสามารถต่อท่อด้วย Coupler โดยต้องให้แน่นสนิท ไม่มีช่องรั่ว ป้องกันการสูญเสียของปูนเกราท์ในขั้นตอนต่อไป
การเทคอนกรีตรอบท่อ เมื่อวางท่อเสร็จเรียบร้อย จะทำการเทคอนกรีตให้ครอบคลุมท่อทั้งหมด ท่อจะฝังอยู่ภายในโครงสร้าง ซึ่งต้องระวังไม่ให้ท่อเคลื่อนหรือยุบตัว เพราะจะส่งผลต่อแนวเส้นลวดที่ต้องร้อยภายหลัง และอาจทำให้ไม่สามารถดึงลวดได้ตามแผนวิศวกรรม
การร้อยลวดอัดแรง หลังจากคอนกรีตแข็งตัว จะทำการใส่ลวดอัดแรง PC Strand เข้าไปในท่อคอลลูเกต ซึ่งสามารถทำได้ทั้งก่อนและหลังเทคอนกรีต ขึ้นอยู่กับระบบและวิธีการออกแบบ ลวดจะต้องสามารถเลื่อนผ่านท่อได้อย่างอิสระโดยไม่ติดขัด เพื่อให้สามารถดึงให้ตึงในขั้นตอนต่อไป
การดึงลวดแรงดึง (Stressing) เมื่อร้อยลวดเสร็จแล้ว จะใช้แม่แรงดึงลวดให้ตึงจากทั้งสองด้านของโครงสร้าง การดึงนี้จะสร้างแรงอัดกลับเข้าไปในคอนกรีต ช่วยลดการแตกร้าวและเพิ่มความสามารถในการรับน้ำหนัก จุดยึดที่ปลายลวดจะถ่ายแรงเข้าสู่คอนกรีตผ่านท่อที่อยู่ภายในโครงสร้าง
การฉีดปูนเกราท์และปิดท้ายระบบ ขั้นตอนสุดท้ายคือการฉีดปูนเกราท์เข้าไปในท่อ เพื่อเติมช่องว่างระหว่างลวดกับท่อให้แน่นสนิท ปูนเกราท์จะช่วยป้องกันสนิม เพิ่มการยึดเกาะ และยืดอายุการใช้งานของลวดอัดแรง ที่มีลอนและรอยต่อแน่นหนาจะช่วยให้ปูนกระจายตัวได้ดี ไม่รั่วซึม ทำให้ระบบ Post-Tensioned มีความสมบูรณ์และปลอดภัยในระยะยาว
สำหรับงานระบบ Post-Tensioned Concrete หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ วัสดุที่ใช้ผลิตท่อ ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออายุการใช้งาน ความแข็งแรง และต้นทุนของโครงการ โดยวัสดุยอดนิยมที่ใช้อย่างแพร่หลายคือ เหล็กชุบสังกะสี (Galvanized Steel) และ สแตนเลส (Stainless Steel) ทั้งสองแบบมีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกัน บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดเจนว่าควรเลือกแบบใดให้เหมาะกับงานของคุณ
🔧 1. ความแข็งแรงทางกล
🌧️ 2. ความทนทานต่อการกัดกร่อน
💰 3. ต้นทุนวัสดุ