เฟล็กอ่อนกันน้ำ
(PA : Polyamide)
เฟล็กอ่อนกันน้ำ (PA : Polyamide) เป็นท่อร้อยสายไฟที่มีความยืดหยุ่นสูงและสามารถป้องกันน้ำได้ดี ผลิตจาก Polyamide (PA6 หรือ PA12) ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อแรงดึง แรงกระแทก และการกัดกร่อนของสารเคมี นิยมใช้ในงานอุตสาหกรรม ระบบไฟฟ้า และยานยนต์ที่ต้องการการป้องกันสูง คุณสมบัติเด่นในด้าน ความทนทานต่อแรงกระแทก ความทนต่ออุณหภูมิ และความสามารถในการป้องกันสารเคมี ใช้ในงานอุตสาหกรรม รถยนต์ ระบบอัตโนมัติ และงานติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยสูง
"เฟล็กอ่อนกันน้ำ (PA : Polyamide)"
จำหน่ายท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PE / PA คุณภาพสูง
ปกป้องสายไฟของคุณด้วย ท่อร้อยสายไฟ PE และ PA ที่ออกแบบมาเพื่อความปลอดภัย ทนทาน และติดตั้งง่าย รองรับทุกการใช้งาน ทั้งในอุตสาหกรรมและงานติดตั้งทั่วไป
คุณสมบัติเด่นของท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ:
- PE (Polyethylene): ยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมี
✅ มีให้เลือก 2 แบบ: แบบมาตรฐาน (Closed) สำหรับป้องกันสายไฟสูงสุด แบบผ่ากลาง (Split) ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องถอดสายไฟ - PA (Polyamide): ทนความร้อนสูง แข็งแรง และทนต่อแรงกระแทก
- ✅ โค้งงอได้ดี ติดตั้งง่าย เหมาะกับพื้นที่จำกัด
✅ ป้องกันน้ำ ฝุ่น และแรงกระแทก ได้เป็นอย่างดี
✅ ได้รับมาตรฐาน CE
💡 เหมาะสำหรับ:
🔹 งานเดินสายไฟในอาคาร บ้านเรือน และโรงงานอุตสาหกรรม
🔹 ป้องกันสายไฟจากความเสียหาย เช่น การขัดสีและแรงบีบอัด ใช้ในระบบเครื่องจักร ระบบไฟฟ้า และงานติดตั้งภายในและนอกอาคาร
📦 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ ให้คำปรึกษาโดยผู้เชี่ยวชาญ 📞 ติดต่อเราได้เลย! 🚚
รายละเอียดสินค้าเฟล็กอ่อนกันน้ำ (PA : Polyamide)
เป็นท่อร้อยสายไฟที่เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรม ยานยนต์ และระบบไฟฟ้าที่ต้องการ ความยืดหยุ่นสูง ทนความร้อน ทนสารเคมี และป้องกันน้ำได้ดี สามารถใช้งานได้ทั้ง ในอาคารและกลางแจ้ง โดยช่วยป้องกันสายไฟจากความเสียหาย เพิ่มอายุการใช้งาน และเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบไฟฟ้า
✅ กันน้ำได้ดี : ป้องกันน้ำเข้า ปกป้องสายไฟจากความชื้น
✅ ทนทานต่ออุณหภูมิสูง : รองรับช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 120°C (บางรุ่นทนได้สูงถึง 150°C)
✅ ทนต่อรังสี UV : ใช้งานกลางแจ้งได้ ไม่เปราะแตกง่าย
✅ ทนต่อสารเคมี : ป้องกันน้ำมัน กรด ด่าง และสารเคมีทั่วไป
✅ ความยืดหยุ่นสูง : งอและโค้งงอได้โดยไม่เสียรูป
✅ มีให้เลือกหลายขนาด : รองรับข้อต่อ PG, NPT, M และสามารถใช้ร่วมกับข้อต่อพลาสติกหรือโลหะได้
การนำไปใช้งาน
🔹 ระบบร้อยสายไฟใน เครื่องจักรอุตสาหกรรม
🔹 ระบบไฟฟ้าใน ยานยนต์และระบบอัตโนมัติ
🔹 การเดินสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำ ความชื้น หรือสารเคมี
🔹 งานติดตั้งกลางแจ้งที่ต้องการ ความทนทานและความปลอดภัยสูง
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
เฟล็กอ่อนกันน้ำ (PA) เป็นฉนวนไฟฟ้า (Non-Conductive)
คุณสมบัติเป็น ฉนวนไฟฟ้า (Non-Conductive) ซึ่งหมายความว่า ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้ช่วยป้องกันไฟฟ้ารั่วและลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร ระบบไฟฟ้าที่ใช้เฟล็กอ่อน PA จึงมีความปลอดภัยสูงขึ้น โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรมที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง นอกจากนี้ วัสดุ PA ยังช่วยลดโอกาสที่กระแสไฟฟ้าจะรั่วไหลไปยังโครงสร้างโลหะหรือตัวเครื่องจักร ลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากไฟฟ้าช็อต การเลือกใช้เท่อฟล็กร้อยสายไฟจึงเหมาะสำหรับระบบไฟฟ้าที่ต้องการฉนวนที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความปลอดภัยในการเดินสายไฟ ยังสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วจากความชื้นหรือไอน้ำในอากาศ การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่มีโอกาสสัมผัสกับน้ำจึงมั่นใจได้ในเรื่องความปลอดภัย อีกทั้งโครงสร้างของท่อยังมีความแข็งแรง ไม่แตกหรือฉีกขาดง่าย ทำให้สามารถป้องกันสายไฟภายในจากแรงกระแทกหรือการเสียดสีได้ดี
