สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

ท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ
PE : Flexible Conduit

ท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE (Polyethylene) คือท่อที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีน ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อการแตกหัก และสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายได้ดี ท่อชนิดนี้มักถูกใช้ในการปกป้องสายไฟและสายเคเบิลจากความเสียหาย เช่น การเสียดสี ความชื้น หรือแรงดึง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการติดตั้ง เช่น การเดินสายไฟในระบบอุตสาหกรรม อาคาร หรือในรถยนต์

" ท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE : Polyethylene "

แคตตาล็อกสินค้า🖱️

คุณสมบัติของท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE (Polyethylene)

ยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา ท่อ PE มีความยืดหยุ่นสูง ทำให้โค้งงอได้ง่ายโดยไม่เสียรูปหรือแตกหัก น้ำหนักเบาเป็นพิเศษ ทำให้สะดวกต่อการขนย้ายและติดตั้ง แม้ในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านการเข้าถึงหรือในงานที่ต้องใช้จำนวนมาก
ทนต่อสารเคมีและความชื้น มีความต้านทานต่อสารเคมีหลากหลายชนิด เช่น กรด ด่าง น้ำมัน และตัวทำละลายทั่วไป ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมี รวมถึงช่วยป้องกันสายไฟจากการกัดกร่อนที่อาจเกิดขึ้น
ป้องกันการเสียดสีและแรงกระแทก โครงสร้างของท่อ PE ทนต่อการเสียดสีและแรงกระแทกได้ดี ช่วยป้องกันสายไฟจากความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหรือการสัมผัสกับสิ่งของแข็ง เช่น ขอบโลหะ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ในระบบ

คุณสมบัติไม่ลามไฟ (Flame Retardant) ท่อ PE บางรุ่นได้รับการปรับปรุงด้วยสารเคลือบเพื่อเพิ่มคุณสมบัติไม่ลามไฟ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้เมื่อติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบสายไฟภายในอาคาร
ราคาประหยัดและเหมาะสำหรับงานทั่วไป ท่อ PE จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เหมาะสำหรับงานติดตั้งที่ไม่ได้มีข้อกำหนดด้านความทนทานต่อ UV หรือความร้อนสูง เช่น งานเดินสายไฟในอาคารหรืองานระบบไฟฟ้าทั่วไป
ปรับแต่งความยาวและขนาดได้หลากหลาย มีตัวเลือกขนาดและความยาวหลากหลาย ตั้งแต่เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานกับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางแตกต่างกัน อีกทั้งยังสามารถสั่งผลิตให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของโครงการได้

หมวด สินค้าใกล้เคียง

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว

รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

การเลือกท่อร้อยสายไฟ PE สำหรับงานระบบไฟฟ้า

ท่อร้อยสายไฟ PE (Polyethylene) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมในงานติดตั้งระบบไฟฟ้าหรือสายสัญญาณ ด้วยคุณสมบัติที่มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่นสูง และติดตั้งได้ง่าย ทำให้ท่อนี้เหมาะสำหรับงานทั่วไปในอุตสาหกรรมและงานภายในอาคาร วัสดุ PE มีความสามารถในการทนต่อสารเคมีและความชื้นได้ดี ช่วยปกป้องสายไฟจากความเสียหายที่เกิดจากการใช้งานหรือการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ไม่พึงประสงค์ อย่างไรก็ตาม ท่อ PE มีข้อจำกัดในการทนต่อรังสี UV และความร้อนสูง ดังนั้น หากต้องการใช้งานกลางแจ้งหรือต้องเจอกับแสงแดดต่อเนื่อง ควรพิจารณาท่อที่ผลิตจากวัสดุ PA หรือวัสดุที่ทนต่อ UV มากกว่า แต่สำหรับงานภายในหรือการใช้งานทั่วไป ท่อเฟล็กซ์ PE จะช่วยให้คุณประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.

  • การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
    เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.

  • การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
    หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้

เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.

ความเหมาะสมในงานติดตั้งและการใช้งานของท่ออ่อนร้อยสายไฟ PA

ท่อ PA มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ช่วยรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่จำกัด หรือการติดตั้งในมุมที่ต้องการการดัดโค้ง นอกจากนี้ ท่อยังทนต่อการกระแทกและแรงดันได้ดี จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น ระบบสายไฟในเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณสมบัติการยืดหยุ่นกลับคืนรูปช่วยให้ท่อสามารถปรับตัวได้กับการใช้งานในสถานที่ที่มีลักษณะซับซ้อนหรือเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยไม่ลดประสิทธิภาพการปกป้องสายไฟ การเลือกใช้ท่อ PA จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความสะดวกในการติดตั้งและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในระยะยาว.

