รางกระดูกงู Cable Chain
กระดูกงูร้อยสายไฟ
รางกระดูกงู หรือ Cable Drag Chain คือ อุปกรณ์ที่มีหน้าที่ใช้สำหรับจัดเก็บและปกป้องสายไฟ สายเคเบิล ท่อ หรือสายพานต่าง ๆ ที่ต้องการเคลื่อนที่ไปมาภายในบริบทของงานอุตสาหกรรมหรือโรงงาน อุปกรณ์นี้ช่วยลดการเสียดสีและป้องกันสายไฟหักงอ ฉีกขาด หรือสายพานจากการพันกันขณะที่เคลื่อนที่ได้ ป้องกันสายไฟหรือสายพานจากการเสียดสี ที่อาจเกิดขึ้นในการใช้งานประจำ
" หมวด : รางกระดูกงู Cable Drag Chain"
จำหน่ายรางกระดูกงู ทั้งแบบพลาสติกและเหล็ก
จัดระเบียบและปกป้องสายไฟ ของคุณด้วย กระดูกงูพลาสติกและเหล็ก ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นงานเบาหรืองานหนัก เราพร้อมตอบโจทย์ทุกความต้องการ เรามีรางที่หลากหลายขนาดให้เลือก รองรับทุกความต้องการในการใช้งาน พร้อมให้คำแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมดูแลคุณ สนใจเลือกซื้อสินค้าคุณภาพ ติดต่อเราได้เลยวันนี้!
คุณณสมบติร่วมของรางกระดูกงูพลาสติกและรางเหล็ก
1. ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ทั้งกระดูกงูพลาสติกและกระดูกงูเหล็กถูกออกแบบมาให้รองรับการเคลื่อนที่ของสายไฟหรือท่อในระบบอัตโนมัติ เช่น แขนกลหุ่นยนต์หรือเครื่องจักร CNC โดยมีความยืดหยุ่นที่ช่วยให้การเคลื่อนที่เป็นไปอย่างราบรื่นและลดการเสียดสีหรือการพันกันของสายไฟ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่มีการเคลื่อนไหวต่อเนื่อง
2. การปกป้องสายไฟและท่อ รางพลาสติกและรางเหล็กทั้งสองชนิดมีหน้าที่หลักในการปกป้องสายไฟหรือท่อจากแรงกระแทก, ฝุ่นละออง, และการเสียดสีที่อาจทำให้เกิดความเสียหาย การปกป้องนี้ช่วยให้ระบบไฟฟ้าหรือท่อส่งสามารถทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ
3. การรองรับน้ำหนักของสายไฟและท่อ รางพลาสติกมักรองรับน้ำหนักได้ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับงานที่ใช้สายไฟหรือท่อขนาดเบา ในขณะที่รางเหล็กสามารถรองรับน้ำหนักได้มากกว่า เหมาะสำหรับสายไฟหรือท่อที่มีขนาดใหญ่และหนัก ทำให้ทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติในการรองรับน้ำหนักที่ตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างกัน
4. การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย รางพลาสติกเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นน้อยหรือในพื้นที่ภายในอาคาร เนื่องจากทนต่อการกัดกร่อนและไม่เป็นสนิม ส่วนรางเหล็กเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น พื้นที่ที่มีความร้อนสูงหรือมีแรงกระแทกหนัก ทำให้ทั้งสองชนิดตอบสนองการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายและมีจุดเด่นเฉพาะตัว
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
วิธีการเลือกใช้ Cable Drag Chain เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงาน
ปัจจัยสำคัญในการเลือกใช้กระดูกงูคือ วัสดุและประเภทของราง วัสดุที่ได้รับความนิยมมีทั้งพลาสติกวิศวกรรม เช่น PA6 หรือ PA66 ซึ่งน้ำหนักเบา มีความยืดหยุ่นสูง และเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป และวัสดุโลหะ เช่น เหล็กชุบสังกะสีหรือสแตนเลส ที่มีความแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความร้อนสูงหรือความชื้น การเลือกประเภทของราง เช่น แบบเปิด (Bridge Type) หรือแบบปิด (Enclosed Type) ก็สำคัญ โดยแบบเปิดเหมาะสำหรับงานที่ต้องการการระบายอากาศหรือการลดน้ำหนักราง ส่วนแบบปิดเหมาะสำหรับป้องกันฝุ่น สิ่งสกปรก หรือความชื้น
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ (Cable Chain Measurement)
การเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในด้านความกว้างและความสูงภายในรางเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญมากในการติดตั้งและใช้งานเพื่อป้องกันการสึกหรอและลดโอกาสเกิดความเสียหายกับสายเคเบิลหรือสายพาน โดยการทำตามแนวทางนี้ จะช่วยให้การติดตั้งและใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้ตามแนวทางดังนี้:
- 1. การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement) ทำการวัดความกว้างของ โดยให้ความสนใจว่าความกว้างนี้ต้องพอเพียงสำหรับการติดตั้งสายเคเบิลหรือสายพานหลายเส้นในแนวขนาน ซึ่งหากมีสายหลายเส้นในรางเดียว ควรมีช่องว่างระหว่างแต่ละเส้นอย่างน้อย 10% ของความกว้างสาย
- 2. การคำนวณค่า 10% ของความกว้างสายเคเบิล (Calculate 10% of Cable Width) เมื่อทราบความกว้างของสายเคเบิลหรือสายพานที่ต้องการติดตั้งในรางแล้ว ให้คำนวณค่า 10% ของความกว้างนี้เพื่อเป็นช่องว่างเพิ่มเติม โดยการเพิ่ม 10% นี้จะช่วยป้องกันการเสียดสีและช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายทำได้อย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดของสายขณะเคลื่อนที่
- 3. เว้นช่องว่างความสูงอย่างน้อย 10% ไม่เพียงแค่ความกว้าง ช่องว่างในแนวสูงภายในรางก็ควรมีอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลหรือสายพานเช่นกัน เพื่อให้สายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะการทำงาน
- 4. ประโยชน์จากการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม การเว้นช่องว่างทั้งด้านกว้างและสูงอย่างน้อย 10% จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสายภายในราง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและสายพานได้ ทำให้ระบบการเคลื่อนที่ภายในเครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องที่อาจส่งผลต่อการผลิตหรือการทำงานของระบบ
รัศมีการดัดโค้ง (Bending Radius) ของกระดูกงูมีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้
- หลักการเว้นพื้นที่ 15%: ควรเว้นพื้นที่ในรางอย่างน้อย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สายไฟหรือท่อสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดแรงกดหรือแรงตึงที่อาจทำให้สายเสียหาย
- การรองรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ: พื้นที่ว่างช่วยให้สายไฟหรือท่อโค้งงอได้โดยไม่มีแรงกระทำมากเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายจากการเสียดสี
- ผลกระทบต่ออายุการใช้งาน: หากเว้นพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายไฟหรือท่อขาดความยืดหยุ่นและเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ
- ความสำคัญของรัศมีโค้ง: รัศมีโค้งที่เหมาะสมช่วยลดแรงกระทำต่อสายไฟและราง ทำให้ระบบเคลื่อนไหวได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน
การเว้นพื้นที่ 10% ในรางเพื่อความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
การติดตั้งกระดูกงูเก็บสายไฟที่ถูกต้องจำเป็นต้อง เว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในแนวกว้างและแนวสูง เพื่อให้สายเคเบิลสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและลดความตึงเครียดของสาย การคำนวณค่า 10% ของความกว้างและเส้นผ่านศูนย์กลางของสายช่วยลดโอกาสการเสียดสีและการบีบอัดที่อาจทำให้สายเสียหายได้ การเว้นพื้นที่ที่เหมาะสมยังช่วยให้ระบบเคลื่อนที่ทำงานได้ต่อเนื่องและปลอดภัย โดยมีผลต่อการยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและลดการบำรุงรักษาโดยรวม การปฏิบัติตามแนวทางนี้ช่วยให้ระบบเครื่องจักรในอุตสาหกรรมทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพและคุ้มค่ามากขึ้น.
