สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

ท่อระบายอากาศ
ท่อดูดฝุ่น Air duct

ท่อระบายอากาศและท่อดูดฝุ่น คือท่อลมที่ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการลำเลียงอากาศ ฝุ่นละออง หรือเศษวัสดุต่างๆ ในระบบอุตสาหกรรมและในบ้านเรือน ผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น PVC, สแตนเลส, ผ้าใบ, หรือเหล็ก เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกัน เช่น การดูดฝุ่น การระบายความร้อน หรือการจัดการไอเสีย คุณสมบัติที่สำคัญของท่อเหล่านี้คือความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และความทนทานต่อการเสียดสีและแรงดัน นิยมใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ระบบปรับอากาศ หรืออุปกรณ์ทำความสะอาด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดฝุ่นละอองในอากาศ

"ท่อระบายอากาศ ท่อดูดฝุ่น | Air duct "

จำหน่ายท่อระบายอากาศ ท่อดูดฝุ่น และท่อเฟล็กซ์คุณภาพสูง

เราคือผู้จัดจำหน่ายท่อลมระบายอากาศ ท่อดูดฝุ่น และท่อเฟล็กซ์ที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการในงานระบบระบายอากาศและจัดการฝุ่นละออง ท่อของเราผลิตจากวัสดุคุณภาพ เช่น PVC, PU, และอลูมิเนียม เพื่อความแข็งแรง ทนทาน และยืดหยุ่นสูง มีหลากหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ท่อขนาดเล็กสำหรับการใช้งานในครัวเรือน ไปจนถึงท่ออุตสาหกรรมที่รองรับการใช้งานหนัก เหมาะสำหรับระบบปรับอากาศ ดูดฝุ่น ลำเลียงวัสดุ หรือการระบายความร้อนในโรงงาน เรามุ่งเน้นการส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน พร้อมบริการหลังการขายที่คุณวางใจได้ ท่อที่เราจำหน่ายยังมีคุณสมบัติเด่นในด้านการทนต่อแรงดันและอุณหภูมิที่หลากหลาย รองรับการใช้งานในทุกสภาวะแวดล้อม

สินค้าจัดรายการ🖱️

ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์ หนา 3 ชั้น ขนาด 4 นิ้ว (10 เมตร/กล่อง)

SKU: 5804

ส่วนลดพิเศษ

สอบถาม (……) ฿   ราคาปกติ 640 ฿
  • สามารถใช้งานได้ในอุณหภูมิระหว่าง -40°C ถึง 120°C 
  • ผลิตจากแผ่นฟอยล์อลูมิเนียม 3 ชั้น หนา 60 ไมครอน เคลือบลามิเนต กลียวลวดเหล็กแรงดึงสูง
  • ท่อส่งลม ร้อน เย็น ขนาด 2นิ้ว-24นิ้ว มีความยางมาตรฐาน 10 เมตร หมาะสำหรับระบบระบายอากาศ ที่มีแรงดันระดับต่ำถึงสูง

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

เลือกท่อระบายอากาศและท่อดูดฝุ่นที่ใช่สำหรับงานของคุณ

การเลือกท่อระบายอากาศและท่อดูดฝุ่นที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศและการจัดการฝุ่นในงานอุตสาหกรรมหรือในครัวเรือน ท่อที่ดีควรมีคุณสมบัติที่แข็งแรง ทนต่อการเสียดสีและแรงดัน ใช้ได้ทั้งการลำเลียงอากาศ ดูดฝุ่น หรือการระบายควัน นอกจากนี้ ควรเลือกขนาดและวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ท่อเฟล็กซ์ที่ยืดหยุ่น ท่ออลูมิเนียมฟอยล์ที่ป้องกันความร้อน หรือท่อพลาสติกที่น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย การเลือกท่อที่เหมาะสมจะช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษา เพิ่มความปลอดภัย และยืดอายุการใช้งานของระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  • เลือกท่อที่มีความทนทานสูง การเลือกท่อลมระบายอากาศและท่อดูดฝุ่นที่ทนทานต่อการเสียดสีและการกระแทกจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ท่อที่ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น อลูมิเนียมฟอยล์หรือพลาสติกเกรดพรีเมี่ยม จะช่วยลดการเสื่อมสภาพจากการใช้งานหนักและยืดอายุการใช้งานของท่อ

  • เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน ขนาดท่อต้องสอดคล้องกับการไหลของอากาศหรือการดูดฝุ่นในระบบ หากขนาดท่อไม่ตรงกับความต้องการ อาจส่งผลให้ระบบมีประสิทธิภาพต่ำ หรือเกิดการอุดตันจากการใช้ท่อที่มีขนาดเล็กเกินไป ควรเลือกขนาดที่สามารถรองรับการไหลของอากาศหรือฝุ่นได้อย่างเหมาะสม

  • เลือกวัสดุที่เหมาะสมตามการใช้งาน วัสดุของท่อต้องเลือกให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น ท่อที่ทนต่อความร้อนหรือท่อที่ทนต่อการกัดกร่อน สำหรับการใช้งานในครัวหรือโรงงานที่มีอุณหภูมิสูงหรือสารเคมีอาจต้องใช้ท่อที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ท่อหุ้มฉนวนหรือท่อเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อน

  • การติดตั้งและการบำรุงรักษา การติดตั้งท่อลมควรทำให้สะดวกและปลอดภัย โดยเลือกท่อที่มีน้ำหนักเบาและยืดหยุ่น เพื่อความสะดวกในการติดตั้งและการปรับแต่งในพื้นที่จำกัด หลังจากติดตั้งแล้ว ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบท่อเป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการอุดตัน หรือการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน

หมวด สินค้าใกล้เคียง

ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์

ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

การพิจารณาเลือกวัสดุท่อ Flexible Air Duct

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมควรพิจารณาความต้องการและเงื่อนไขการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดทั้งในด้านประสิทธิภาพ การพิจารณาความต้องการที่แตกต่างกัน เช่น ความต้องการในการทนทานต่อสภาพแวดล้อม เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้งานร่วมกับท่อ เงื่อนไขการใช้งาน เช่น อุณหภูมิและความดันของสารที่ไหลผ่านท่อ และประสิทธิภาพที่ต้องการ เป็นต้น จะช่วยให้คุณทำการเลือกได้อย่างมีเหตุผลและเหมาะสมกับการใช้งาน

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.

  • การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
    เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.

  • การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
    หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้

เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.

ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมจากการเคลือบผิว

คุณสมบัติทนทานต่อสภาพแวดล้อมถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความท้าทายสูง เช่น กลางแจ้ง โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่ที่มีสารเคมีรุนแรง โดยใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงและการป้องกันพิเศษ วัสดุที่ใช้มักเป็น PVC เคลือบพิเศษ ซึ่งสามารถทนต่อแสงแดดและรังสียูวีได้ดี ลดปัญหาการกรอบแตกเมื่อใช้งานในระยะยาว ในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหรือสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ท่อที่มีโครงสร้างเสริมแรงด้วยลวดสปริงจะช่วยเพิ่มความแข็งแรงและรักษารูปทรงของท่อ สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เช่น โรงงานที่มีการระบายความร้อนหรือความร้อนสูง ควรเลือกใช้วัสดุที่ทนต่อความร้อน เช่น ไฟเบอร์กลาส ในกรณีที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ท่อที่ผลิตจากผ้าเคลือบ PVC สามารถรองรับการบิดงอและติดตั้งในพื้นที่แคบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ท่อโลหะ เช่น อลูมิเนียม ยังเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแข็งแรงและการป้องกันการกระแทก การเลือกท่อ flex ที่มีคุณสมบัติเหล่านี้ช่วยให้ใช้งานได้อย่างมั่นใจในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย พร้อมลดความเสี่ยงต่อการเสียหายและยืดอายุการใช้งานในระยะยาว.

การเลือกท่อระบายอากาศ ท่อดูดฝุ่นที่ใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ

ท่อเฟล็กซ์ช่วยในการระบายอากาศในการปรับองศาหรือโค้งงอ

ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ

การพิจารณาเลือกวัสดุท่อระบายอากาศ ท่อดูดฝุ่น​

การพิจารณาเลือกวัสดุท่อป็นขั้นตอนที่สำคัญในการสร้างระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้ท่อสามารถทำงานได้ตามที่คาดหวังและทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว ดังนี้คือปัจจัยที่ควรพิจารณา:
  • ความทนทานและความแข็งแรง วัสดุที่เลือกควรมีความทนทานสูงต่อการเสียดสีและการกระแทก เช่น ท่อที่ทำจากอลูมิเนียมฟอยล์หรือพลาสติกแข็งแรง เพื่อรองรับแรงดันหรือแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นในระบบระบายอากาศ

  • ทนต่อการกัดกร่อนและสารเคมี หากระบบระบายอากาศใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง วัสดุของท่อควรมีคุณสมบัติกันการกัดกร่อน เช่น ท่อที่มีการเคลือบสารป้องกันการกัดกร่อน หรือท่อที่ทนทานต่อความชื้นได้

  • การทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำวัสดุของท่อควรทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี หากใช้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำมาก เช่น ห้องเครื่องจักรหรือห้องครัว ควรเลือกวัสดุที่มีความสามารถทนความร้อนได้สูง หรือทนความเย็นได้ดี

-

  • ความยืดหยุ่นและการติดตั้งง่าย ท่อที่มีความยืดหยุ่นสูง เช่น ท่อเฟล็กซ์ จะช่วยให้การติดตั้งทำได้ง่าย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนที่หรือพื้นที่จำกัด การเลือกวัสดุที่สามารถดัดงอและติดตั้งได้สะดวกจะช่วยลดเวลาการติดตั้งและค่าใช้จ่าย

  • ประสิทธิภาพในการระบายอากาศ วัสดุท่อควรมีการออกแบบที่สามารถรองรับการไหลของอากาศได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการระบายอากาศในอาคารหรือระบบปรับอากาศที่ต้องการการไหลของอากาศที่สม่ำเสมอและไม่เกิดการอุดตัน

  • ราคาคุ้มค่าและการบำรุงรักษา ต้องพิจารณาด้วยว่าเลือกวัสดุที่มีราคาคุ้มค่ากับการใช้งานและการบำรุงรักษา ควรเลือกวัสดุที่ไม่เพียงแค่มีราคาถูกแต่ยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและไม่ต้องการการบำรุงรักษาที่สูง

การเลือกวัสดุท่อลมระบายอากาศที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทั้งในด้านการใช้งานที่ยาวนานและการประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา.

การเลือกท่อลมระบายอากาศที่ใช้ในสภาพแวดล้อมต่างๆ

การทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำเป็นคุณสมบัติสำคัญที่ต้องพิจารณาในการเลือกท่อระบายอากาศหรือท่อดูดฝุ่นที่ใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็วหรือมีอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำเกินไป เช่น ในครัวหรือโรงงานอุตสาหกรรม ดังนี้คือข้อแนะนำในการเลือกท่อที่เหมาะสม:

ในครัวหรือพื้นที่ที่มีความร้อนสูง ในครัวที่มักมีอุณหภูมิสูงจากการใช้เครื่องมือทำอาหาร เช่น เตาอบ หรือเตาทำอาหาร การเลือกท่อที่ทนทานต่อความร้อนสูง เช่น ท่อที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียมหรือพลาสติกที่ทนความร้อน สามารถทนอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 150°C ถึง 300°C ขึ้นอยู่กับประเภทของท่อ วัสดุที่ใช้ต้องไม่ทำให้เกิดการหลอมละลายหรือเสื่อมสภาพเมื่อเจอกับความร้อนสูง

ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการทำงานกับเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูง
โรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้เครื่องจักรหนักหรืออุปกรณ์ที่สร้างความร้อน เช่น หม้อไอน้ำ หรือเตาหลอมเหล็ก จำเป็นต้องใช้ท่อที่ทนความร้อนสูง เช่น ท่ออลูมิเนียมฟอยล์ที่หุ้มฉนวนทนไฟที่สามารถรองรับอุณหภูมิที่สูงได้ดี และยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการควบแน่นของน้ำ

ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น สำหรับพื้นที่ที่มีอุณหภูมิหนาวเย็น เช่น ห้องเย็นในคลังเก็บอาหารหรือห้องแช่แข็ง ท่อที่ใช้ต้องมีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิที่ต่ำ เช่น ท่อพลาสติกที่มีคุณสมบัติกันความเย็น ท่อที่มีการหุ้มฉนวนใยแก้วเพื่อป้องกันการควบแน่นและความเย็น ซึ่งสามารถช่วยให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาพอากาศเย็นจัด

ท่อที่ทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว ในบางกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รวดเร็ว เช่น ในการผลิตอาหารหรือในกระบวนการอุตสาหกรรม ท่อที่เลือกควรมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อการขยายตัวหรือหดตัวเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่เกิดการแตกหักหรือการเสื่อมสภาพ

ท่อเฟล็กซ์ช่วยในการระบายอากาศในการปรับองศา

นื่องจากท่อเฟล็กซ์มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดงอและปรับรูปทรงได้ตามความต้องการ ทำให้สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดหรือที่ต้องการการปรับเปลี่ยนทิศทางของการไหลของอากาศได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อกับช่องระบายอากาศหรือการส่งลมไปยังพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง ท่อเฟล็กซ์ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษหรือเสียเวลาในการปรับแต่ง ท่อเหล่านี้ยังช่วยลดการเกิดการสูญเสียแรงดันอากาศจากการโค้งงอ ทำให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ทั้งยังสามารถปรับการไหลของอากาศในพื้นที่ที่มีความซับซ้อน หรือพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวได้ดี เนื่องจากความยืดหยุ่นของท่อช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างง่ายดาย แม้ในพื้นที่จำกัดหรือซับซ้อน ท่อเหล่านี้ช่วยให้สามารถควบคุมการไหลของอากาศและลมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบปรับอากาศ, ระบบระบายอากาศในอุตสาหกรรม, หรือแม้แต่ในครัวที่มีการใช้เครื่องดูดควัน 

สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในเรื่องของระยะทางหรือการเข้าถึงที่ยากลำบาก ด้วยความสามารถในการโค้งงอและปรับมุมได้ตามความต้องการ ท่อเหล่านี้จึงสามารถติดตั้งในที่ที่ท่อประเภทอื่นๆ อาจไม่สามารถใช้งานได้ อีกทั้งยังช่วยประหยัดเวลา เพราะไม่ต้องใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์พิเศษในการดัดแปลงท่อ ความยืดหยุ่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ ทำให้ท่อเฟล็กซ์เป็นตัวเลือกที่ดีในการระบายอากาศและการปรับอากาศในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่มีความต้องการการระบายอากาศในที่ที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยหรือในพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง.

ความสามารถในการทนแรงดันและการไหลของอากาศของท่อลม

ในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรม การควบคุมอุณหภูมิเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของเครื่องจักร และท่อแบบดัดอยู่ตัวก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการระบายความร้อนจากเครื่องจักร ท่อชนิดนี้สามารถรับลมร้อนและคายออกจากเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดความร้อนสะสมที่อาจส่งผลเสียต่อการทำงานของเครื่องจักร.ท่อ PVC A-Type มีคุณสมบัติทนทานและสามารถดัดโค้งได้ตามการออกแบบ ซึ่งทำให้สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่คับแคบหรือในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านการวางท่อได้อย่างสะดวก ท่อยังสามารถยืดและหดตัวได้ตามความต้องการ ทำให้การใช้งานและการติดตั้งสะดวกยิ่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ.

ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ

Fit (การปรับขนาดท่อ Flex): ขั้นตอนแรกคือการเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมกับขนาดของช่องต่อหรือปากท่อของเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้ท่อสามารถเชื่อมต่อได้อย่างแน่นหนาและไม่มีช่องว่างที่จะทำให้อากาศรั่วออกมา การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันที่ถูกดูดออกจากพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.

Extent (การยืดหรือขยายความยาวท่อ Flex): ขั้นตอนนี้หมายถึงการขยายหรือยืดความยาวของท่อให้พอดีกับระยะห่างระหว่างเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศกับจุดระบายอากาศภายนอกอาคาร ท่อที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้สามารถปรับระยะทางได้ง่ายตามขนาดของพื้นที่ที่ต้องการให้ระบบระบายอากาศทำงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องมีการบีบหรือดัดท่อเกินไป ซึ่งอาจทำให้การไหลของอากาศหรือควันไม่ดีเท่าที่ควร.

Adjust (การปรับทิศทางท่อ): หลังจากการเลือกขนาดและยืดขยายท่อแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการปรับทิศทางของท่อให้โค้งหรือหมุนไปตามทิศทางที่ต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างของอาคารและตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง เช่น การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในพื้นที่ หรือการจัดเรียงท่อให้สะดวกต่อการติดตั้งและการบำรุงรักษา โดยการดัดท่อให้โค้งงอในทิศทางที่ต้องการสามารถช่วยให้ท่อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ. 
Connect (การเชื่อมต่อท่อ): ขั้นตอนสุดท้ายคือการเชื่อมต่อท่อเข้ากับเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ และจุดระบายอากาศภายนอกอาคารให้แน่นหนา โดยการใช้ข้อต่อหรืออุปกรณ์ช่วยในการยึดท่อให้ติดแน่น เพื่อป้องกันการรั่วซึมของอากาศหรือควันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของระบบระบายอากาศ การเชื่อมต่อท่อให้แน่นหนาจะช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยประหยัดพลังงานจากการสูญเสียอากาศที่รั่ว.

หมวด สินค้าประจำหมวด

Flexible Duct Hose หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)

อธิบายสรุป ท่อระบายอากาศและท่อดูดฝุ่น (Air Duct) เป็นส่วนสำคัญในระบบระบายอากาศและการควบคุมอากาศในอาคารหรือโรงงานอุตสาหกรรม ท่อเหล่านี้มีบทบาทในการส่งและดูดอากาศ หรือฝุ่นจากพื้นที่หนึ่งไปยังอีกพื้นที่หนึ่ง เพื่อให้การระบายอากาศเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยท่อเฟล็กซ์ช่วยในการปรับอากาศภายในอาคารให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสม ส่วนท่อ flex ดูดฝุ่นช่วยดูดฝุ่นหรือมลพิษที่เกิดขึ้นจากการผลิตหรือกระบวนการต่างๆ ในโรงงาน เพื่อรักษาความสะอาดและสุขภาพในสภาพแวดล้อมการทำงาน ทั้งสองประเภทมีความหลากหลายในการใช้งานและวัสดุที่ใช้ผลิต เช่น ท่อเฟล็กซ์ที่มีความยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน

Scroll to Top