สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
ท่อสไปร่อน (Spiral Duct) คือ ชนิดของท่อที่มีโครงสร้างเป็นรูปร่างของเส้นโค้งหรือวงกลม มักใช้งานในระบบระบายอากาศหรือระบบพัดลมในอาคารหรือโรงงาน เป็นท่อที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้ง่าย นอกจากนี้ ยังมีความแข็งแรงดี ทนทานต่อการกัดกร่อนและความร้อน และมีการระบายอากาศได้สม่ำเสมอ ทำให้เป็นท่อที่นิยมใช้ในการสร้างระบบการไหลของอากาศในอุตสาหกรรมและสถานที่ต่างๆ
หมวดหมู่สินค้า
(Spiral Duct) คุณภาพสูงสำหรับระบบระบายอากาศและงานอุตสาหกรรม ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการติดตั้ง ด้วยความแข็งแรง ทนทาน และติดตั้งง่าย พร้อมบริการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ!
คุณสมบัติเด่นของท่อสไปร่อน:
✅ ผลิตจากวัสดุเหล็กชุบกัลวาไนซ์หรือสแตนเลส เกรดพรีเมียม
✅ โครงสร้างเป็นเกลียว เพิ่มความแข็งแรง ทนต่อแรงดันอากาศสูง
✅ ผิวเรียบภายใน ลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก
✅ รองรับการใช้งานทั้งระบบส่งลมเย็น ส่งลมร้อน และงานดูดอากาศ
💡 เหมาะสำหรับ:
พร้อมบริการจัดส่งทั่วประเทศ ให้คุณมั่นใจในคุณภาพและการติดตั้งที่สะดวกและปลอดภัย!
คุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิสูงและสภาพอากาศต่าง ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายอากาศหรือระบบพัดลมที่ต้องการความเสถียรและทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ มีคุณสมบัติดังนี้
สไปร่อนยังมีความแข็งแรงสูง ทนทานต่อการกัดกร่อนและความร้อน อีกทั้งยังช่วยระบายอากาศได้อย่างสม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้ ท่อสไปร่อนจึงเป็นตัวเลือกยอดนิยมในระบบการไหลเวียนอากาศของทั้งภาคอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และสถานที่ที่ต้องการการควบคุมการระบายอากาศที่ดีเยี่ยม ด้วยความแข็งแรงและคุณสมบัติการทนต่อแรงดัน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือความชื้น เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้องครัวในร้านอาหาร หรือแม้แต่ระบบปรับอากาศในอาคารใหญ่ ๆ อีกทั้งยังสามารถเลือกวัสดุของท่อให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ เช่น ท่อสแตนเลสที่ทนต่อการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี หรือท่ออลูมิเนียมที่น้ำหนักเบาและง่ายต่อการติดตั้ง นอกจากนี้ ท่อสไปร่อนยังสามารถติดตั้งฉนวนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลดเสียงรบกวนและการสูญเสียพลังงานในระบบระบายอากาศ
ท่อแบบกลม (Round Spiral Duct)
ท่อแบบรี (Rectangular Spiral Duct)
ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
การเลือกใช้ท่อ Spiral แบบกลมหรือแบบรีขึ้นอยู่กับความต้องการและข้อกำหนดเฉพาะของโครงการ โดยท่อแบบกลมมักได้รับความนิยมในระบบระบายอากาศที่ต้องการการไหลของอากาศที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากรูปทรงกลมช่วยลดการสูญเสียแรงดันและเสียงรบกวนในระบบ เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และระบบปรับอากาศขนาดใหญ่ ในทางกลับกัน ท่อแบบรีมักถูกเลือกใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านความสูง เช่น เพดานต่ำ หรือพื้นที่แคบในอาคารบางประเภท ท่อรูปทรงนี้ช่วยประหยัดพื้นที่ติดตั้งโดยยังคงความสามารถในการระบายอากาศได้ดี ทั้งนี้ การตัดสินใจเลือกใช้งานต้องคำนึงถึงข้อกำหนดด้านการออกแบบ ความคุ้มค่า และประสิทธิภาพในระยะยาวของระบบที่ต้องการ
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.
การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.
การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
ท่อ Spiral มีวัสดุหลากหลายให้เลือกใช้งานตามความเหมาะสม เช่น เหล็กชุบกัลวาไนซ์ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในระบบระบายอากาศ สแตนเลสสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นหรือการกัดกร่อนสูง และอะลูมิเนียมสำหรับงานที่ต้องการน้ำหนักเบาและความยืดหยุ่น วัสดุแต่ละชนิดมีจุดเด่นเฉพาะตัว การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบและลดต้นทุนในการบำรุงรักษา นอกจากนี้ การเลือกวัสดุยังควรคำนึงถึงสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น หากท่อจะถูกติดตั้งในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีการไหลผ่านของสารเคมี ควรเลือกใช้ท่อสแตนเลสเพื่อความทนทานและปลอดภัย สำหรับงานที่ต้องการลดต้นทุนและน้ำหนักโครงสร้าง เช่น งานระบายอากาศในอาคารพักอาศัยหรือสำนักงาน การเลือกใช้ท่ออะลูมิเนียมจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด ขณะที่ท่อเหล็กชุบกัลวาไนซ์เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปและมีความคุ้มค่าในแง่ของราคา การเลือกวัสดุที่ตรงกับลักษณะงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบและลดความเสียหายในระยะยาว
การใช้งานหลากหลายในอุตสาหกรรมและสถานการณ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในระบบระบายอากาศและระบบอากาศควบคุมในอาคาร อีกทั้งยังมีการนำมาใช้ในระบบหัวจ่ายอากาศและระบบดูดควัน เป็นต้น การใช้ Spiral Duct ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายอากาศและควบคุมสภาพอากาศในพื้นที่ต่าง ๆ อีกทั้งยังมีการนำมาใช้ในงานซ่อมบำรุงและปรับปรุงระบบอากาศในอาคารหรือโรงงานต่าง ๆ เมื่อมีความจำเป็นในการปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงการไหลของอากาศ ทำให้เป็นทางเลือกที่น่าสนใจในการใช้งานท่อในหลายสถานการณ์
Spiral Duct เหล็กกัลวาไนซ์เป็นท่อที่ได้รับความนิยมในระบบระบายอากาศทั้งในอาคารพักอาศัยและอุตสาหกรรม ด้วยคุณสมบัติเด่นในเรื่องความแข็งแรงและการป้องกันการกัดกร่อน เหล็กกัลวาไนซ์เคลือบด้วยสังกะสี ทำให้ท่อสามารถทนต่อความชื้นและการเกิดสนิมได้ดี อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานยาวนานแม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
ด้วยโครงสร้างที่เป็นเกลียว สไปร่อนเหล็กกัลวาไนซ์สามารถรองรับการไหลเวียนของอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการสูญเสียแรงดันลมและเสียงรบกวน นอกจากนี้ การติดตั้งยังทำได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องจากมีน้ำหนักที่เหมาะสมและข้อต่อที่แน่นหนา ท่อประเภทนี้จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับระบบปรับอากาศ, ระบบระบายอากาศในโรงงาน, หรือแม้แต่การใช้งานในห้างสรรพสินค้าและโรงแรมที่ต้องการความน่าเชื่อถือในระยะยาว
เหล็กกัลวาไนซ์ยังมีความยืดหยุ่นในการใช้งานและสามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับการติดตั้งในพื้นที่ต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังสามารถนำมาใช้ในระบบที่มีความซับซ้อน เช่น ระบบระบายอากาศที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิและความชื้น หรือระบบปรับอากาศที่มีความต้องการเฉพาะ นอกจากนี้ ความสามารถในการทนต่อการกัดกร่อนยังทำให้ท่อสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมีได้ดี จึงเป็นตัวเลือกที่นิยมในหลาย ๆ อุตสาหกรรม
Spiral Duct สแตนเลสเป็นตัวเลือกที่นิยมสำหรับการติดตั้งในระบบระบายอากาศ ทั้งในอาคารพาณิชย์และอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่โดดเด่นหลายประการที่ช่วยยืดอายุการใช้งานและลดต้นทุนบำรุงรักษา โดยวัสดุสแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมี ทำให้ท่อสามารถทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสัมผัสกับสารเคมีได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สแตนเลสยังมีความแข็งแรงและทนทานสูง สามารถรองรับการไหลเวียนของอากาศในระบบระบายอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการสูญเสียแรงดันลมและเสียงรบกวนได้ดี การออกแบบที่เป็นเกลียวช่วยให้การติดตั้งง่ายและรวดเร็ว และยังสามารถลดระยะเวลาการบำรุงรักษาได้ เนื่องจากวัสดุสแตนเลสไม่ต้องการการเคลือบพิเศษเพื่อป้องกันการกัดกร่อนเหมือนกับวัสดุอื่น ๆ ทำให้ท่อเหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ในโครงการที่มีความต้องการการควบคุมคุณภาพอากาศที่สูง หรือในสถานที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น โรงงานผลิตอาหาร หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ สไปร่อนสแตนเลสถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในระยะยาว
การระบายลมร้อนเป็นกระบวนการที่สำคัญในการควบคุมอุณหภูมิภายในอาคารและโรงงาน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการผลิตหรือการใช้งานที่สร้างความร้อนสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ห้องเครื่องจักร หรือห้องควบคุมต่างๆ ท่อ Spiral เป็นหนึ่งในทางเลือกที่เหมาะสมในการระบายลมร้อน เนื่องจากมีคุณสมบัติหลายประการที่ช่วยให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด
Flexible Duct Hose หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)
อธิบายสรุป ท่อ Spiral หรือท่อสไปร่อน เป็นท่อระบายอากาศที่มีลักษณะโครงสร้างเป็นเกลียววงกลม ผลิตจากวัสดุที่แข็งแรง เช่น เหล็กชุบกัลวาไนซ์ สแตนเลส หรืออะลูมิเนียม มีความทนทานสูงและเหมาะสำหรับใช้งานในระบบระบายอากาศ ระบบพัดลม หรือการขนส่งอากาศในโรงงานอุตสาหกรรมและอาคารทั่วไป ท่อ Spiral มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องการไหลของอากาศที่สม่ำเสมอ ลดเสียงรบกวนและแรงดันในระบบ ทั้งยังติดตั้งง่ายและรองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่หรือรูปทรงต่าง ๆ