สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

หมวด ตู้กันน้ำ IP66

ตู้กันน้ำ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องมือต่าง ๆ จากการเข้าถึงน้ำหรือความชื้นที่สูง เป็นพิเศษในการใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง โดยส่วนใหญ่จะมีการออกแบบมาเพื่อรับมือกับการเจอน้ำได้โดยไม่มีผลกระทบต่ออุปกรณ์ภายในตู้ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังสามารถป้องกันการเข้าถึงของฝุ่น ซึ่งมักพบในสถานที่ที่มีการก่อสร้างหรือเกิดฝนตกในพื้นที่เปิดโล่ง 

คุณสมบัติองตู้กันน้ำตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต

การเลือกใช้ประเภทขึ้นอยู่กับความต้องการในการคงทนต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่แตกต่างกันของแต่ละสถานที่และงานที่ใช้งานนั้น ๆ ความทนทานต่อสภาพอากาศ  บางวัสดุอาจจะทนต่อความร้อน ความชื้น หรือการกัดกร่อนได้ดีกว่าวัสดุอื่นๆ ความแข็งแรง สำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงสูง เช่น โครงสร้างอาคาร ควรเลือกวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทาน อายุการใช้งาน ความทนทานและอายุการใช้งานของวัสดุเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญในการตัดสิน โดยมีวัสดุดังนี้

  • พลาสติก ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene): ตู้พลาสติกเป็นตู้ที่มีความแข็งแรงและคงทนต่อการใช้งานที่มีความชื้นสูง โดยมักนิยมใช้ในงานที่ต้องการเคลื่อนย้ายหรือติดตั้งง่าย เนื่องจากมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่น ๆ

  • โพลีเอสเตอร์เส้นใยไฟเบอร์ (Polyester Fiberglass): ตู้ polyester fiberglass เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่มีความชื้นสูงและอาจมีการสัมผัสกับสารเคมีหรือกระแสไฟฟ้า มีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน

  • สแตนเลส (Stainless Steel): ตู้สแตนเลสมีความแข็งแรงและคงทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำ และมีความสวยงามทางสถาปัตยกรรม สามารถใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีการสัมผัสกับน้ำอย่างต่อเนื่องได้

  • เหล็ก (Steel): ตู้เหล็กมักมีความแข็งแรงสูงและเหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่ต้องการความคงทนต่อการใช้งานหนัก แต่อาจต้องมีการป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำอย่างเหมาะสม

  • อลูมิเนียม (Aluminum): ตู้อลูมิเนียมมักมีน้ำหนักเบาและคงทนต่อการใช้งานที่มีความชื้นสูง อย่างไรก็ตาม อลูมิเนียมไม่คงทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำเท่ากับสแตนเลสหรือเหล็ก

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

คุณสมบัติองตู้กันน้ำตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต

คุณสมบัติของตู้กันน้ำมีความหลากหลายตามวัสดุที่ใช้ผลิต เช่น พลาสติก ABS มีน้ำหนักเบาและคงทนต่อความชื้นสูง ส่วนสแตนเลสมีความแข็งแรงและคงทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมี การเลือกใช้ควรพิจารณาความต้องการและสภาพแวดล้อมการใช้งานอย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันอุบัติเหตุและรักษาความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม

พลาสติก ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene):

    • ความแข็งแรง: ABS มีความแข็งแรงที่ดีและไม่แตกหักง่ายในการใช้งานปกติ.
    • ความทนทานต่อสารเคมี: มีความทนทานต่อสารเคมีบางชนิด แต่ไม่ควรใช้ในสถานที่มีสารเคมีเป็นพิเศษหรือสารเคมีที่เข้มข้นมาก.
    • การควบคุมอุณหภูมิ: มีความทนทานต่ออุณหภูมิที่ไม่สูงมาก ไม่เหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูงมาก.

โพลีเอสเตอร์เส้นใยไฟเบอร์ (Polyester Fiberglass):

    • ความทนทานต่อสารเคมี: มีความทนทานต่อสารเคมีและกระแสไฟฟ้า ดังนั้นเหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่ต้องการความคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อน.
    • การควบคุมอุณหภูมิ: มีความทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงกว่า ABS แต่ยังขึ้นอยู่กับวัสดุในชิ้นงานบางอย่าง
    • ความทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทก: โพลีเอสเตอร์เส้นใยไฟเบอร์มีความทนทานต่อแรงกดและแรงกระแทกที่ดี ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้งานในแวดล้อมที่ต้องการความคงทนและความทนทานต่อแรงกระแทก เช่น การใช้เป็นวัสดุสำหรับชิ้นส่วนของเครื่องจักรหรือโครงสร้างที่ต้องมีการทนทานต่อแรงกระแทกและแรงกดต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพ

อลูมิเนียม (Aluminum):

    • ความทนทานต่อน้ำและความชื้น: อลูมิเนียมไม่คงทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำเท่ากับสแตนเลสหรือเหล็ก แต่สามารถใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูงในระดับที่เหมาะสมได้.
    • น้ำหนักเบา: อลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่าวัสดุอื่น ๆ ดังนั้นเหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่ต้องการน้ำหนักเบา.

สแตนเลส (Stainless Steel):

    • ความทนทานต่อน้ำและความชื้น: มีความทนทานต่อน้ำและความชื้นที่ดี สามารถใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูงหรือมีการสัมผัสกับน้ำอย่างต่อเนื่องได้.
    • ความทนทานต่อสารเคมี: สแตนเลสมีความทนทานต่อสารเคมีบางชนิด แต่อาจกัดกร่อนหรือมีการเกิดละเอียดของสารเคมีตามอาจารย์ที่ติดต่อกับผิวเส้นของสแตนเลส.
    • การควบคุมอุณหภูมิ: สามารถใช้งานได้ในช่วงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับเครื่องมือหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า.

