สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

flexible conduit
(ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA)

Flexible Conduit (ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA: Polyamide) เป็นท่อร้อยสายไฟที่ทำจากวัสดุโพลีเอไมด์ (PA) ซึ่งมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับรูปทรงได้ง่าย ท่อชนิดนี้มีความทนทานต่อการขูดขีด, การบิดงอ, แรงกระแทก, และการบีบอัด ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการเคลื่อนที่หรือการติดตั้งในพื้นที่จำกัด ทนทานต่อรังสียูวีและความร้อนสูง จึงสามารถใช้งานกลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่มีแสงแดดได้ดี ท่อเฟล็กซ์ชนิดนี้ยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพจากสารเคมีบางชนิดและการกัดกร่อน

" flexible conduit (ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA) "

แคตตาล็อกสินค้า🖱️

จำหน่ายท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PE / PA คุณภาพสูง

ปกป้องสายไฟของคุณด้วย ท่อร้อยสายไฟ PE และ PA ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย ทนทาน และติดตั้งง่าย รองรับทุกการใช้งาน ทั้งในอุตสาหกรรมและงานติดตั้งทั่วไป

  • PE (Polyethylene): ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมี
    ✅ มีให้เลือก 2 แบบ: แบบมาตรฐาน (Closed) สำหรับป้องกันสายไฟสูงสุด แบบผ่ากลาง (Split) ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องถอดสายไฟ
  • PA (Polyamide): ทนความร้อนสูง แข็งแรง และทนต่อแรงกระแทก
    ✅ โค้งงอได้ดี ติดตั้งง่าย เหมาะกับพื้นที่จำกัด
    ✅ ป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงกระแทก ได้เป็นอย่างดี
    ✅ ได้รับมาตรฐาน CE

💡 เหมาะสำหรับ:

🔹 งานเดินสายไฟในอาคาร บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม
🔹 ป้องกันสายไฟจากความเสียหาย เช่น การขัดสีและแรงบีบอัด ใช้ในระบบเครื่องจักร ระบบไฟฟ้า และงานติดตั้งภายในและนอกอาคาร

📦 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ 📞 ติดต่อเราได้เลย! 🚚

ข้อมูลทั่วไป Flexible Conduit (ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA: Polyamide)

Flexible Conduit (ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA) เป็นท่อร้อยสายไฟที่ผลิตจากวัสดุ Polyamide (PA6) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูง ทนต่อแรงกระแทก การบีบอัด และการขูดขีดได้ดี ท่อชนิดนี้ออกแบบมาเพื่อปกป้องสายไฟและสายสื่อสารจากความเสียหาย และสามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพแวดล้อมภายในและภายนอกอาคาร

ความยืดหยุ่นสูง (High Flexibility): ท่อสามารถโค้งงอได้ง่ายโดยไม่เสียรูปทรง และสามารถกลับคืนรูปได้ดีหลังจากถูกบีบอัด
ทนต่อแรงกระแทกและแรงบีบอัด (Impact & Crush Resistance): ไม่เสียหายง่ายเมื่อโดนกดทับหรือชนกระแทก
ป้องกันไฟลาม (Flame Retardant): ผ่านมาตรฐาน UL94 V-2 ซึ่งช่วยลดการลุกลามของไฟ
ทนทานต่อรังสียูวี (UV Resistance): เหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้งโดยไม่เสื่อมสภาพเร็ว
ทนทานต่อสารเคมี (Chemical Resistance): สามารถทนต่อสารเคมี น้ำมัน และสารกัดกร่อนบางประเภทได้
กันน้ำและฝุ่น (Water & Dust Protection): สามารถกันน้ำและฝุ่นได้สูงสุด IP66 – IP68 (เมื่อใช้ร่วมกับข้อต่อที่เหมาะสม)
ไม่มีฮาโลเจน (Halogen-Free): ไม่ปล่อยสารพิษเมื่อเกิดการเผาไหม้

