ตู้ไฟกันน้ำ ตู้คอลโทรลสแตนเลส
ราคาสั่งทำ
ตู้ไฟกันน้ำ และ ตู้คอลโทรลสแตนเลส ที่สั่งทำ คือ ตู้ที่ผลิตตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยสามารถปรับแต่งขนาด, วัสดุ, และคุณสมบัติเฉพาะต่าง ๆ ตามความต้องการของการใช้งาน เช่น การเลือกวัสดุสแตนเลสเกรดสูง เช่น 304 หรือ 316L เพื่อความทนทาน หรือการออกแบบให้มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP55-IP66 ราคาของการสั่งทำตู้ประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาด ของตู้ วัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลสเกรดสูง ฟังก์ชันพิเศษ เช่น การระบายความร้อน, การติดตั้งซีลกันน้ำ
"ตู้ไฟกันน้ำ ตู้คอลโทรลสแตนเลส ราคาสั่งทำ"
จำนวนที่สั่งทำตู้สแตนเลสช่วยลดราคาต่อชิ้นได้ในกรณีสั่งทำจำนวนมาก
ตู้คอลโทรลสแตนเลส ที่สั่งทำจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาด, การออกแบบ, วัสดุที่ใช้ (เช่น สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L), และฟังก์ชันพิเศษที่ต้องการ เช่น การติดตั้งระบบระบายความร้อนหรือการใช้ซีลยางกันน้ำเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่น โดยทั่วไป ราคาจะเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาท สำหรับตู้ขนาดเล็กหรือมาตรฐาน และสามารถสูงขึ้นไปถึง 20,000 – 50,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและขนาดของการสั่งทำ การสั่งทำในปริมาณมากมักจะช่วยลดราคาต่อชิ้นได้ และสามารถขอใบเสนอราคาเพื่อเปรียบเทียบจากผู้ผลิตหลายๆ แห่ง รวมถึงการเลือกบริการติดตั้งและการรับประกันเพื่อให้มั่นใจในคุณภาพและการใช้งานที่ยาวนาน
การเลือกตู้ไฟกันน้ำที่สั่งเลือกฟังก์ชันเพิ่มเติม
การติดตั้งระบบป้องกันการกัดกร่อนเพิ่มเติมหรือการใช้วัสดุสแตนเลสเกรดสูงเพื่อความทนทานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง หรือการออกแบบให้รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดหรือความซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า นอกจากนี้ยังมีบริการติดตั้งให้กับโครงการต่าง ๆ เช่น ระบบไฟฟ้าในโรงงาน, ระบบควบคุมการทำงานในพื้นที่กลางแจ้ง, และการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในสถานที่ที่มีความชื้นหรือฝุ่นสูง โดยราคาจะขึ้นอยู่กับความซับซ้อนและจำนวนการสั่งทำ
สามารถปรับแต่งตามความต้องการเฉพาะ เช่น การเพิ่มอุปกรณ์เสริม เช่น ระบบระบายความร้อนหรือการใช้วัสดุพิเศษที่ทนทานต่อสารเคมีหรือการกัดกร่อน การสั่งทำในจำนวนมากสามารถช่วยลดราคาต่อชิ้นได้ การใช้งานตู้ประเภทนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องป้องกันฝุ่น น้ำ หรือสารเคมีจากการสัมผัสกับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน โดยมักใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม, โครงการก่อสร้าง, หรือสถานที่ที่ต้องการการป้องกันจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การบริการติดตั้งและการรับประกันคุณภาพจากผู้ผลิตจะช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระยะยาว
Features of IP55-IP66 Waterproof
- วัสดุทนทาน: ตู้สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสภาพอากาศที่รุนแรง เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม, โครงการกลางแจ้ง หรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากฝุ่นและความชื้น
- การป้องกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP55-IP66 ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าไปในตู้ ช่วยรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในให้ปลอดภัย
- ระบบระบายความร้อน: ตู้บางรุ่นออกแบบให้มีระบบระบายความร้อนเพื่อลดอุณหภูมิภายในตู้ ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดความร้อนสะสม