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
ทนต่อรังสี UV เพราะ มีการผสมสารกัน UV (UV Stabilizer)
เฟล็กอ่อน PA (Polyamide) ไม่แตกหรือฉีกขาดง่าย เนื่องจากผลิตจากวัสดุ Polyamide 6 (PA6) หซึ่งมีคุณสมบัติ ทนต่อแรงกระแทก การเสียดสี และแรงกดทับได้ดี ทำให้ช่วยปกป้องสายไฟภายในจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งานทั้งยังมีคุณสมบัติ ทนต่อรังสี UV เพราะ มีการผสมสารกัน UV (UV Stabilizer) ในเนื้อวัสดุ ทำให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้นานโดยไม่เปราะหรือแตกง่ายจากการสัมผัสแสงแดดเป็นเวลานาน เหมาะสำหรับการเดินสายไฟในสภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับแสงแดดและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ช่วยลดผลกระทบจากรังสีอัลตราไวโอเลตที่ทำให้วัสดุเสื่อมสภาพเมื่อใช้งานกลางแจ้งเป็นเวลานาน โดยสารนี้ช่วยป้องกันการแตก เปราะ หรือเปลี่ยนสีของท่อเมื่อสัมผัสกับแสงแดดและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น อุณหภูมิสูง ความชื้น และฝนกรด
เฟล็กอ่อนกันน้ำ PA สามารถโค้งงอได้ง่ายและไม่เสียรูปทรง
การใช้งานร่วมกับข้อต่อสวมเร็วและข้อต่อกันน้ำ
ใช้ร่วมกับข้อต่อกันน้ำที่มีมาตรฐาน IP655หรือ IP68 จะช่วยเพิ่มการป้องกัน
ตัวอย่างการใช้งานใน งานยานยนต์ และ เครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหว:
ทุกตัวอย่างนี้ต้องการท่อที่มีความ ยืดหยุ่นสูง และ ทนทานต่อการเคลื่อนไหว ซึ่งเฟล็กอ่อน PA สามารถตอบสนองได้ดีในสภาพแวดล้อมเหล่านี้
- การเดินสายไฟในรถยนต์ – ใช้ในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนที่ เช่น ใต้ฝากระโปรง หรือ ภายในห้องเครื่อง เพื่อปกป้องสายไฟจากการบิดงอหรือการสัมผัสกับความร้อนจากเครื่องยนต์
- ระบบไฟฟ้าของหุ่นยนต์ (Robotics) – ในการใช้งานหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่มีการเคลื่อนไหวและต้องการท่อที่สามารถโค้งงอได้ง่ายและคืนตัวได้ดี
- เครื่องจักรในโรงงานที่มีการเคลื่อนไหว – เช่น แขนหุ่นยนต์ (Robotic Arms) หรือ สายพานลำเลียง ที่ต้องมีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน ซึ่งต้องใช้ท่อที่มีความยืดหยุ่นและทนทาน
-
- ระบบไฟฟ้าในยานพาหนะทางการเกษตร – เช่น รถแทรกเตอร์ หรือ รถเก็บเกี่ยว ที่ต้องการท่อที่มีความทนทานและสามารถโค้งงอไปตามลักษณะการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร
- เครื่องจักรการผลิตที่มีการเคลื่อนไหวหลายทิศทาง – เช่น เครื่องจักร CNC หรือ เครื่องจักรการพิมพ์ 3D ที่ต้องการท่อที่สามารถเคลื่อนที่ไปในหลายทิศทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ระบบไฟฟ้าในยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles – EV) – เช่น ระบบการชาร์จไฟ หรือ ระบบควบคุมที่มีการเคลื่อนไหว ที่ต้องการท่อที่ทนต่อแรงกระแทกและการเคลื่อนไหวได้ดี
- เครื่องจักรที่ใช้ในอุตสาหกรรมการก่อสร้าง – เช่น เครื่องจักรบดอัดดิน หรือ ปั๊มการขุดเจาะ ซึ่งต้องการท่อที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อการกระแทกและการเคลื่อนไหวในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนและแรงกดทับอย่างต่อเนื่อง
เฟล็กอ่อนกันน้ำ PA สามารถโค้งงอได้ง่ายและไม่เสียรูปทรง