หมวด สินค้าใกล้เคียง

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว

รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

Flexible Conduit PA ติดตั้งได้ง่ายและสามารถใช้ร่วมกับ ข้อต่อเกลียว

ติดตั้งได้ง่ายและสามารถใช้ร่วมกับ ข้อต่อเกลียว PG, NPT, และ M-Type เพื่อเพิ่มความแน่นหนาและป้องกันฝุ่นหรือน้ำ ข้อต่อเหล่านี้ช่วยให้การเชื่อมต่อกับ แผงควบคุม, เครื่องจักร, หรือกล่องไฟฟ้า เป็นไปอย่างมั่นคง ป้องกันสายไฟไม่ให้หลุดหรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง การเลือกข้อต่อที่เหมาะสมกับขนาดของท่อช่วยให้การติดตั้งรวดเร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดความเสียหายต่อสายไฟด้านใน นอกจากนี้ ข้อต่อแบบกันน้ำ IP66 – IP68 ยังช่วยปกป้องสายไฟจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เมื่อติดตั้งร่วมกับ แคลมป์รัดท่อหรือข้อต่อแบบล็อคแน่น จะช่วยให้ระบบเดินสายไฟมีความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของสายไฟ ควรเลือก ข้อต่อเกลียว PG, NPT หรือ M-Type ให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและอุปกรณ์ที่ใช้งาน ข้อต่อ PG นิยมใช้ในงานระบบไฟฟ้าและตู้ควบคุมภายในอาคาร ขณะที่ NPT เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการซีลแน่นเพื่อกันน้ำและฝุ่น ส่วน M-Type เป็นมาตรฐานยุโรปที่ใช้กันแพร่หลายในเครื่องจักรและอุปกรณ์ไฟฟ้า การติดตั้งทำได้โดยการขันข้อต่อเข้ากับปลายท่อให้แน่นเพื่อป้องกันการหลุดและเพิ่มความแข็งแรง 

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.

  • การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
    เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.

  • การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
    หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้

เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.

ความเหมาะสมในงานติดตั้งและการใช้งานของท่ออ่อนร้อยสายไฟ PA

ท่อ PA มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ช่วยรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานในพื้นที่จำกัด หรือการติดตั้งในมุมที่ต้องการการดัดโค้ง นอกจากนี้ ท่อยังทนต่อการกระแทกและแรงดันได้ดี จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทาน เช่น ระบบสายไฟในเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา คุณสมบัติการยืดหยุ่นกลับคืนรูปช่วยให้ท่อสามารถปรับตัวได้กับการใช้งานในสถานที่ที่มีลักษณะซับซ้อนหรือเคลื่อนไหวตลอดเวลา โดยไม่ลดประสิทธิภาพการปกป้องสายไฟ การเลือกใช้ท่อ PA จึงเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งในด้านความสะดวกในการติดตั้งและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าในระยะยาว.

รัศมีการโค้งงอขั้นต่ำ (Min. Bend Radius)

คุณสมบัติเด่นในการยืดหยุ่นกลับคืนรูป

กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 – IP68 (ขึ้นอยู่กับข้อต่อ)

เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) และ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID)

เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD) และ เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) เป็นการวัดขนาดของ Flexible Conduit PA ที่สำคัญในการเลือกใช้งาน ท่อมีขนาด OD ที่วัดจากขอบนอกสุดของท่อ ซึ่งจะช่วยให้ทราบขนาดที่ต้องการในการติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัด ส่วน ID เป็นการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในท่อ ซึ่งใช้เพื่อคำนวณความสามารถในการรองรับสายไฟภายในท่อ หากเลือกขนาดท่อที่มี OD และ ID ที่เหมาะสม จะช่วยให้การเดินสายไฟมีความปลอดภัยและไม่เกิดการกดทับสายไฟจนทำให้เกิดความเสียหาย ขนาดเหล่านี้ยังมีผลต่อการเลือกข้อต่อและการติดตั้งในระบบไฟฟ้า เพื่อให้ท่อสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งาน

การเลือกขนาด OD และ ID ที่เหมาะสมมีผลต่อการติดตั้งท่อ Flexible PA ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดย OD จะเป็นตัวกำหนดพื้นที่ที่ท่อจะครอบคลุมในระบบการติดตั้ง เช่น ภายในตู้ไฟฟ้าหรือเครื่องจักร ขณะที่ ID จะช่วยให้มั่นใจได้ว่า สายไฟ สามารถเดินได้ภายในท่อโดยไม่เกิดการบีบอัดหรือทำให้เกิดความเสียหาย

การเลือก ID ที่เหมาะสมยังช่วยให้การระบายความร้อนของสายไฟทำได้ดีขึ้น ขนาดท่อที่มี OD และ ID ที่สอดคล้องกันจะช่วยให้การเดินสายไฟในท่อทำได้สะดวกและปลอดภัย ลดการเสี่ยงจากการเกิดการขัดข้องหรือปัญหาการทำงานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว

OD และ ID ที่เหมาะสมยังช่วยในการป้องกันการขูดขีดและการเสียดสีของสายไฟภายในท่อ โดยการเลือก OD ที่พอดีกับขนาดพื้นที่ติดตั้งและ ID ที่สามารถรองรับจำนวนสายไฟได้อย่างเพียงพอจะช่วยให้ท่อไม่ถูกบีบหรือยืดจนเกินไป ทั้งนี้ยังช่วยให้ท่อมีความยืดหยุ่นในการเคลื่อนไหวหรือปรับแต่งในพื้นที่จำกัด การเลือกขนาดที่เหมาะสมยังช่วยให้ท่อสามารถรองรับแรงดึงและการขยายตัวจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้ดี ทำให้ระบบเดินสายไฟทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

