ราคาตู้สแตนเลส ขนาด 350x450x150
ราคาตู้สแตนเลส ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยหลัก ๆ คือ ความหนา ขนาด และวัสดุ/เกรดของสแตนเลส นอกจากนี้ยังมีปัจจัยอื่นที่มีผลต่อราคา ปัจจัย เช่น ขนาด รูปทรง ความหนาของแผ่นสแตนเลส เกรดของสแตนเลส การออกแบบ ฟังก์ชันเพิ่มเติม และปริมาณการสั่งซื้อ การพิจารณาปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเลือกตู้คอนโทรลสแตนเลสที่ตรงกับความต้องการและงบประมาณของคุณได้อย่างเหมาะสม
หมวดหมู่สินค้า
ขนาดและรูปทรงของราคาตู้สแตนเลส 350x450x150
ตู้สแตนเลส ขนาดภายนอก: ขนาดของตู้มีผลโดยตรงต่อปริมาณวัสดุที่ใช้และราคาผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ขนาด 350x450x150 มม. จะมีราคาต่างจากขนาดอื่น ๆ เช่น 280x350x150 ซม. หรือ 450x600x200 ซม. เนื่องจากปริมาณวัสดุที่ใช้และกระบวนการผลิตที่แตกต่างกัน รูปทรง ตู้ที่มีรูปทรงพิเศษ เช่น ตู้ที่มีหลังคา ฝา 2 ชั้น หรือหน้ากระจก จะมีราคาสูงกว่าตู้ที่มีรูปทรงมาตรฐาน เนื่องจากความซับซ้อนในการออกแบบและการผลิต
ความหนาของแผ่นสแตนเลส
ความหนาของแผ่นสแตนเลสเป็นปัจจัยสำคัญที่กำหนด ความแข็งแรง ความทนทาน การป้องกันน้ำและฝุ่น และราคาของตู้สแตนเลส แผ่นบาง เช่น 1.0–1.2 มม. เหมาะกับงานเบา น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย แต่มีความเสี่ยงต่อการบุบหรือโค้งงอ แผ่นหนา เช่น 1.5–2.0 มม. แข็งแรง ทนทาน รองรับอุปกรณ์หนักได้ดี และป้องกันน้ำ–ฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น แต่ราคาสูงกว่า
การเลือกความหนาที่เหมาะสม ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน:
- งานทั่วไปและภายในอาคาร → 1.5 มม.
- งานอุตสาหกรรม กลางแจ้ง หรือใกล้ทะเล → 1.5-2 มม. ขึ้นไป
ความหนาของแผ่นสแตนเลสหมายถึง ความหนาในแนวตั้งฉากของแผ่นโลหะ วัดเป็นมิลลิเมตร เช่น 1.0 มม., 1.2 มม., 2.0 มม., 3.0 มม. เป็นต้น
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
ตัวอย่างผลงาน - ส่งมอบตูู้ไฟฟ้ากรุงเทพ และต่างจังหวัด
การออกแบบโครงสร้างตู้สแตนเลส 304
วัสดุ 304 ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน และป้องกันการกัดกร่อนได้ดี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือใกล้สารเคมี การเลือกใช้วัสดุเกรด 304 ช่วยยืดอายุการใช้งาน ลดการเกิดสนิม และดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ โครงสร้างของตู้สแตนเลส ถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกระแทก ป้องกันฝุ่นและน้ำ ตามมาตรฐาน IP ที่กำหนด จึงช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในให้ทำงานได้อย่างปลอดภัย ตลอดจนช่วยจัดระเบียบการติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น เบรกเกอร์ รีเลย์ หรือแผงควบคุมย่อย ได้อย่างเป็นระเบียบ
1. วัสดุและองค์ประกอบ
สแตนเลส 304
- เป็นเกรดมาตรฐานที่นิยมที่สุด
- ประกอบด้วยโครเมียม 18–20% และนิกเกิล 8–10.5%
- ทนต่อการกัดกร่อนทั่วไปและสนิมในสภาพแวดล้อมปกติ
สแตนเลส 316
- เป็นเกรดทนการกัดกร่อนสูง
- ประกอบด้วยโครเมียม 16–18%, นิกเกิล 10–14%, และ โมลิบดีนัม 2–3%
- โมลิบดีนัมช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อนจากคลอไรด์ เช่น น้ำทะเลและสารเคมีเข้มข้น
2. ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
304 เหมาะกับงานทั่วไปในอาคาร โรงงาน หรือพื้นที่ไม่กัดกร่อนมาก อาจเกิดสนิมได้ถ้าโดนสารเคมีหรือใกล้น้ำทะเลโดยตรง