- การออกแบบปรับแต่งได้: สามารถสั่งทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละโครงการ เช่น ขนาดที่ต้องการ ช่องสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ระบบระบายความร้อน เป็นต้น
- ซีลกันน้ำ: ใช้ซีลยางกันน้ำรอบประตูเพื่อป้องกันความชื้นและฝุ่น
- ขนาดเล็ก (มาตรฐาน): ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
- ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่: ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้คอลโทรลสแตนเลส ราคาขนาดเล็กและขนาดใหญ่ต่างกันอย่างไร
ตู้ไฟกันน้ำขนาดเล็กมักมีราคาถูกกว่า เนื่องจากใช้วัสดุน้อยกว่าและสามารถผลิตได้เร็วกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่ต้องการพื้นที่มาก เช่น การติดตั้งในพื้นที่ที่จำกัดหรือใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ส่วนตู้สแตนเลสขนาดใหญ่มีราคาสูงขึ้นเนื่องจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น, ใช้วัสดุมากขึ้น และต้องการการออกแบบที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การติดตั้งระบบระบายความร้อนหรือการเสริมคุณสมบัติกันสารเคมีและการกัดกร่อน ตู้ขนาดใหญ่จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่ต้องการการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง
การวัดขนาดของตู้ไฟฟสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
การใช้งานตู้คอลโทรลสแตนเลสขนาดเล็ก
ตู้ไฟกันน้ำสแตนเลสเเหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่ เช่น ห้องควบคุมขนาดเล็ก หรือระบบไฟฟ้าที่มีอุปกรณ์น้อย ไม่ต้องการฟังก์ชันพิเศษมากนัก ขณะที่ตู้ขนาดใหญ่มีการออกแบบที่สามารถรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชิ้น หรือระบบควบคุมที่ซับซ้อนกว่า เช่น การติดตั้งระบบระบายความร้อน, การป้องกันการสั่นสะเทือน หรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรงมากขึ้น เช่น โรงงานหรือพื้นที่กลางแจ้งที่ต้องการความทนทานสูง
ตารางสรุปการใช้งานและคุณสมบัติของตู้ไฟกันน้ำสแตนเลส
การกำหนดขนาดและราคาตู้คอลโทรลสแตนเลส
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
การรใช้งานตู้สแตนเลสขนาดเล็ก:
- สถานที่ใช้: ตู้ไฟกันน้ำสแตนเลสขนาดเล็กเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด เช่น ห้องควบคุมไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือในเครื่องจักรอุตสาหกรรมที่ต้องการพื้นที่เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก
- การติดตั้ง: ตู้ประเภทนี้สามารถติดตั้งได้ง่ายในพื้นที่จำกัด เช่น ผนังหรือพื้นที่วางของในโรงงาน หรือการติดตั้งบนพื้นผิวที่ไม่ต้องการพื้นที่มาก
- การใช้งาน: ใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น สวิตช์, ปั๊ม, ตัวควบคุมเบื้องต้น หรืออุปกรณ์สื่อสารขนาดเล็ก โดยที่อุปกรณ์เหล่านี้อาจต้องการการป้องกันจากน้ำและฝุ่นในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นละออง
- ความทนทาน: การใช้วัสดุสแตนเลสเกรดสูง เช่น 304 หรือ 316L ทำให้ตู้สามารถทนต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพจากสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับสารเคมีหรือสภาพอากาศที่รุนแรง
- การป้องกันน้ำและฝุ่น: ตู้ไฟสแตนเลสขนาดเล็กมักมีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นเช่น IP55-IP66 ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นเข้าไปภายในตู้จากภายนอก
- การบำรุงรักษา: ตู้ขนาดเล็กมักมีการบำรุงรักษาน้อย เนื่องจากการติดตั้งและการใช้งานง่าย ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่ไม่ต้องการการดูแลซับซ้อน
การใช้งานตู้สแตนเลสขนาดใหญ่:
- สถานที่ใช้: เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม, ระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่, โครงการก่อสร้างที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายชนิด หรือในพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น พื้นที่ที่มีการกระแทก, ความชื้นสูง หรือสารเคมี
- การติดตั้ง: เนื่องจากมีขนาดใหญ่ การติดตั้งต้องใช้พื้นที่มากขึ้น และมักจะต้องติดตั้งบนฐานหรือติดตั้งที่ผนัง เพื่อรองรับน้ำหนักและขนาดของตู้
- การใช้งาน: ตู้ประเภทนี้ใช้สำหรับเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่หรือซับซ้อน เช่น ระบบควบคุมไฟฟ้า, ตัวควบคุมการผลิตในโรงงาน, หรือการติดตั้งระบบระบายความร้อนภายในตู้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความร้อนสะสม
- การป้องกันการกัดกร่อน: เนื่องจากตู้ไฟขนาดใหญ่มักใช้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงมากขึ้น เช่น โรงงานที่มีสารเคมี หรือสถานที่กลางแจ้งที่มีการสัมผัสกับฝนหรือแดด การใช้วัสดุสแตนเลสเกรดสูง เช่น 316L จะช่วยให้ตู้มีความทนทานสูงขึ้น
- การป้องกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นที่สูงกว่า เช่น IP66 หรือ IP67 จะช่วยให้การป้องกันน้ำและฝุ่นมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการปนเปื้อนจากน้ำหรือฝุ่น
- การบำรุงรักษา: ตู้สแตนเลสขนาดใหญ่มักจะต้องการการบำรุงรักษามากขึ้น เช่น การตรวจสอบระบบระบายความร้อนหรือการทำความสะอาดภายในตู้เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นหรือสารเคมี
ตารางสรุปการใช้งานและคุณสมบัติของตู้ไฟกันน้ำสแตนเลส
| คุณสมบัติ | ตู้สแตนเลสขนาดเล็ก | ตู้สแตนเลสขนาดใหญ่ |
|---|---|---|
| สถานที่ใช้ | ห้องควบคุมไฟฟ้าขนาดเล็ก, พื้นที่จำกัด, เครื่องจักรขนาดเล็ก | โรงงานอุตสาหกรรม, โครงการก่อสร้าง, พื้นที่ที่มีความรุนแรง |
| การติดตั้ง | ติดตั้งง่ายในพื้นที่จำกัด, ติดตั้งบนผนังหรือพื้นผิวที่แคบ | ต้องการพื้นที่มากขึ้น, ติดตั้งบนฐานหรือที่ผนังเพื่อรองรับน้ำหนัก |
| การใช้งาน | ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น สวิตช์, ปั๊มไฟฟ้า, ตัวควบคุมเบื้องต้น | ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือซับซ้อน เช่น ระบบควบคุมไฟฟ้า, ระบบระบายความร้อน |
| ความทนทาน | วัสดุสแตนเลสเกรดสูง เช่น 304 หรือ 316L ทนต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ | วัสดุสแตนเลสเกรดสูง เช่น 316L ทนทานต่อสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง |
| การป้องกันน้ำและฝุ่น | มาตรฐาน IP55-IP66 ป้องกันน้ำและฝุ่นจากภายนอก | มาตรฐาน IP66 หรือ IP67 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดีกว่า |
| การบำรุงรักษา | การบำรุงรักษาน้อย, ตรวจสอบง่าย | การบำรุงรักษามากขึ้น, ตรวจสอบระบบระบายความร้อนและทำความสะอาดภายใน |
การกำหนดขนาดและราคาตู้คอลโทรลสแตนเลส
การกำหนดขนาดและราคา ตู้คอลโทรลสแตนเลส ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดที่ต้องการ, คุณสมบัติพิเศษ (กันน้ำ, กันฝุ่น, กันสารเคมี), และวัสดุที่ใช้ในการผลิต (เช่น สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L) รวมถึงการปรับแต่งต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า
- ตู้ขนาดเล็ก: มีราคาประมาณ 2,000 – 5,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาด, คุณสมบัติพิเศษ, และการปรับแต่งที่ลูกค้าต้องการ เช่น การเลือกวัสดุสแตนเลสเกรด 316L หรือการปรับรูปร่างตามความต้องการเฉพาะ
- ตู้ขนาดใหญ่: ราคามักสูงกว่า เนื่องจากขนาดใหญ่และวัสดุที่ใช้มากขึ้น รวมถึงการติดตั้งระบบระบายความร้อนหรือฟังก์ชันพิเศษที่เพิ่มขึ้นในบางกรณี ราคาตู้ขนาดใหญ่สามารถอยู่ในช่วง 10,000 – 25,000 บาท หรือมากกว่านั้นสำหรับการปรับแต่งพิเศษ
หมายเหตุ: ราคาสามารถแตกต่างกันไปตามการปรับแต่ง, จำนวนการสั่งซื้อ, และผู้ผลิตแต่ละราย ควรสอบถามราคาจากผู้จำหน่ายหรือผู้ผลิตโดยตรงเพื่อข้อมูลที่แม่นยำที่สุด.
