สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส M12

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส M12

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับตู้ไฟ, กล่องควบคุม, หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ โดยทำหน้าที่ยึดสายไฟให้อยู่กับที่ ป้องกันการดึง หลุด หรือการสั่นสะเทือนที่อาจทำให้สายเสียหาย วัสดุสแตนเลส เช่น สแตนเลส 304 หรือ 316 ให้ความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงดึง แรงกระแทก และทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ความชื้น หรือไอทะเล จึงเหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก งานกลางแจ้ง หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมรุนแรง

การเลือกเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส 304 หรือ 316

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส  304 หรือ 316 ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความรุนแรงของสารกัดกร่อน หากใช้งานทั่วไป 304 เพียงพอ แต่หากงานอยู่ใกล้ทะเล หรือสัมผัสสารเคมีรุนแรง 316 จะเหมาะกว่า การใช้วัสดุที่ถูกต้องช่วยเพิ่มความแข็งแรง ทนทาน และความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์อุตสาหกรรม ความทนต่อสารเคมีและไอทะเลสูงกว่า 304 ทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าในสภาพแวดล้อมรุนแรง ในขณะที่ 304 เหมาะสำหรับงานทั่วไปที่ไม่โดนคลอไรด์หรือสารกัดกร่อนแรงๆ

คุณสมบัติเด่นคือความทนทาน มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น

เคเบิ้ลแกลน รองรับมาตรฐาน IP68 ทำให้สามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% และทนน้ำได้ทั้งน้ำฝน น้ำฉีดแรงดัน หรือการจุ่มน้ำต่อเนื่อง ช่วยให้ติดตั้งได้ทั้งงานภายในและภายนอกอาคาร ซีล O-ring และ Lock Nut ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการซีลป้องกันน้ำและฝุ่น ทำให้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงสายไฟหลุด การรั่วซึมของน้ำ หรือการสึกกร่อนภายในตู้ไฟ การใช้งานในระบบอุตสาหกรรม Cable gland สแตนเลสทนทานต่อแรงดึงและการสั่นสะเทือน จึงเหมาะกับตู้ PLC, มอเตอร์, ระบบควบคุมอัตโนมัติ หรือระบบไฟฟ้าที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีการหยุดชะงัก

1. เกลียวแบบ Metric (M Thread)

  • เป็นเกลียวมาตรฐานสากล ใช้กันมากในยุโรปและเอเชีย
  • ขนาดนิยม: M12, M16, M20, M25, M32, M40, M50, M63
  • แต่ละขนาดรองรับช่วงสายไฟแตกต่างกัน เช่น M20 รองรับสาย 6–12 มม., M32 รองรับสายขนาดใหญ่กว่า
  • ใช้งานได้กับตู้ไฟหรืออุปกรณ์อุตสาหกรรมทั่วไป เหมาะสำหรับงานที่ต้องการติดตั้งมั่นคง

2. เกลียวแบบ PG (Panzer-Gewinde)

  • เป็นมาตรฐานของเยอรมัน ใช้บ่อยในงานเครื่องจักรและระบบควบคุม
  • ขนาดนิยม: PG7, PG9, PG11, PG13.5, PG16, PG21, PG29, PG36
  • ตัวอย่าง: PG13.5 เหมาะกับสายไฟขนาดเล็ก–กลาง ส่วน PG21 และ PG29 รองรับสายไฟขนาดใหญ่
  • ใช้งานได้กับตู้ไฟและเครื่องจักรเยอรมัน ทำงานร่วมกับสายไฟอุตสาหกรรมมาตรฐาน

ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด

cable gland กันน้ำ
แกลย
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนด์
Explosion Proof Cable Gland คือ

ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด

cable gland พลาสติก
โลหะเคเบิ้ลแกลน
เคเบิลแกลน
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนด์

วิธีเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสให้พอดีกับสายไฟ

สำคัญเพื่อให้สายไฟยึดแน่นและระบบไฟฟ้าปลอดภัย การเลือกขนาดไม่ถูกต้องอาจทำให้สายหลวม เสี่ยงต่อการหลุด หรือบีบรัดสายจนฉนวนเสียหาย พิจารณาเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟ ก่อนซื้อ Cable gland ควรวัดเส้นผ่านศูนย์กลางของสายรวมฉนวนและตัวนำ จากนั้นเลือกแกลนที่มี Clamping Range ครอบคลุมขนาดสายไฟนั้นพอดี เพื่อให้ซีลยางทำงานเต็มประสิทธิภาพ หากสายไฟต้องรับแรงดึงแรงสั่นสะเทือน ควรเลือกแกลนที่ขนาดพอดีไม่หลวม และตรวจสอบวัสดุสแตนเลส (304 หรือ 316) ให้เหมาะกับสภาพแวดล้อม เช่น ใกล้ทะเลหรือโรงงานเคมี

การใช้อุปกรณ์เสริมของเคเบิ้ลแกลนเพื่อความมั่นคงและปลอดภัย:

1. Lock Nut (น็อตล็อค)
Lock Nut เป็นน็อตที่ใช้ยึด Cable gland กับตู้ไฟหรือกล่องควบคุม ป้องกันไม่ให้แกลนคลายตัวเมื่อเกิดแรงสั่นสะเทือนหรือแรงดึงสายไฟ ช่วยให้การติดตั้งแน่นหนาและปลอดภัยมากขึ้น