316 เหมาะกับงานใกล้น้ำทะเล อุตสาหกรรมเคมี หรือสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อนสูง ทนต่อสนิมและการกัดกร่อนได้ดีกว่า 304 หลายเท่า
3. การใช้งานทั่วไป
| เกรด | การใช้งานทั่วไป |
|---|---|
| 304 | ตู้คอนโทรลสแตนเลสภายในอาคาร, เครื่องครัว, งานอุตสาหกรรมทั่วไป |
| 316 | ตู้คอนโทรลสแตนเลสใกล้ทะเล, โรงงานเคมี, อุปกรณ์กลางแจ้งที่ต้องทนสารเคมี |
4. ราคา
304 ราคาถูกกว่า เนื่องจากวัสดุทั่วไปและความทนทานเพียงพอสำหรับงานมาตรฐาน
316 ราคาสูงกว่า เนื่องจากทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนสูง เหมาะกับงานเฉพาะทาง
สรุป:
- เลือก 304 หากใช้งานทั่วไป ไม่ใกล้ทะเลหรือสารเคมีเข้มข้น
- เลือก 316 หากต้องการความทนทานสูงสุดต่อสนิม คลอไรด์ และสภาพแวดล้อมกัดกร่อน
ทำไมความหนาของแผ่นสแตนเลสถึงมีผลต่อราคาตู้สแตนเลส
ความหนาของแผ่นสแตนเลสมีผลโดยตรงต่อ ความแข็งแรง ความมั่นคง การป้องกันน้ำและฝุ่น และอายุการใช้งานของตู้ แผ่นหนา เช่น 1.5–2.0 มม. ทนต่อแรงกระแทก รองรับอุปกรณ์หนักได้ดี ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดีกว่า และใช้งานได้ยาวนานกว่า ส่วนแผ่นบาง เช่น 1.0–1.2 มม. เหมาะกับงานเบา ติดตั้งง่าย ราคาประหยัด แต่มีความเสี่ยงต่อการโค้งงอหรือบุบง่าย ยิ่งแผ่นสแตนเลสหนา ตู้ก็ยิ่งทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่ราคาสูงกว่า แผ่นบางเหมาะกับงานเบาและราคาประหยัด แต่ทนต่อแรงกระทำและสภาพแวดล้อมน้อยกว่า
ทำไมความหนาของแผ่นสแตนเลสถึงมีผลต่อความทนทานและอายุการใช้งานของตู้
ความหนาของแผ่นสแตนเลสเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อ ความแข็งแรง ความทนทาน และอายุการใช้งาน ของตู้ไฟสแตนเลส ด้วยเหตุผลดังนี้:
1. ความแข็งแรงและความมั่นคง
- แผ่นสแตนเลสที่หนากว่าจะมีความแข็งแรงมากกว่า ทำให้ตัวตู้สามารถ รองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ภายใน ได้ดี และไม่เกิดการโค้งงอหรือบุบง่าย
- ตู้ที่ใช้แผ่นบาง อาจเสียรูปได้ง่ายเมื่อต้องรองรับอุปกรณ์หนักหรือเกิดแรงกระแทก
2. การป้องกันการบุบหรือเสียหาย
- แผ่นหนามีความทนต่อแรงกระแทกและการบิดงอสูงกว่า
- ลดโอกาสที่ตัวตู้จะ เสียหายจากการชนหรือแรงกด ในระหว่างการใช้งาน
3. การป้องกันน้ำและฝุ่น
- แผ่นสแตนเลสที่หนาช่วยให้โครงสร้างตู้ มีความแน่นและมั่นคงมากขึ้น ทำให้การติดตั้งซีลกันน้ำรอบประตูมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงที่น้ำหรือฝุ่นจะรั่วซึมเข้าภายใน
4. อายุการใช้งาน
- ตู้ที่ใช้แผ่นหนามักมี อายุการใช้งานยาวนานกว่า เพราะทนต่อสภาพแวดล้อมและแรงกระทำต่าง ๆ ได้ดี
- แผ่นบางแม้ราคาถูก แต่หากใช้งานหนักหรืออยู่กลางแจ้ง อาจเสื่อมสภาพเร็วกว่า
5. ผลต่อราคาตู้สแตนเลส
- แผ่นหนาใช้ วัสดุมากขึ้น และกระบวนการผลิตบางครั้งซับซ้อนกว่า ทำให้ราคาสูงกว่า
- แต่เมื่อเทียบกับอายุการใช้งานและความทนทาน แผ่นหนามัก คุ้มค่ามากกว่าในระยะยาว
สรุปการใช้งานและการบำรุงรักษา
ราคาตู้สแตนเลสขนาด 350x450x150 มม. มีความหลากหลายขึ้นอยู่กับวัสดุ การออกแบบ และมาตรฐานที่ใช้ โดยมีช่วงราคาประมาณ 6,000–8,500 บาท หากคุณต้องการความทนทานสูงและการป้องกันที่ดี ควรพิจารณาตู้ที่มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นตามมาตรฐาน IP55- IP66 วัสดุสแตนเลสสตีล 304/316L หนา 1.5–2 มม., ซีลยางกันน้ำ, ทนทานต่อแรงกระแทก (IK10), รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า วัสดุสแตนเลส, รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมีอ่อน ๆ, ใช้ได้ทั้งภายในและนอกอาคาร