เกร็ดความเกียวกับการเลือกตู้ตามมาตรฐานกันน้ำ

มาตรฐาน IP55 และ IP66 เป็นมาตรฐานที่ใช้ในการกำหนดความสามารถในการป้องกันตัวของอุปกรณ์ต่าง ๆ ตามระดับความเสี่ยงจากน้ำและฝุ่น การเลือกตู้ตามมาตรฐาน IP55 หรือ IP66 นอกจากความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่นแล้ว ยังควรพิจารณาความต้องการของงานและสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น การใช้งานในสถานที่ที่มีการเจอน้ำหรือฝุ่นมากน้อยเพียงใด การเลือกมาตรฐานที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันอุปกรณ์ภายในตู้อย่างเหมาะสมที่สุดครับ

ตัวอย่างการใช้งานตู้กันน้ำ IP55-IP66

การใช้งานในแต่ละอุตสาหกรรมจะต้องการความคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น การเข้าถึงน้ำหรือฝุ่น การใช้งานตามมาตรฐาน IP55 หรือ IP66 จะช่วยให้ได้ประสิทธิภาพในการป้องกันอุปกรณ์ภายในตู้อย่างเหมาะสมและปลอดภัยในการใช้งาน

  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม (Food and Beverage Industry):

    • วัสดุ: Stainless Steel (สแตนเลส)
    • การใช้งาน: ใช้ตู้สแตนเลส  ในการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องควบคุมการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม โดยตู้นี้จะมีความคงทนต่อการเจอน้ำและสารเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตอาหาร
  • อุตสาหกรรมเครื่องจักรและอุปกรณ์ (Machinery and Equipment Industry):

    • วัสดุ: Polyester Fiberglass (โพลีเอสเตอร์เส้นใยไฟเบอร์)
    • การใช้งาน: ใช้ตู้ Polyester Fiberglass  เพื่อป้องกันเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ต้องการความคงทนต่อการเข้าถึงน้ำหรือฝุ่นในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
  • อุตสาหกรรมการผลิตเชื้อเพลิง (Fuel and Energy Industry):

    • วัสดุ: Steel (เหล็ก)
    • การใช้งาน: ใช้ตู้เหล็ก เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตเชื้อเพลิง โดยมีความคงทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
  • อุตสาหกรรมการผลิตวัสดุโลหะ (Metal Manufacturing Industry):

    • วัสดุ: Aluminum (อลูมิเนียม)
    • การใช้งาน: ใช้ตู้อลูมิเนียม เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในกระบวนการผลิตโลหะ โดยมีความคงทนต่อการเจอน้ำและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นเป็นพิเศษ

สรุป

การเลือกตู้กันน้ำในอุตสาหกรรมต้องพิจารณาวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น การใช้ตู้สแตนเลส IP66 ในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อความคงทนต่อน้ำและสารเคมี ในอุตสาหกรรมมีประโยชน์ในการป้องกันอุปกรณ์ภายในจากความเสียหายที่เกิดจากน้ำ ฝุ่น และสารเคมีที่อาจเข้ามาออกมาในสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยและความเสียหายที่เกิดจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรม

เราต้องการให้สินค้าถึงมือผู้ใช้งานมากขึ้นโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย สามารส่งสเปกเพื่อเลือกสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุดติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่มเติมได้ที่ฝ่ายขายค่ะ

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

กล่องอลูมิเนียม TIBOX (LV2010) ขนาด 200x100x80 mm.

โครงการ :

กล่องเทอร์มินอลบล็อก TIBOX IP66 (PBT-6-P)

กล่องพลาสติกกันน้ำฝาทึบ (TJ-AG-1520) 150x200x150 mm.

ตู้สแตนเลสกันน้ำ ขนาด 280x350x150 mm.

โครงการ : ติดตั้งเสาลำโพงกระจายเสียง

ตู้ไฟเบอร์กลาส TIBOX IP65 (TIP325) 300x250x140 mm.

โครงการ :
การเลือกขนาดตู้สแตนเลส

การเลือกขนาดตู้สแตนเลสและขนาดความหนา

การเลือกขนาดความหนาของตู้ (Stainless Steel Enclosure) จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและเงื่อนไขการทำงานที่ต้องการประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตู้ โดยพิจารณาความต้องการในการต้านทานต่อแรงกระแทกจากภายนอก เช่น การใช้งานในโรงงานที่มีการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์หนัก หรือที่มีการเคลื่อนที่ของบุคคลและอุปกรณ์สูง เลือกเกรดของแสตนเลส   อ่านบทความ

การดูแลรักษาตู้สแตนเลสไฟฟ้า

การดูแลรักษาตู้สแตนเลสไฟฟ้า 304 และ 316  

การใช้งานและเพื่อให้รักษาความทนทานและการใช้งานที่ยาวนานของตู้การเลือกเกรดที่เหมาะสม: 304: เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการติดต่อกับสารเคมีเป็นจำนวนมาก มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสึกกร่อนในสภาพทั่วไป 316: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อนและสึกกร่อนที่ดีกว่า 304 โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อม   อ่านบทความ

การติดตั้งท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ

การติดตั้งท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟและการเลือกขนาด

การเลือกขนาดท่อ Flex ที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้สามารถรองรับสายไฟได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขนาดท่อควรพิจารณาจากจำนวนและขนาดของสายไฟที่จะเดินภายในท่อ ควรเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่พอที่จะให้สายไฟผ่านได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อน นอกจากนี้ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมที่ท่อจะติดตั้ง   อ่านบทความ

Scroll to Top