ความแตกต่างรางกระดูกงูเหล็กและพลาสติก
การเลือกใช้งานระหว่างรางพลาสติก VS รางหล็ก
ตัวอย่างการใช้งานกระดูกงูร้อยสายไฟ
ปัจจัยหลักในการเลือกใช้กระดูกงูพลาสติก 3 รูปแบบ
การพิจารณาความเข้ากันได้ระหว่างและเครื่องจักรเป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกแบบที่เหมาะสมกับการเคลื่อนไหวและการทำงานของเครื่องจักรนั้น ๆ มีปัจจัยหลายประการที่ควรพิจารณา เพื่อให้แน่ใจว่าเหมาะสมกับความต้องการและสภาพแวดล้อมการทำงาน นอกจากปัจจัยที่ได้กล่าวถึงไปแล้ว ขอนำเสนอปัจจัยเพิ่มเติมในการเลือกใช้ใน 3 รูปแบบนี้
สภาพแวดล้อมการทำงาน
– แบบปิดทึบ (Fully Enclosed): เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือสารเคมีจำนวนมาก เนื่องจากการปิดทึบช่วยป้องกันการปนเปื้อนและการทำลายของสายไฟจากสภาพแวดล้อมภายนอก
– แบบโปร่ง (Open Type): เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ไม่มีฝุ่นหรือสารเคมีที่เป็นอันตราย การออกแบบเปิดช่วยให้การระบายอากาศดี และสามารถดูแลรักษาได้ง่าย
– แบบทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Enclosed): เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่ต้องการการระบายอากาศในระดับหนึ่ง เช่น ในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง โดยสามารถป้องกันฝุ่นจากด้านบนได้
ขนาดและน้ำหนักของสายไฟและสายเคเบิล
แบบทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Enclosed): เหมาะสำหรับสายไฟโดยให้การสนับสนุนที่เพียงพอและสามารถป้องกันฝุ่นจากด้านบนได้ ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถจัดการสายไฟได้ง่าย ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับระบบที่มีการเคลื่อนไหวสูง
แบบปิดทึบ (Fully Enclosed): เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีสายไฟหรือสายเคเบิล เนื่องจากการออกแบบที่มั่นคงและการป้องกันที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้สามารถรองรับน้ำหนักได้ดีและลดความเสี่ยงจากการเสียหาย
แบบโปร่ง (Open Type): การออกแบบเปิดช่วยให้สามารถติดตั้งและปรับเปลี่ยนได้ง่าย รวมถึงมีน้ำหนักเบาเหมาะสำหรับเครื่องจักรที่ต้องการความคล่องตัว
ความต้องการในการบำรุงรักษา
– แบบปิดทึบ: หากต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยลง เพราะการป้องกันจากสิ่งสกปรกทำให้การซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง
– แบบโปร่ง: เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกในการเข้าถึงสายไฟ และต้องการบำรุงรักษาเป็นระยะๆ โดยไม่มีอุปสรรค
– แบบทึบบนโปร่งล่าง: ช่วยให้การบำรุงรักษาสะดวกขึ้น ในขณะที่ยังคงมีการป้องกันที่เพียงพอ
ความแตกต่างรางกระดูกงูสแตนเลสและรางเหล็ก
วัสดุและการทนต่อการกัดกร่อน
รางสแตนเลสผลิตจากสแตนเลสซึ่งมีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิล ทำให้เกิดชั้นฟิล์มป้องกันสนิมตามธรรมชาติ ส่งผลให้ทนต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดี แม้ในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือใกล้สารเคมี ส่วนรางเหล็กผลิตจากเหล็กธรรมดาหรือเหล็กชุบสังกะสี ซึ่งอาจเกิดสนิมได้หากเคลือบผิวไม่สมบูรณ์หรือมีรอยขูดขีด
ความแข็งแรงและการรองรับน้ำหนัก
รางเหล็กมีความแข็งแรงเชิงโครงสร้างที่ดี เหมาะสำหรับงานที่ต้องรองรับน้ำหนักมาก เช่น สายไฟหรือท่อขนาดใหญ่ ในขณะที่รางสแตนเลสแม้จะมีความแข็งแรงรองลงมา แต่ก็เพียงพอสำหรับงานที่ต้องการทั้งความแข็งแรงและการทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
การใช้งานเฉพาะด้าน
รางสแตนเลสเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ใกล้สารเคมี หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาด เช่น โรงงานผลิตอาหารและยา เนื่องจากไม่เกิดสนิมง่ายและทำความสะอาดได้ง่าย ในขณะที่รางเหล็กเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในพื้นที่แห้ง หรือในงานที่ต้องการลดต้นทุน เช่น การเดินสายไฟในอาคารหรือโรงงานทั่วไป
อายุการใช้งานและการบำรุงรักษา
รางสแตนเลสมีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า เนื่องจากไม่เกิดสนิมง่าย และต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่า ขณะที่รางเหล็กอาจต้องมีการเคลือบผิวใหม่หรือการบำรุงรักษาบ่อยขึ้น โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีการกัดกร่อนสูง
การเลือกใช้งานระหว่างรางพลาสติก VS เหล็ก
ความแข็งแรงและความทนทาน
Steel Chain: เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงดันสูง หรือที่มีแรงกระแทกมาก เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหนักหรือการใช้งานในเครื่องจักรขนาดใหญ่ เนื่องจากเหล็กมีความแข็งแรงและทนทานต่อการบีบอัดและการขัดถูได้ดี