การใช้งานร่วมกับข้อต่อสวมเร็ว (Quick Connect) และข้อต่อกันน้ำ ช่วยเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในระบบเดินสายไฟที่ใช้ ท่อเฟล็กอ่อน PA (Polyamide) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อต่อสวมเร็วช่วยให้การเชื่อมต่อท่อและสายไฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว ลดเวลาในการติดตั้งและการบำรุงรักษา ในขณะที่ข้อต่อกันน้ำที่มีมาตรฐาน IP65, IP67 หรือ IP68 เพิ่มการป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสูงสุด ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นมาก เช่น งานอุตสาหกรรมกลางแจ้ง หรือ งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือฝุ่น
การใช้ ข้อต่อสวมเร็ว ร่วมกับ เฟล็กอ่อน PA ยังช่วยให้การติดตั้งระบบไฟฟ้าง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องมือพิเศษ อีกทั้งช่วย ป้องกันการรั่วของน้ำ และ ความชื้น ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อสายไฟภายใน ทั้งนี้การเลือกใช้ข้อต่อที่มีมาตรฐานกันน้ำยังช่วยเสริมความปลอดภัยในงานที่มีการใช้งานไฟฟ้าในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสกับน้ำหรือความชื้น
การใช้ ข้อต่อกันน้ำ ช่วยเสริมความมั่นใจในด้านการป้องกันน้ำและฝุ่นจากการบุกรุกเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานใน พื้นที่กลางแจ้ง หรือ พื้นที่ที่ต้องเผชิญกับความชื้นสูง เช่น สถานีไฟฟ้าโรงงาน หรือ ระบบไฟฟ้าของเครื่องจักรที่ติดตั้งในบริเวณที่มีน้ำ การเลือกใช้ข้อต่อที่ได้มาตรฐาน IP67 หรือ IP68 ยังช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีอายุการใช้งานยาวนานและ ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร ที่อาจเกิดจากน้ำหรือฝุ่นที่เข้าไปในระบบ
การผสมผสานระหว่าง เฟล็กอ่อน PA, ข้อต่อสวมเร็ว, และ ข้อต่อกันน้ำ จึงทำให้ระบบไฟฟ้ามีความ ปลอดภัย และ มีความทนทานสูง ในสภาพแวดล้อมที่มีความเคลื่อนไหวสูง หรือที่มีการสัมผัสกับสารเคมีหรือความชื้น
การใช้งานร่วมกับข้อต่อสวมเร็วและข้อต่อกันน้ำ
ท่อร้อยสายไฟ PE แบบมาตรฐานมีความคุ้มค่าด้วยราคาที่ประหยัดและการใช้งานที่เหมาะสมในงานที่ไม่ต้องการการเปิด-ปิดท่อบ่อยครั้ง เช่น งานติดตั้งสายไฟที่ไม่ต้องซ่อมแซมหรือปรับเปลี่ยนบ่อย ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าสำหรับการใช้งานที่ยาวนาน ท่อแบบผ่า, ถึงแม้จะมีราคาสูงกว่า แต่ให้ความสะดวกในการเปิด-ปิดท่อ เพื่อการบำรุงรักษาและการเปลี่ยนแปลงสายไฟโดยไม่ต้องถอดท่อออกจากระบบ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการเข้าถึงและปรับปรุงสายไฟบ่อย ๆ จึงสามารถมองว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวสำหรับสถานที่ที่ต้องการการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่อง
การเลือกใช้ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PE แบบมาตรฐานหรือแบบผ่าขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและงบประมาณ หากการใช้งานไม่ต้องการการบำรุงรักษาหรือปรับเปลี่ยนสายไฟบ่อย ๆ ท่อแบบมาตรฐานจะเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในแง่ของต้นทุน ในขณะที่ท่อแบบผ่ามีความคุ้มค่ามากกว่าในกรณีที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงและสะดวกในการดูแลรักษา
ช่น การติดตั้งในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงสายไฟอยู่เสมอ หรือการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการการเข้าถึงได้ง่าย ท่อแบบผ่าจะช่วยลดเวลาที่ใช้ในการบำรุงรักษาและปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้
เฟล็กอ่อนกันน้ำ PA (Polyamide) เป็นวัสดุ Non-Conductive
