ท่อลมหุ้มฉนวน 8 นิ้ว
ท่อลมหุ้มฉนวนขนาด 8 นิ้วที่ใช้ ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. ประกอบด้วยแกนท่อด้านใน (flexible core) ชั้นฉนวนใยแก้ว และแจ็คเก็ตภายนอกที่เป็นฟอยล์หรือฟิล์มลามิเนต ชั้นใยแก้ว 16K ให้ความหนาแน่นและความต้านทานความร้อนได้ดีเมื่อเทียบกับใยแก้วความหนาเท่าเดิม
โครงสร้างและสมรรถนะทางความร้อน
ท่อลมหุ้มฉนวนใยแก้ว ลดการถ่ายเทความร้อน/ความเย็นระหว่างอากาศภายในท่อกับสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดการควบแน่น (condensation) เมื่อส่งลมเย็นและยังมีผลดีต่อการประหยัดพลังงานของระบบ HVAC ชั้นแจ็คเก็ตฟอยล์มีคุณสมบัติเป็นอุปสรรคไอน้ำ (vapour barrier) และสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้ป้องกันการซึมของความชื้นได้ดี ขณะที่ฟิล์มลามิเนตมักจะให้ความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการขีดข่วนและมีน้ำหนักเบากว่า ทั้งสองแบบช่วยยืดอายุฉนวนและป้องกันการชำรุดของชั้นใยแก้วจากการถูกกระแทกหรือการเสียดสี
การติดตั้งการใช้งานท่อลมหุ้มฉนวน 8 นิ้ว
การติดตั้งต้องให้ความสำคัญกับการไม่บีบอัดฉนวน เพราะการอัดให้บางลงจะลดประสิทธิภาพทางความร้อน ควรยึด ท่อลมอลูมิเนียม ด้วยแคลมป์หรือแหวนรองตามระยะที่เหมาะสมและปิดผนึกรอยต่อด้วยเทปลามิเนตหรือมาสติกชนิดกันไอเพื่อให้เป็นอุปสรรคไอน้ำต่อเนื่อง ในพื้นที่ภายนอกหรือที่โดนแสงยูวีบ่อย ๆ ควรเลือกแจ็คเก็ตที่ทน UV หรือทำการหุ้มผิวเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเสื่อมของฟิล์ม การบำรุงรักษารวมถึงการตรวจรอยรั่ว รอยฉีกขาดของแจ็คเก็ต และการทำความสะอาดท่อเมื่อจำเป็น
- การกันความร้อนและรักษาอุณหภูมิ ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. ช่วยลดการสูญเสียความเย็นหรือความร้อนในระบบปรับอากาศ (HVAC) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ป้องกันการควบแน่นและความชื้น แจ็คเก็ตฟอยล์หรือฟิล์มลามิเนตทำหน้าที่เป็น Vapor Barrier ป้องกันการซึมของความชื้นเข้าสู่ชั้นฉนวน
- น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย ท่อมีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งได้ตามพื้นที่จำกัด ไม่ต้องใช้โครงสร้างซับซ้อน
- ลดเสียงรบกวน ชั้นใยแก้วมีคุณสมบัติซับเสียง ทำให้เสียงจากการไหลของอากาศภายในระบบลดล
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
ความเหมาะสมในการใช้งานท่อลมหุ้มฉนวน 8 นิ้ว
ท่อหุ้มฉนวนขนาด 8 นิ้วที่ใช้ ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่ต้องการ การควบคุมอุณหภูมิและลดการสูญเสียพลังงาน เช่น ระบบปรับอากาศในอาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม และห้างสรรพสินค้า ความหนา 25 มม. ให้ค่าการต้านทานความร้อน (R-Value) ที่สูง ทำให้ระบบทำความเย็นทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดภาระของเครื่องปรับอากาศ และช่วยลดค่าไฟฟ้าในระยะยาว นอกจากนี้ การเลือกใช้แจ็คเก็ตภายนอกเป็นฟอยล์หรือฟิล์มลามิเนตยังเพิ่มความคุ้มค่า เพราะช่วยป้องกันความชื้นจากภายนอก ทำให้ฉนวนคงประสิทธิภาพได้ยาวนานกว่าเดิม ลดความถี่ในการซ่อมบำรุงและเปลี่ยนท่อ
1. ระบบปรับอากาศ (HVAC) ในอาคาร
ใช้สำหรับส่งลมเย็นและลมร้อนในระบบปรับอากาศของอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และที่อยู่อาศัย เพื่อรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้สม่ำเสมอและลดการสูญเสียพลังงานระหว่างทางเดินลม
2. ระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม
เหมาะสำหรับการส่งลมหรือดูดอากาศร้อน/อากาศเสียออกจากพื้นที่การผลิต โดยฉนวนช่วยป้องกันการรั่วไหลของความร้อนและเสียงรบกวน ลดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและผู้ปฏิบัติงาน
