สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
ตู้สแตนเลสในครัว คือ ตู้สำหรับจัดเก็บอุปกรณ์และของใช้ภายในห้องครัวที่ทำจากวัสดุสแตนเลส (Stainless Steel) ซึ่งมีคุณสมบัติเด่นคือ ไม่เป็นสนิม, ทนความร้อน, ทนความชื้น, และ ทำความสะอาดง่ายต่อ แบบแขวนหรือตู้ลอย (Wall-Mounted Cabinet) ลักษณะ: ติดผนัง ไม่กินพื้นที่พื้นด้านล่าง แบบเคาน์เตอร์ (Under-Counter Cabinet) ลักษณะ: วางอยู่กับพื้น มีบานเปิดหรือลิ้นชัก ด้านบนสามารถวางของหรือใช้เป็นพื้นที่เตรียมอาหาร
งที่ช่วยจัดระเบียบพื้นที่ในครัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นและการใช้งานที่หลากหลาย ไม่เพียงแต่ช่วยเก็บอุปกรณ์ครัวต่างๆ แต่ยังมีคุณสมบัติพิเศษที่ทำให้เหมาะสำหรับทั้งครัวในบ้านและครัวในร้านอาหาร การป้องกันสนิม แม้ว่าสแตนเลสจะทนทานต่อการกัดกร่อน แต่การสัมผัสกับน้ำเค็มหรือสารเคมีรุนแรงอาจทำให้เกิดสนิมได้ ควรเช็ดให้แห้งหลังจากทำความสะอาดเพื่อป้องกันการเกิดคราบสนิม
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
ตู้เคาน์เตอร์ (Under-counter Cabinet)
ตู้ชนิดนี้ติดตั้งอยู่ใต้เคาน์เตอร์หรือโต๊ะเตรียมอาหาร เหมาะสำหรับจัดเก็บอุปกรณ์ที่ใช้งานบ่อย เช่น หม้อ, กระทะ, มีด, และเครื่องมือประกอบอาหารต่างๆ ช่วยให้หยิบใช้งานสะดวกและประหยัดพื้นที่
ตู้ลอย (Wall-mounted Cabinet)
ติดตั้งบนผนังเหนือพื้นที่ทำอาหารหรืออ่างล้างจาน เหมาะสำหรับเก็บภาชนะที่เบาหรือของใช้ที่ไม่ต้องใช้บ่อย เช่น จาน, ถ้วย, เครื่องปรุงสำรอง หรือผ้าขนหนูในครัว เป็นทางเลือกที่ช่วยเพิ่มพื้นที่แนวตั้งในห้องครัวขนาดเล็ก
ตู้แบบมีล้อ (Mobile Stainless Cabinet)
เป็นตู้เคลื่อนที่ที่สามารถย้ายไปมาได้ เหมาะกับครัวเชิงพาณิชย์หรือร้านอาหารที่ต้องการความยืดหยุ่นในการจัดวางอุปกรณ์ เช่น ใช้เป็นโต๊ะเสิร์ฟ, โต๊ะเตรียมอาหาร หรือเก็บของเฉพาะกิจในช่วงเวลา
ตู้แบบมีบานเลื่อน (Sliding Door Cabinet)
ใช้งานง่ายแม้ในพื้นที่จำกัด เพราะไม่ต้องเปิดบานตู้ออกมาด้านหน้า เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่แคบ หรือครัวในร้านอาหารที่มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา
ตู้สแตนเลสแบบชั้นโล่ง (Open Shelf Cabinet)
ไม่มีบานประตู เหมาะสำหรับจัดวางของที่ต้องหยิบใช้งานบ่อย เช่น ถาด, เครื่องปรุง หรืออุปกรณ์ที่ต้องการระบายอากาศ เช่น หม้อที่เพิ่งล้าง คงความแห้งและสะอาด
ประเภทตู้สแตนเลส | ลักษณะ | การใช้งานที่เหมาะสม | ข้อดี |
---|---|---|---|
ตู้เคาน์เตอร์ (Under-counter) | ติดตั้งใต้เคาน์เตอร์หรือโต๊ะทำอาหาร | เก็บอุปกรณ์ที่ต้องการการเข้าถึงบ่อย เช่น หม้อ กระทะ เครื่องมือทำอาหาร | ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำอาหารและจัดเก็บได้ดี |
ตู้ลอย (Wall-mounted) | ติดตั้งบนผนัง โดยไม่สัมผัสพื้น | เก็บอุปกรณ์ที่ไม่ต้องการการเคลื่อนไหวมาก เช่น จาน ชาม เครื่องปรุง | ประหยัดพื้นที่บนเคาน์เตอร์และเข้าถึงสิ่งของได้ง่าย |
ตู้มีล้อ (Mobile Cabinet) | ตู้ที่สามารถเคลื่อนย้ายได้ | เหมาะสำหรับร้านอาหารหรือครัวที่ต้องการการปรับเปลี่ยนพื้นที่บ่อย | มีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนย้าย สามารถปรับเปลี่ยนพื้นที่ได้ง่าย |