การเปรียบเทียบท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE และ PA​

คุณสมบัติเด่นในการยืดหยุ่นกลับคืนรูป

อุปกรณ์เชื่อมต่อท่ออ่อนร้อยสายไฟ

การเลือกใช้ท่ออ่อนร้อยสายไฟจากวัสดุ PE (Polyethylene)

เมื่อพิจารณาการเลือกใช้ท่อ PE สำหรับการร้อยสายไฟในงานต่างๆ ควรพิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
สภาพแวดล้อมการใช้งาน หมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องเผชิญกับแสง UV หรือความร้อนสูงมาก เนื่องจาก PE จะเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับแสงแดดและอุณหภูมิสูงเป็นเวลานาน ดังนั้นท่อ PE เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ภายในอาคารหรือในที่ร่มที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาวะแวดล้อมที่รุนแรงเกินไป
การเคลื่อนไหวของสายไฟ ในกรณีที่สายไฟต้องมีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง เช่น สายไฟในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ต้องการการเคลื่อนไหวของสายไฟ ท่อ PE เป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและสามารถดัดงอได้ง่าย

ความต้องการในการป้องกันสายไฟจากการเสียดสีและความเสียหาย สามารถป้องกันการเสียดสีและความเสียหายจากการสัมผัสกับพื้นผิวที่แข็งหรือวัสดุอื่นๆ ได้ดี อย่างไรก็ตาม ท่อ PE อาจไม่ทนทานต่อการเสียดสีสูงเท่าท่อจากวัสดุอื่น เช่น PA (Polyamide) หรือท่อโลหะ หากใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการขูดขีดหรือการทำลายจากสิ่งแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง
ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง การเลือกท่อ PE ควรพิจารณาจากความสะดวกในการติดตั้ง เนื่องจากท่อ PE สามารถดัดงอและติดตั้งได้ง่าย ทำให้การทำงานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดในการติดตั้งสามารถทำได้สะดวกและไม่ยุ่งยา
ความทนทานต่อแรงกระแทก คุณสมบัติทนทานต่อแรงกระแทกได้ดี ซึ่งทำให้มันเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากการชนหรือกระแทก เช่น ในโรงงานที่มีเครื่องจักรเคลื่อนที่ หรือในพื้นที่ที่มีการขนส่งวัสดุหนัก การเลือกท่อ PE จะช่วยป้องกันการแตกหักหรือเสียหายจากแรงกระแทกได้ดี และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟที่อยู่ภายในท่อ

การเปรียบเทียบท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE และ PA

การเปรียบเทียบท่อร้อยสายไฟจากวัสดุ PE (Polyethylene) และ PA (Polyamide)
ความทนทานต่อแสง UV
PE (Polyethylene):
 มีความทนทานต่อแสง UV น้อยกว่าท่อ PA เมื่อท่อ PE ถูกแสงแดดเป็นระยะเวลานานจะทำให้วัสดุเสื่อมสภาพและอาจทำให้ท่อเปราะแตกได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่ได้เคลือบด้วยสารป้องกัน UV เหมาะกับการใช้งานในที่ร่มหรือสถานที่ที่ไม่ต้องสัมผัสกับแสงแดดโดยตรง
PA (Polyamide):  มีความทนทานต่อแสง UV สูงกว่าท่อ PE จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดี แม้จะสัมผัสกับแสงแดดเป็นระยะเวลานานก็ตาม
เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับแสงแดดและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง
การทนทานต่อสารเคมี
PE (Polyethylene): ทนทานต่อสารเคมีบางชนิดได้ดี เช่น กรดและด่างบางประเภท แต่จะไม่ทนทานต่อสารเคมีบางชนิดได้ดีเท่ากับ PA

PA (Polyamide)ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิดได้ดีกว่า PE เช่น น้ำมัน, กรดบางชนิด, และสารละลายที่มีฤทธิ์กัดกร่อน มีความทนทานต่อการสัมผัสกับสารเคมีที่มีความรุนแรงได้ดีกว่า
การติดตั้ง
PE (Polyethylene): ง่ายต่อการติดตั้งเนื่องจากมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถดัดงอได้ง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือที่มีการเคลื่อนไหวของสายไฟ
PA (Polyamide):
ต้องการการติดตั้งที่ระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากมันมีความแข็งแรงและทนทานสูงกว่า แต่ก็สามารถใช้ได้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงและทนทานมากกว่า