Plastic Chain: เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการน้ำหนักเบาและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว โดยเฉพาะในเครื่องจักร CNC หรือในระบบอัตโนมัติที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งต้องการการระบายอากาศและการบำรุงรักษาที่ง่าย
น้ำหนักและความคล่องตัว
Steel Chain: มีน้ำหนักมากกว่า ซึ่งอาจทำให้ไม่เหมาะสมสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ความแข็งแรงของมันช่วยให้มั่นใจได้ว่ามีความเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
Plastic Chain: มีน้ำหนักเบา ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคล่องตัวและการติดตั้งที่ง่าย เช่น ในอุตสาหกรรมที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้งหรือในพื้นที่จำกัด
การป้องกันจากสภาพแวดล้อม
Steel Chain: สามารถต้านทานความร้อนสูงและสารเคมีได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงหรือมีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานเคมีหรือเหล็ก
Plastic Chain: มีความสามารถในการป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนจากสารเคมี โดยทั่วไปเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือในอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องการความสะอาด
การเลือกใช้งานควรพิจารณาจากลักษณะงานและเงื่อนไขการใช้งาน
การเลือกใช้งานควรพิจารณาจากลักษณะงานและเงื่อนไขการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่สูงสุด การป้องกันสายไฟหรือสายสัญญาณในการเคลื่อนที่อย่างเรียบร้อยและปลอดภัยในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมหรือการใช้งานที่ต้องการความทนทานและความเสถียร. การเลือกใช้วัสดุของรางต่าง ๆ จะขึ้นอยู่กับลักษณะงานและเงื่อนไขการใช้งาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานและการบำรุงรักษาในระยะยาว ค่าใช้จ่ายและการบำรุงรักษา Steel Chain: มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าและอาจต้องการการบำรุงรักษาที่มากกว่า เช่น การตรวจสอบการเกิดสนิมหรือการชำรุดจากการใช้งาน แต่ในทางกลับกันจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานPlastic Chain: โดยทั่วไปมีราคาถูกกว่าและการบำรุงรักษาน้อยกว่า เนื่องจากไม่ต้องกังวลเรื่องการกัดกร่อน อย่างไรก็ตาม ควรพิจารณาถึงการใช้วัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวอย่างการใช้งานกระดูกงูร้อยสายไฟ
ระบบเครื่องจักร CNC และเครื่องตัดเลเซอร์
Chain Steel: รางเหล็กเหมาะสำหรับเครื่องตัดเลเซอร์ที่ทำงานในอุณหภูมิสูง หรือเครื่องจักรที่มีแรงกระแทกและแรงบิดจากการเคลื่อนไหว เนื่องจากวัสดุเหล็กสามารถทนต่อความร้อนและแรงกระแทกได้ดี
Chain Plastic: รางพลาสติกเหมาะสำหรับเครื่องจักร CNC ที่เน้นการเคลื่อนไหวรวดเร็วและแม่นยำ ด้วยน้ำหนักที่เบาของพลาสติก ช่วยลดแรงเสียดทานและเพิ่มความรวดเร็วในการตอบสนองของเครื่องจักร
โรงงานผลิตเหล็กและโลหะหนัก
Chain Steel: ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการความแข็งแรงในการรองรับสายไฟและท่อที่มีน้ำหนักมาก เนื่องจากสภาพแวดล้อมมักมีแรงกระแทกและอุณหภูมิสูง รางเหล็กจึงเหมาะสมในการต้านทานความร้อนและทนต่อการเสียดสี
Chain Plastic : ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับแรงกระแทกสูงและอุณหภูมิที่รุนแรง
เครื่องจักร CNC และเครื่องตัดเลเซอร์
Chain Steel: ใช้ในเครื่องตัดเลเซอร์ที่มีอุณหภูมิสูงหรือที่มีแรงกระแทกมาก โดยรางเหล็กสามารถทนทานต่อความร้อนและแรงบิดที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร
Chain Plastic: เหมาะสำหรับเครื่องจักร CNC ที่ต้องการการเคลื่อนไหวรวดเร็วและมีความยืดหยุ่น น้ำหนักเบาของพลาสติกช่วยให้การเคลื่อนไหวรวดเร็วและตอบสนองดี
ระบบสายพานลำเลียงในเหมืองแร่
Chain Steel: เหมาะสำหรับการใช้งานในเหมืองแร่ที่มีการเคลื่อนย้ายวัสดุหนัก มีฝุ่นและความชื้น รางเหล็กจะช่วยป้องกันความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทายและมีแรงกระแทกสูง
Chain Plastic: อาจไม่ทนทานพอต่อสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนและแรงกดดันจากการใช้งานในระยะยาว
รางกระดูกงู เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับจัดเก็บและปกป้องสายไฟหรือสายเคเบิลที่ต้องการเคลื่อนที่ไปมาในอุตสาหกรรม เพื่อลดการเสียดสีและป้องกันการหักหรือสายไฟที่ขาดขาด ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ และช่วยลดความเสียดสีของสายไฟที่เกิดจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่ ประโยชน์หลักของคือการช่วยป้องกันสายไฟหักหรือพันกันจากการเคลื่อนที่ผิดพลาดและช่วยให้การบำรุงรักษาสายไฟหรือสายเคเบิลง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีการเคลื่อนที่ต่อเนื่องหรือเครื่องจักรที่มีการใช้งานแบบอัตโนมัติ