3. ห้องคลีนรูมและห้องปฏิบัติการ
ช่วยควบคุมอุณหภูมิ ความชื้น และคุณภาพอากาศในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ห้องคลีนรูม (Cleanroom) ห้องวิจัย ห้องตรวจสอบคุณภาพ
4. ระบบส่งลมในครัวเชิงพาณิชย์และพื้นที่พิเศษ
เหมาะสำหรับร้านอาหาร โรงครัว และพื้นที่ที่มีการใช้งานลมร้อนหรือมีความชื้นสูง โดยแจ็คเก็ตฟอยล์หรือฟิล์มลามิเนตช่วยป้องกันการซึมของไอน้ำและเพิ่มความทนทานของท่อในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง
การเปรียบเทียบแจ็คเก็ตฟอยล์และฟิล์มลามิเนต
สำหรับท่อลมหุ้มฉนวน 8 นิ้ว แจ็คเก็ตภายนอก ถือเป็นส่วนสำคัญมาก เพราะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันชั้นฉนวนใยแก้วจากความชื้น การเสียดสี และรังสีความร้อน โดยทั่วไป แจ็คเก็ตฟอยล์ จะมีคุณสมบัติสะท้อนรังสีความร้อนได้ดีเยี่ยม กันไอและกันความชื้นได้สูง เหมาะกับงานที่อยู่ในสภาพแวดล้อมเสี่ยงต่อการควบแน่น เช่น พื้นที่เครื่องกล หรือท่อที่ติดตั้งกลางแจ้งบางส่วน แต่ความยืดหยุ่นอาจน้อยกว่าแบบฟิล์มลามิเนต ส่วน ฟิล์มลามิเนต จะมีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการฉีกขาดและการเสียดสีได้ดีกว่า น้ำหนักเบา ทำงานง่าย และมักดูสวยงามกว่า จึงนิยมใช้ในงานที่ต้องการความเรียบร้อยและติดตั้งในพื้นที่ภายในอาคาร
ลดการสูญเสียความเย็นและประหยัดพลังงาน ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. มีความหนาแน่นสูง ทำให้มีค่าการต้านทานความร้อน (Thermal Resistance) หรือ R-Value สูง ช่วยป้องกันไม่ให้ความเย็นรั่วไหลจากท่อเฟล็กซ์ไปสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ในระบบปรับอากาศทั่วไป ความร้อนที่รั่วไหลออกมาระหว่างการส่งลมเย็นอาจทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้นและกินไฟมากขึ้น การใช้ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. จะช่วยให้การส่งลมเย็นถึงปลายทางโดยสูญเสียพลังงานน้อยที่สุด ลดภาระการทำงานของเครื่องปรับอากาศ ทำให้ค่าไฟฟ้าลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโรงงานที่มีระบบปรับอากาศทำงานต่อเนื่องตลอดวัน
ป้องกันการควบแน่นและเพิ่มความทนทานระบบ นอกจากช่วยป้องกันการสูญเสียพลังงานแล้ว ฉนวนใยแก้วหนา 25 มม. ยังทำหน้าที่ ป้องกันการควบแน่น (Condensation) บนผิวท่อเมื่อส่งลมเย็นในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หากไม่มีฉนวนที่ดี อาจเกิดหยดน้ำเกาะตามผิวท่อและไหลลงพื้น ทำให้เกิดปัญหาความชื้นและเชื้อราได้ การใช้ฉนวนใยแก้วคุณภาพสูงช่วยให้ระบบปรับอากาศทำงานได้เสถียร ลดการซ่อมบำรุง และยืดอายุอุปกรณ์ เช่น คอยล์เย็น พัดลม และคอมเพรสเซอร์ เนื่องจากเครื่องปรับอากาศไม่ต้องทำงานหนักเกินไปเพื่อชดเชยความเย็นที่สูญเสียออกมา
สรุปการใช้งานและการบำรุงรักษา
ท่อลมหุ้มฉนวนขนาด 8 นิ้ว ใช้ ฉนวนใยแก้วเกรด 16K หนา 25 มม. ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความหนาแน่นสูงและมีค่าการต้านทานความร้อน (R-Value) ดี ทำให้ช่วยลดการสูญเสียความร้อนหรือความเย็นระหว่างการส่งลมในระบบปรับอากาศ ชั้นฉนวนนี้สามารถป้องกันการควบแน่นบนผิวท่อ ลดความชื้นและป้องกันเชื้อราได้อย่างมีประสิทธิภาพ แจ็คเก็ตภายนอกเป็นฟอยล์หรือฟิล์มลามิเนต ทำหน้าที่เป็น Vapor Barrier ป้องกันความชื้นซึมเข้าสู่ฉนวน ลดความเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพ และช่วยสะท้อนรังสีความร้อน ทำให้ระบบ HVAC ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ชั้นฉนวนใยแก้วยังมีคุณสมบัติ ซับเสียง ลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศ ทำให้เหมาะสำหรับอาคารสำนักงาน โรงแรม โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการควบคุมเสียงภายในอาคาร