ตู้สแตนเลส 304 ขนาด 300x450x150
ตู้สแตนเลส 304 คือ ตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ออกแบบมาให้มีความแข็งแรง ทนทาน และป้องกันสิ่งแวดล้อมภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม วัสดุที่ใช้ผลิตคือ สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีคุณสมบัติทนการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิมง่าย เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
หมวดหมู่สินค้า
วัสดุและคุณสมบัติของสแตนเลส 304
ตู้สแตนเลส เป็นตู้ที่ได้รับความนิยมสูงในงานอุตสาหกรรมและงานติดตั้งระบบไฟฟ้า เนื่องจากวัสดุ สแตนเลสเกรด 304 (Stainless Steel 304) มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และไม่เป็นสนิมง่าย จึงสามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร วัสดุ 304 ยังทนต่อความร้อนได้สูง ไม่บิดงอง่าย และทำความสะอาดง่าย ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในงานที่ต้องการความปลอดภัยและความสะอาด เช่น ห้องควบคุมไฟฟ้า โรงงานยา หรือห้องเย็น
การออกแบบโครงสร้างตู้สแตนเลส 304
ตัวตู้มีการออกแบบที่เน้นความแข็งแรง ทนแรงกระแทก และทนต่อการบิดงอ โดยประตูสามารถปิดล็อกแน่นหนาด้วยกุญแจหรือก้านล็อกตามรุ่น เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของอุปกรณ์ภายใน นอกจากนี้พื้นผิวสแตนเลสยังดูเงางาม ทำความสะอาดง่าย และช่วยให้ภาพรวมของพื้นที่ติดตั้งดูเป็นระเบียบและมีความสวยงาม
- ความแข็งแรงและทนทาน – ผลิตจากสแตนเลส 304 ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อแรงกระแทก ไม่บุบง่าย และรองรับน้ำหนักอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตู้ได้ดี
- ทนการกัดกร่อนและสนิม – สแตนเลส 304 มีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิลที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิม ทำให้ตู้สามารถใช้งานได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง รวมถึงในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
- ป้องกันฝุ่นและน้ำ – มาพร้อมซีลยางกันน้ำที่ช่วยเพิ่มระดับการป้องกันตามมาตรฐาน IP55–IP66 (ขึ้นอยู่กับการออกแบบ) ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่นละอองและละอองน้ำ
- ความปลอดภัยในการใช้งาน – ตัวตู้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น กุญแจล็อก หรือบานพับที่แข็งแรง เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
การออกแบบโครงสร้างตู้สแตนเลส 304
วัสดุ 304 ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และป้องกันการกัดกร่อนได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือใกล้สารเคมี การเลือกใช้วัสดุเกรด 304 ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการเกิดสนิม และดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ โครงสร้างของตู้สแตนเลส ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทก ป้องกันฝุ่นและน้ำ ตามมาตรฐาน IP ที่กำหนด จึงช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนช่วยจัดระเบียบการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ หรือแผงควบคุมย่อย ได้อย่างเป็นระเบียบ
วัสดุและความหนา
- ผลิตจากสแตนเลส 304 หนา 1.2–1.5 มม. ขึ้นไป เพื่อให้แข็งแรง ไม่บิดงอ และทนต่อแรงกระแทก
- ผิวสแตนเลสผ่านการขัดเงาหรือขัดด้าน (Hairline Finish) เพิ่มความสวยงามและลดการเกิดรอยขีดข่วน
โครงสร้างตู้
- ตัวตู้เป็นแบบเชื่อม (Welded Construction) เพื่อความแน่นหนาและทนทานต่อการสั่นสะเทือน
- มีโครงเสริมด้านใน (Reinforcement Frame) ช่วยให้รับน้ำหนักอุปกรณ์ไฟฟ้าได้มาก
ฝาตู้ (Door Design)