ตู้บานเลื่อน (Sliding Door) | มีประตูที่เปิด-ปิดด้วยระบบเลื่อน | เหมาะกับพื้นที่จำกัด เช่น ครัวขนาดเล็ก ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ | เหมาะกับพื้นที่จำกัด ไม่ต้องมีพื้นที่ว่างสำหรับเปิดประตู |
ตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดเก็บอุปกรณ์ต่างๆ ในครัว ด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน ทำความสะอาดง่าย และเหมาะกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือการสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในครัวบ้านและร้านอาหาร อีกทั้งยังสามารถเลือกประเภทและการออกแบบที่ตรงกับความต้องการของคุณเพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพสูงสุด
ความทนทานสูงสุด ในร้านอาหารที่ต้องมีการใช้งานอย่างหนักหน่วง ควรมีความทนทานสูง โดยเฉพาะสำหรับครัวที่มีปริมาณการทำอาหารมากหรือเปิดให้บริการตลอดทั้งวัน ควรเลือกใช้สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ซึ่งสามารถทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำ, เกลือ, และสารเคมีในครัวได้ดี
การเก็บอุปกรณ์และเครื่องมืออย่างมีระเบียบ ในร้านอาหารที่ต้องการการจัดเก็บอย่างมีระเบียบ ควรเลือกที่สามารถแยกเก็บอุปกรณ์ได้หลากหลาย เช่น ตู้ที่มีชั้นแบ่ง หรือการติดตั้งตู้ประเภทบานเลื่อน เพื่อให้การหยิบใช้อุปกรณ์ทำได้รวดเร็วและสะดวกที่สุด
ความสามารถในการเคลื่อนย้าย สำหรับร้านอาหารที่มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่หรือการจัดเรียงอุปกรณ์ตามความต้องการ ควรเลือกตู้ที่มีล้อ หรือสามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย ทำให้การจัดเรียงและใช้งานในพื้นที่จำกัดสามารถทำได้สะดวก
การรักษาความสะอาดและสุขอนามัย
ในร้านอาหาร, ความสะอาดเป็นสิ่งสำคัญ ช่วยให้การทำความสะอาดทำได้ง่ายเนื่องจากพื้นผิวที่เรียบและทนทานต่อสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในครัวได้ดี จึงช่วยลดการสะสมของคราบน้ำมันหรือสารตกค้างที่อาจเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอธิบายโดยละเอีย
การทำความสะอาด ใช้ผ้านุ่มๆ หรือฟองน้ำเพื่อทำความสะอาดผิวของสแตนเลส หลีกเลี่ยงการใช้ผ้าหยาบที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วน หากมีคราบน้ำมันหรือสารเคมี ใช้สบู่อ่อนๆ ผสมกับน้ำในการทำความสะอาดแล้วเช็ดด้วยผ้าสะอาด การป้องกันรอยขีดข่วน ควรหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงมาก เช่น แปรงเหล็กหรือผ้าเสียดสีสูงในการทำความสะอาดหากเกิดรอยขีดข่วนเล็กน้อย สามารถใช้ผลิตภัณฑ์ขัดเงาสแตนเลสที่มีคุณสมบัติในการขจัดรอยขีดข่วนเบาๆ
ทนทานต่อการกัดกร่อน:
สแตนเลสมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำหรือสารเคมีในครัว เช่น น้ำมัน, กรด, หรือสารทำความสะอาด จึงไม่เกิดสนิมหรือการกัดกร่อนง่าย
ทำความสะอาดง่าย:
ผิวของสแตนเลสเรียบและไม่ดูดซับคราบ ทำให้การทำความสะอาดทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นคราบน้ำมันหรือสารเคมี
ไม่เก็บกลิ่นหรือแบคทีเรีย:
สแตนเลสไม่ดูดซับกลิ่นหรือเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค จึงเหมาะสำหรับการใช้ในครัวที่มีความสะอาดสูง