คุณสมบัติเด่นในการยืดหยุ่นกลับคืนรูป

คุณสมบัติการคืนตัว (Elasticity) ท่อ PE มีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งหมายความว่าสามารถยืดหรือดัดงอได้ง่าย แต่การคืนตัวของท่อ PE เมื่อได้รับแรงดัดหรือการยืดออกไปจะช้ากว่า PA เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลของ PE ที่มีลักษณะเป็นสายโพลีเมอร์ยาวและไม่มีกระบวนการบิดตัวหรือพันกันของโมเลกุลในลักษณะพิเศษ ดังนั้นเมื่อท่อ PE ถูกดัดงอหรือยืดออกไป มันจะคืนรูปได้ แต่ต้องใช้เวลานานกว่า เพราะไม่มีแรงดึงกลับที่รวดเร็วเหมือนกับ PA
ท่อ PA มีความยืดหยุ่นที่ดีเยี่ยมเช่นกัน แต่เนื่องจากโครงสร้างโมเลกุลของ PA มีการบิดตัวและการพันกันของโมเลกุล (intermolecular bonding) ซึ่งช่วยให้ท่อ PA คืนรูปได้เร็วและมีความทนทานในการคืนตัวมากกว่า PE เมื่อได้รับแรงดัดหรือยืดออกไป
ผลจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการคืนตัวเร็ว แม้ว่า PE จะมีความยืดหยุ่นที่ดี แต่เนื่องจากการคืนตัวที่ช้ากว่า PA อาจจะทำให้มันไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการคืนรูปเร็วหรือต้องมีการเคลื่อนไหวบ่อยๆ เช่น การใช้งานในเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนที่หรือการยืดสายไฟอย่างต่อเนื่อง

การใช้งานในพื้นที่ภายในอาคารหรือในพื้นที่ที่ไม่ต้องเคลื่อนที่ ท่อ PE เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่ท่อไม่ต้องเคลื่อนที่หรือมีการเปลี่ยนแปลงรูปทรงบ่อยครั้ง เช่น การใช้งานในระบบไฟฟ้าภายในอาคารหรือโรงงานที่มีการจัดเรียงสายไฟในทิศทางคงที่ ท่อ PE สามารถใช้ในการป้องกันสายไฟจากการเสียดสีและความเสียหายจากการสัมผัสกับพื้นผิวได้ดี

ท่อร้อยสายไฟ PE: มีทั้งแบบมาตรฐานและแบบผ่ากลาง

การเลือกท่อร้อยสายไฟที่เหมาะสมสำหรับการติดตั้งในงานไฟฟ้าหรือการป้องกันสายไฟมีความสำคัญอย่างมากในการยืดอายุการใช้งานและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า ท่อร้อยสายไฟจากวัสดุ PE (Polyethylene) เป็นตัวเลือกที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับหลายประเภทของการใช้งาน โดยท่อ PE จะมีทั้ง แบบมาตรฐาน และ แบบผ่ากลาง ซึ่งแต่ละประเภทก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันตามลักษณะของการใช้งาน ท่อร้อยสายไฟ PE แบบมาตรฐานคือท่อที่มีรูปทรงกลมทึบ ซึ่งเหมาะสำหรับการป้องกันสายไฟในพื้นที่ที่มีการติดตั้งอย่างถาวรหรือในที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการเปิดและปิดท่อบ่อยครั้ง ท่อแบบมาตรฐานมีคุณสมบัติที่เด่นหลายประการ

อุปกรณ์เชื่อมต่อท่ออ่อนร้อยสายไฟ

อุปกรณ์เชื่อมต่อท่อพลาสติกแบบยืดหยุ่น ที่ใช้สำหรับติดตั้งระบบท่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบท่อที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เช่น ระบบท่อสำหรับเดินสายไฟ สายเคเบิล หรือท่อน้ำเล็กๆ
Plastic Pipe Mounting Flexible Bracket: เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดท่อพลาสติกให้ติดกับพื้นผิวต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นแผ่นยึดที่สามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้สามารถปรับทิศทางหรือองศาของท่อได้ตามต้องการ
Quick Connector: เป็นข้อต่อที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม ทำให้การติดตั้งท่อเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
90° Elbow Quick Connector: เป็นข้อต่อที่มีลักษณะโค้ง 90 องศา ใช้สำหรับเปลี่ยนทิศทางของท่อพลาสติก ช่วยให้การเดินท่อในมุมต่างๆ เป็นไปได้สะดวก

Waterproof Corrugated Tubing Fittings: เป็นข้อต่อที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกชนิดร่อง (Corrugated) ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีน้ำ
90° Watertight Corrugated Tubing Fittings: เป็นข้อต่อแบบโค้ง 90 องศา ที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกชนิดร่อง โดยมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือความเปียกได้อย่างปลอดภัย.

อธิบายสรุป

ท่อเฟล็กซ์อ่อนร้อยสายไฟ PE (Polyethylene) เป็นท่อที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการปกป้องและร้อยสายไฟในระบบไฟฟ้า ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งในด้านความยืดหยุ่นและทนทาน ท่อ PE เหมาะสำหรับการใช้งานในหลายสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ไม่จำเป็นต้องมีการดัดหรือเคลื่อนที่บ่อยครั้ง ท่อประเภทนี้สามารถติดตั้งได้ง่ายและมีความทนทานต่อการเสียดสี การกระแทก และสารเคมีบางชนิด หมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โรงงาน หรือที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้งและการป้องกันสายไฟจากความเสียหาย รวมถึงในงานที่ไม่ต้องการการเข้าถึงหรือปรับเปลี่ยนสายไฟบ่อยครั้ง

Scroll to Top