รัศมีการโค้งงอขั้นต่ำ (Min. Bend Radius)

ขนาด (Size)เส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (OD)เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID)รัศมีการโค้งงอขั้นต่ำ (Min. Bend Radius)
Ø6 mm7.8 mm4.5 mm15 mm
Ø10 mm12.5 mm8.5 mm20 mm
Ø16 mm18.5 mm13.0 mm25 mm
Ø20 mm23.0 mm17.0 mm30 mm
Ø25 mm28.5 mm22.0 mm35 mm
Ø32 mm37.0 mm29.0 mm45 mm
Ø40 mm47.5 mm38.0 mm55 mm
Ø50 mm57.5 mm48.0 mm65 mm

รัศมีการโค้งงอขั้นต่ำ (Min. Bend Radius) คือค่าที่กำหนดว่าท่อ Flexible Conduit PA สามารถโค้งงอได้มากที่สุดโดยไม่ทำให้สายไฟภายในเสียหายหรือประสิทธิภาพลดลง โดยทั่วไป ค่ารัศมีนี้จะถูกกำหนดตามขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ เช่น ท่อขนาดเล็กมีรัศมีโค้งงอที่แคบกว่า ในการติดตั้ง ควรเว้นระยะให้มากกว่าค่าขั้นต่ำเล็กน้อยเพื่อป้องกันการแตกหักหรือบีบอัดของสายไฟ รัศมีโค้งงอมีความสำคัญอย่างยิ่งใน เครื่องจักรอุตสาหกรรม หุ่นยนต์ และระบบสายพานลำเลียง ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา หากใช้ท่อที่มีรัศมีโค้งงอที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้สายไฟด้านในเกิดการฉีกขาด ลดอายุการใช้งาน และเพิ่มค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา การเลือกท่อที่เหมาะสมกับพื้นที่และลักษณะการใช้งานช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

ในเครื่องจักรอุตสาหกรรมต้องคำนึงถึง รัศมีการโค้งงอ เพื่อป้องกันสายไฟภายในจากความเสียหาย โดยทั่วไป ควรเว้นระยะให้เพียงพอเพื่อไม่ให้เกิดแรงดึงหรือหักงอเกินไป ท่อสามารถยึดติดกับโครงสร้างของเครื่องจักรได้โดยใช้ แคลมป์รัดท่อ หรือ ข้อต่อแบบล็อคแน่น เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ผิดปกติ เมื่อติดตั้งในเครื่อง CNC หรือหุ่นยนต์ ควรเลือกขนาดท่อที่สามารถรองรับจำนวนสายไฟที่ต้องใช้ได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ หากใช้งานในบริเวณที่มีความร้อนสูง ควรเลือก PA ที่ทนความร้อนได้ดี เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของวัสดุ ในระบบสายพานลำเลียง ท่อเฟล็กซ์ช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสีที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของชิ้นส่วนภายในระบบ 

คุณสมบัติเด่นในการยืดหยุ่นกลับคืนรูป

คุณสมบัติการป้องกันไฟลาม ของ Flexible Conduit PA เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการป้องกันการแพร่กระจายของไฟเมื่อเกิดอัคคีภัย ท่อ Polyamide (PA) ได้รับการออกแบบให้สามารถทนทานต่อความร้อนและไม่ลามไฟตามมาตรฐาน UL94 V-2 ซึ่งหมายความว่าเมื่อมีไฟไหม้ท่อจะหยุดการลามไฟได้ในระยะเวลาที่กำหนดและไม่ทำให้เกิดการลุกลามไปยังวัสดุอื่น ๆ ท่อที่มีคุณสมบัตินี้สามารถใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากอัคคีภัยได้อย่างปลอดภัย เช่น ภายในอาคาร โรงงาน หรือเครื่องจักรที่มีการใช้งานไฟฟ้า นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการเกิดไฟไหม้จากการเสียดสีสายไฟภายในท่อ
คุณสมบัติการป้องกันไฟลามนี้ ยังช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่ออัคคีภัย เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหรืออาคารที่มีการเดินสายไฟจำนวนมาก การป้องกันไฟลามช่วยให้ท่อสามารถรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและลดความเสี่ยงจากการแพร่กระจายของไฟไปยังส่วนอื่น ๆ

ของอาคารหรือเครื่องจักรได้ โดยท่อจะไม่ทำให้เกิดการหลอมละลายหรือปล่อยสารพิษในกรณีที่เกิดไฟไหม้ นอกจากนี้ยังช่วยให้การบำรุงรักษาและการตรวจสอบระบบไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น เพราะท่อสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงและมีความเสถียรในการใช้งานในระยะยาว ท่อเฟล็กซ์ PA ที่มีคุณสมบัติการป้องกันไฟลามจึงเ