2. O-ring (ซีลยาง)
O-ring เป็นซีลยางรูปวงแหวนที่ติดตั้งรอบเกลียวทำหน้าที่ป้องกันน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรกเข้าสู่ตู้ไฟหรือกล่องควบคุม ทำให้แกลนสามารถรองรับมาตรฐานกันน้ำ IP66–IP68

3. Claw หรือ Gripper (กรงยึดสาย)
Claw ทำหน้าที่ยึดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลไม่ให้เคลื่อนตัวหรือหลุด เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมและเครื่องจักรที่ต้องรับแรงสั่นสะเทือนสูง ช่วยลดความเสียหายต่อสายและฉนวน

4. Washer และ Sealing Ring (แหวนรองและแหวนซีล)
ใช้ร่วมกับ Lock Nut และ O-ring เพิ่มความมั่นคงและซีลกันน้ำ ช่วยกระจายแรงบีบ ลดความเสี่ยงสายไฟเสียหายจากแรงบีบตรงจุดเดียว

5. การใช้งานร่วมกัน
การติดตั้งอุปกรณ์เสริมทั้งหมดร่วมกัน เช่น Lock Nut + O-ring + Claw ทำให้ยึดสายไฟแน่นหนา ป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงสั่นสะเทือน ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพในทุกสภาพแวดล้อม

ความแตกต่างของวัสดุสแตนเลส 304 และ 316

การเลือกใช้วัสดุขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและความรุนแรงของงาน หากเป็นงานทั่วไป 304 เพียงพอ แต่หากต้องเผชิญสารกัดกร่อนหรือไอทะเล 316 จะเหมาะกว่า สแตนเลส 304 เหมาะกับงานทั่วไปภายในอาคารหรือพื้นที่ไม่รุนแรง มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการกัดกร่อนปานกลาง และรองรับแรงดึงและสั่นสะเทือนได้ดี แต่ไม่เหมาะกับสารเคมีรุนแรงหรือใกล้ทะเล สแตนเลส 316 เหมาะกับงานกลางแจ้ง งานใกล้ทะเล หรือโรงงานเคมี มีการเติม Molybdenum ทำให้ทนต่อคลอไรด์ กรดอ่อน และไอเคมีสูง ลดโอกาสเกิดสนิมและการกัดกร่อน

1. ส่วนประกอบทางเคมี

  • สแตนเลส 304 ประกอบด้วยโครเมียม 18% และนิกเกิล 8% เป็นวัสดุ Austenitic ทั่วไป
  • สแตนเลส 316 เพิ่ม Molybdenum 2–3% เข้าไป ทำให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากคลอไรด์และสารเคมีสูงกว่า 304

2. ความต้านทานการกัดกร่อน

  • 304 ทนต่อการกัดกร่อนทั่วไป เช่น น้ำฝนและสารเคมีอ่อน แต่ไม่เหมาะกับงานใกล้ทะเลหรือสารเคมีรุนแรง
  • 316 ทนต่อคลอไรด์ กรดอ่อน และไอทะเล จึงเหมาะกับงานกลางแจ้ง งานทะเล หรือโรงงานเคมี

3. การใช้งานกลางแจ้งและสภาพแวดล้อมรุนแรง

  • 304 ใช้งานได้ดีในภายในอาคารหรือพื้นที่ไม่รุนแรง
  • 316 เหมาะกับสภาพแวดล้อมรุนแรง เช่น ใกล้ทะเล โรงงานเคมี และงานอุตสาหกรรมหนัก

4. ความแข็งแรงและทนต่อแรงดึง

  • ทั้ง 304 และ 316 มีความแข็งแรงสูง สามารถรับแรงดึงและแรงสั่นสะเทือนได้ดี แต่ 316 จะมีความทนทานต่อการกัดกร่อนร่วมกับแรงดึงได้ดีกว่าในสภาพแวดล้อมรุนแรง

5. การรองรับมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น

  • ทั้งสองสามารถใช้ร่วมกับซีล O-ring และ Lock Nut เพื่อให้รองรับ IP66, IP67 หรือ IP68 แต่ 316 เหมาะกับงานที่ต้องทนน้ำและสารเคมีรุนแรงต่อเนื่อง

6. สรุปการเลือกใช้งาน

  • เลือก 304 สำหรับงานทั่วไปภายในอาคารและพื้นที่ไม่รุนแรง
  • เลือก 316 สำหรับงานใกล้ทะเล โรงงานเคมี หรืองานกลางแจ้งที่ต้องการความทนทานต่อสนิมและสารกัดกร่อนสูง

สรุปการใช้งานและการบำรุงรักษา

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส M12 เป็นอุปกรณ์สำหรับยึดและซีลสายไฟหรือสายเคเบิ้ลเข้าสู่ตู้ไฟหรือกล่องควบคุม ขนาด M12 เหมาะกับสายไฟขนาดเล็กถึงกลาง (ประมาณ 3–6 มม.) ทำให้สายไฟยึดแน่น ป้องกันการหลุดหรือเสียหาย วัสดุสแตนเลส 304 หรือ 316 ทำให้ทนทานต่อแรงดึง แรงสั่นสะเทือน และการกัดกร่อน โดยเฉพาะ 316 เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือใกล้ทะเล Cable gland M12 สามารถใช้งานร่วมกับ O-ring และ Lock Nut เพื่อให้รองรับมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำ ฝุ่น และสิ่งสกปรก

Cable gland stainless M12 ใช้งานง่าย ติดตั้งเร็ว เหมาะสำหรับระบบไฟฟ้า งานอุตสาหกรรมเบา เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการการยึดสายมั่นคงและปลอดภัย