- เป็นบานพับเปิดด้านหน้า มีซีลยางกันน้ำ กันฝุ่น (EPDM หรือ NBR Gasket) รอบขอบฝา
- ใช้บานพับสแตนเลสที่แข็งแรง และระบบล็อกแบบกุญแจหรือบิดหมุน (Cam Lock) เพื่อความปลอดภัย
การป้องกันฝุ่นและน้ำ
- มีการออกแบบซีลยางรอบฝาให้ได้มาตรฐาน IP55 – IP66 เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ
- เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในโรงงานและกลางแจ้ง
ช่องต่อสายและการติดตั้ง
- มีแผ่นเจาะรู (Gland Plate) ด้านล่างหรือด้านข้าง สำหรับติดตั้งเคเบิ้ลแกลนและร้อยสายไฟ
- ออกแบบให้ติดตั้งได้ทั้งแบบ ยึดผนัง (Wall Mounting) หรือ ตั้งพื้น (Free Standing) ขึ้นอยู่กับขนาดและการใช้งาน
การระบายอากาศ (Option)
- บางรุ่นมีการติดตั้ง ช่องระบายอากาศ (Ventilation Louver) หรือพัดลมระบาย เพื่อป้องกันความร้อนสะสมภายในตู้
ความแตกต่างระหว่างตู้สแตนเลส 304 กับ 316 สำหรับตู้ไฟฟ้า
ตู้ไฟฟ้าสตีลเลสถือเป็นตัวเลือกยอดนิยมในงานระบบไฟฟ้าและอุตสาหกรรม เนื่องจากมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน แข็งแรง และดูแลรักษาง่าย โดยเฉพาะตู้คอนโทรลสแตนเลส 304 และ 316 ที่ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย หลายคนอาจสงสัยว่าทั้งสองชนิดแตกต่างกันอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับการใช้งาน
- ความสำคัญของการเลือกตู้ไฟฟ้า
การเลือกตู้ไฟฟ้าที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะตู้ไฟฟ้าไม่เพียงแค่เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังต้องป้องกัน ฝุ่น น้ำ ความชื้น และสารเคมี การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ ลดความเสียหาย และเพิ่มความปลอดภัยให้ระบบไฟฟ้า - สำหรับงานทั่วไป
เป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับงานอุตสาหกรรมทั่วไป เพราะมีความแข็งแรง ทนต่อสนิมได้ดี เหมาะกับสภาพแวดล้อม ภายในอาคารหรือโรงงาน ที่ไม่มีสารเคมีรุนแรงหรือความชื้นสูงมาก เช่น โรงงานประกอบชิ้นส่วน ออฟฟิศ โรงงานแปรรูปทั่วไป การเลือกสแตนเลส 304 ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและคุ้มค่าในงานใช้งานทั่วไป
- วัสดุ 316 สำหรับสภาพแวดล้อมรุนแรง
ถูกพัฒนาให้ทนต่อ การกัดกร่อนสูงกว่า 304 เนื่องจากมีส่วนผสมของโมลิบดีนัม ทำให้สามารถทนต่อน้ำทะเล เกลือ และสารเคมีอุตสาหกรรมได้ดี จึงเหมาะกับโรงงาน อาหาร เครื่องดื่ม โรงงานยา โรงงานเคมี หรือพื้นที่ชายฝั่งทะเล ที่ต้องการความทนทานสูงสุดต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง - การพิจารณาสภาพแวดล้อม
ก่อนเลือกตู้ไฟฟ้า ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมโดยรอบ เช่น ความชื้น อุณหภูมิ ฝุ่น สารเคมี หรือไอเกลือ หากเป็นพื้นที่ แห้งและไม่มีสารกัดกร่อนรุนแรง ตู้ 304 เพียงพอ แต่ถ้าเป็นพื้นที่ ชื้นหรือมีสารเคมี น้ำทะเล หรือสเปรย์เกลือ ควรเลือกสแตนเลส 316 เพื่อให้มั่นใจในความทนทาน
สรุปการใช้งานและการบำรุงรักษา
ตู้สแตนเลส 304 ขนาด 300x450x150 มม. คือ ตู้ไฟฟ้าที่ผลิตจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อน และไม่เป็นสนิมง่าย ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร ขนาด 300x450x150 มม. ถือเป็นขนาดมาตรฐานที่เหมาะสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็กถึงปานกลาง เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ หรือแผงควบคุมย่อย ตัวตู้ออกแบบมาให้ ป้องกันฝุ่นและน้ำ ด้วยซีลยางรอบขอบประตูตามมาตรฐาน IP55–IP66 ช่วยให้การใช้งานในสภาพแวดล้อมทั่วไปปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ภายใน นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ แขวนผนังหรือยึดกับโครงเหล็ก และรองรับการเจาะรูสำหรับเคเบิ้ลแกลนหรือท่อร้อยสาย ทำให้จัดระเบียบสายไฟได้ง่าย