Non-Conductive หรือ ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถนำไฟฟ้าได้ ทำให้ช่วยลดความเสี่ยงจาก ไฟฟ้าลัดวงจร และป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้ารั่วไหลไปยังส่วนที่ไม่ต้องการ การใช้ในระบบไฟฟ้าจึงช่วยเพิ่ม ความปลอดภัย ให้กับทั้ง เครื่องจักร และ บุคลากร ที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีการใช้งานไฟฟ้า การเลือกใช้ท่อที่มีคุณสมบัติ Non-Conductive เป็นการป้องกันที่สำคัญ เนื่องจากมันช่วยลดโอกาสที่ไฟฟ้าจะสัมผัสกับโครงสร้างโลหะหรือวัสดุอื่น ๆ ซึ่งอาจทำให้เกิด ไฟฟ้าช็อต หรือ ไฟฟ้ารั่ว ที่อาจนำไปสู่ความเสียหายหรืออุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของ สายไฟ และ อุปกรณ์ไฟฟ้า โดยการลดความเสี่ยงจากการกัดกร่อนหรือการทำลายที่เกิดจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร
ใช้ร่วมกับข้อต่อกันน้ำที่มีมาตรฐาน IP655หรือ IP68 จะช่วยเพิ่มการป้องกัน
การใช้ เฟล็กอ่อน PA ร่วมกับ ข้อต่อกันน้ำที่มีมาตรฐาน IP65, IP67 หรือ IP68 จะช่วยเพิ่มการป้องกันน้ำ ฝุ่น และความชื้นให้กับระบบเดินสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อต่อที่มีมาตรฐาน IP65 สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำกระเด็นจากทุกทิศทางได้ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมทั่วไป รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำและฝุ่นมากเป็นพิเศษ เช่น ระบบไฟฟ้าใต้ดิน งานติดตั้งกลางแจ้ง หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับน้ำอย่างต่อเนื่อง การเลือกใช้ข้อต่อที่เหมาะสมจะช่วยเสริมความปลอดภัยให้กับระบบไฟฟ้าและช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟภายในท่อเฟล็กร้อยสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือก ข้อต่อกันน้ำ ให้เหมาะสม ควรพิจารณา วัสดุและโครงสร้างของข้อต่อ เช่น ข้อต่อ พลาสติก (Nylon PA66) ที่มีน้ำหนักเบา ทนต่อสารเคมี และเหมาะสำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป หรือข้อต่อ โลหะ (Nickel Brass หรือ Stainless Steel) ที่ให้ความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงกดและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก การใช้ โอริงซีล (O-ring Seal) และเกลียวล็อก (Thread Locking) ที่ได้มาตรฐานจะช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าไปในจุดเชื่อมต่อระหว่างท่อและข้อต่อได้ดีขึ้น การติดตั้งที่แน่นหนาและใช้ ข้อต่อที่ตรงกับขนาดของท่อเฟล็กร้อยสายไฟ PA จะช่วยให้ระบบเดินสายไฟมีความปลอดภัย ลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจร และเพิ่มอายุการใช้งานของสายไฟในระยะยาว
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA/PE (Flexible Conduit) คือ ท่อพลาสติกที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องสายไฟหรือสายเคเบิลในงานต่าง ๆ โดยเฉพาะในงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง ท่อ PA (Polyamide) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการเสียดสี บีบอัด และสารเคมี เหมาะสำหรับงานที่ต้องการท่อที่ทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีการเสียดสีหรือแรงกด ท่อ PE (Polyethylene) มีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งได้ง่าย
อธิบายสรุป เฟล็กอ่อนกันน้ำ (PA: Polyamide) เป็นท่อที่ทำจากวัสดุ Polyamide (PA) ซึ่งมีคุณสมบัติพิเศษในการ ทนต่อการซึมผ่านของน้ำและความชื้น เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีน้ำ การออกแบบที่มีความยืดหยุ่นสูงช่วยให้สามารถ โค้งงอได้ง่าย โดยไม่แตกหักหรือเสียรูปทรงง่าย ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความคล่องตัวสูง เช่น การเดินสายไฟในพื้นที่แคบหรือมีการเคลื่อนที่