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA เหมาะกับการใช้งานประเภทใดบ้าง

ท่ออ่อนร้อยสายไฟ PA (Polyamide) เหมาะสำหรับงานที่ต้องการปกป้องสายไฟในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น งานอุตสาหกรรมที่ต้องทนต่อสารเคมีและแรงกระแทก งานในยานยนต์และระบบขนส่งที่มีการสั่นสะเทือน งานเดินสายไฟกลางแจ้งที่ต้องทน UV และความชื้น รวมถึงการใช้งานในอาคารและงานก่อสร้างที่ต้องการป้องกันไฟลามและความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับระบบไฟฟ้าในเรือ เครื่องบิน และเครื่องจักรเฉพาะทางที่ต้องการความยืดหยุ่น ทนความร้อน และน้ำหนักเบา นอกจากนี้ คุณสมบัติในการกันน้ำและป้องกันไฟลามช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อความชื้นหรือไฟฟ้าลัดวงจร เป็นตัวเลือกที่เชื่อถือได้ในงานระบบไฟฟ้าที่ต้องการความคงทนและประสิทธิภาพสูง

กันน้ำและฝุ่นระดับ IP54 – IP68 (ขึ้นอยู่กับข้อต่อ)

Flexible Conduit PA สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP54 – IP68 ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของข้อต่อที่ใช้ติดตั้งร่วมกัน IP54 ให้การป้องกันฝุ่นระดับปานกลางและกันน้ำกระเซ็นได้ เหมาะสำหรับการใช้งานภายในอาคาร ในขณะที่ IP66 – IP68 สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% และกันน้ำได้ดี โดย IP66 ป้องกันน้ำแรงดันสูง, IP67 ป้องกันน้ำเมื่อลงไปแช่ชั่วคราว และ IP68 ป้องกันน้ำในระดับแช่ลึกเป็นเวลานาน การเลือกข้อต่อที่เหมาะสม เช่น ข้อต่อกันน้ำแบบล็อคแน่น (Waterproof Connector) จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซีลและป้องกันสายไฟจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การติดตั้งที่ถูกต้องช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า

การเลือกใช้ ข้อต่อที่เหมาะสม มีผลต่อระดับการป้องกันน้ำและฝุ่นของท่อ Flexible PA โดยข้อต่อที่ได้มาตรฐาน IP66, IP67, หรือ IP68 จะช่วยป้องกันทั้งฝุ่นและน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่ชื้นหรือเปียก เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ภายนอกอาคาร ข้อต่อแบบเกลียว PG, NPT หรือ M-Type สามารถเพิ่มการป้องกันได้อย่างมั่นคงเมื่อใช้ร่วมกับท่อ โดยการขันข้อต่อให้แน่นและตรวจสอบการซีลอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการรั่วซึมและลดความเสี่ยงจากการเกิดความเสียหายของระบบไฟฟ้า การเลือกท่อและข้อต่อที่เหมาะสมช่วยให้การติดตั้งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย พร้อมเสริมความทนทานให้กับระบบไฟฟ้า

ท่อร้อยสายไฟ PA 1/2” 100 เมตร

สอบถาม(....) ฿   ราคาปกติ 2,950 ฿

หมวด สินค้าประจำหมวด

ท่อเฟล็กซ์อ่อน หรือ ท่ออ่อนร้อยสายไฟ PA/PE (Flexible Conduit) คือ ท่อพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องสายไฟหรือสายเคเบิลในงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ท่อ PA (Polyamide) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสี บีบอัด และสารเคมี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการท่อที่ทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีการเสียดสีหรือแรงกด ท่อ PE (Polyethylene) มีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งได้ง่าย

อธิบายสรุป Flexible Conduit PA (Polyamide) เป็นท่อเฟล็กซ์ที่ผลิตจากวัสดุ Polyamide (PA) ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นสูงและทนทานต่อแรงกระแทก การบีบอัด และการขูดขีด เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบเดินสายไฟและสายสื่อสารทั้งภายในและภายนอกอาคาร ท่อสามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงและรังสียูวี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง โดยมีการป้องกันฝุ่นและน้ำได้ในระดับ IP54 – IP68 ขึ้นอยู่กับข้อต่อที่ใช้ ติดตั้งง่ายและสามารถใช้ร่วมกับข้อต่อเกลียว PG, NPT, M-Type เพื่อให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงและป้องกันการรั่วซึม การเลือกขนาดและรัศมีการโค้งงอที่เหมาะสมช่วยให้การติดตั้งในพื้นที่จำกัดเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า

Scroll to Top