การคำนวณราคาและต้นทุนการสั่งทำตู้คอลโทรลสแตนเลส
การคำนวณราคาและต้นทุนการสั่งทำ ตู้สแตนเลส ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ขนาดของตู้, วัสดุที่ใช้, และการปรับแต่งที่ต้องการ สำหรับตู้ขนาดเล็ก ราคาจะเริ่มต้นจากประมาณ 2,000 – 5,000 บาท ขณะที่ตู้ขนาดใหญ่หรือที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น มาตรฐาน IP66 อาจมีราคาสูงถึง 10,000 – 25,000 บาท การคำนวณราคาจะรวมค่าแรง, ค่าวัสดุ, และค่าใช้จ่ายในการขนส่ง โดยราคาจะปรับตามการเลือกวัสดุเกรดสแตนเลสและฟังก์ชันพิเศษต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา เช่น การติดตั้งระบบระบายความร้อนหรือการออกแบบพิเศษตามความต้องการของลูกค้า ต้นทุนการสั่งทำตู้สแตนเลสยังต้องพิจารณาถึงปริมาณการสั่งซื้อด้วย หากสั่งจำนวนมากอาจมีส่วนลดพิเศษ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนต่อชิ้นลงได้ ในกรณีที่มีการปรับแต่งตามคำขอเฉพาะ เช่น การใช้สแตนเลสเกรด 316L หรือการติดตั้งฟังก์ชันเสริม เช่น ซีลยางกันน้ำ หรือระบบระบายอากาศเพิ่มเติม ราคาจะสูงขึ้นตามคุณสมบัติที่เพิ่มเข้ามา ควรสอบถามกับผู้ผลิตเพื่อขอใบเสนอราคาที่ชัดเจนและเหมาะสมกับความต้องการของโครงการ
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
การสั่งผลิตตู้ไฟกันน้ำสแตนเลส ตามขนาดและอุปกรณ์เสริม เป็นกระบวนการที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละลูกค้า โดยสามารถปรับรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ขนาดของตู้, วัสดุที่ใช้, และฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ต้องการ ดังนี้:
การเลือกขนาดของตู้:ลูกค้าสามารถระบุขนาดที่ต้องการสำหรับตู้ เช่น ความสูง, ความกว้าง, และความลึก เพื่อให้ตรงกับพื้นที่และการใช้งานขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายในอนาคต
วัสดุที่ใช้ในการผลิต:สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมตามความต้องการของสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลส สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการทนทานต่อการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็กเคลือบสี หรือ อลูมิเนียม ก็สามารถใช้ได้ตามความเหมาะสม
อุปกรณ์เสริม:
- ระบบระบายอากาศ: สามารถเพิ่มช่องระบายอากาศ(ตีบานเกล็ด)หรือติดตั้งพัดลมระบายความร้อนในตู้เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
- การออกแบบหลังคาเชื่อมและหลังคาสโลป สามารถทำได้ตามความต้องการของการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการใช้งาน ซึ่งทั้งสองประเภทมีลักษณะการออกแบบที่แตกต่างกัน
เจะารเจาะรูเข้าสายไฟการเจาะรูในตู้ไฟฟ้าช่วยให้สามารถเชื่อมต่อสายไฟจากภายนอกเข้าไปภายในตู้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป ตู้ไฟกันน้ำและตู้คอลโทรลสแตนเลส เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งและป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากน้ำและฝุ่นในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยง โดยทั่วไปตู้ประเภทนี้จะผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนและสภาพอากาศที่รุนแรง ตู้ไฟกันน้ำมีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP55-IP66 ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปียกหรือมีฝุ่นได้ดี การสั่งทำตู้สแตนเลสจะมีราคาที่แตกต่างกันตามขนาด, วัสดุ, และฟังก์ชันพิเศษที่ต้องการ โดยทั่วไปแล้วราคาเริ่มต้นสำหรับตู้ขนาดเล็กจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 – 5,000 บาท ส่วนตู้ขนาดใหญ่หรือที่มีการปรับแต่งพิเศษอาจมีราคาสูงถึง 10,000 – 25,000 บาท