ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส |
ฝาชั้นเดียวกันน้ำ
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส คือ ตู้ที่ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง พร้อมฝาที่มีชั้นเดียวที่ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 หรือ IP66 ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ ฝาชั้นเดียวกันน้ำ มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก เช่น ภายในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับความชื้นและสารเคมีต่างๆ หรือตามพื้นที่กลางแจ้งที่ต้องการการปกป้องจากฝนและฝุ่น ช้ในตู้ไฟฟ้ามีความทนทานสูง สามารถต้านทานการกัดกร่อนจากทั้งน้ำเค็มและสารเคมีได้ดี
"ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส | ฝาชั้นเดียวกันน้ำ"
หมวดหมู่สินค้า
Datasheet Details:
จำหน่ายตู้สแตนเลสกันน้ำ IP55-IP66
✅ ตู้ stainless IP55
- ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน
- ป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น เหมาะสำหรับใช้งานภายในอาคาร
- ทนต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
✅ ตู้สแตนเลสกันน้ำ IP66
- ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับงานกลางแจ้ง
- เหมาะสำหรับงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- โครงสร้างแข็งแรง ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อน
💡 เลือกตู้ที่เหมาะกับงานของคุณ!
📦 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
รายละเอียดสินค้าตู้ไฟฟ้าสแตนเลส | ฝาชั้นเดียวกันน้ำ
ตู้ไฟฟ้าเป็นตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าที่ผลิตจาก สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีคุณสมบัติ ป้องกันสนิมและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานต่อความชื้น ฝุ่น และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง โดยเฉพาะใน โรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมอาหาร เคมี และพื้นที่กลางแจ้ง
✅ วัสดุสแตนเลส 304 คุณภาพสูง – ป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อน
✅ โครงสร้างแข็งแรง – รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในได้อย่างปลอดภัย
✅ มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP55-IP66 – ป้องกันน้ำกระเซ็น ฝุ่น และความชื้น
✅ การออกแบบฝาชั้นเดียว – น้ำหนักเบากว่าแบบฝาสองชั้น เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการฉนวนเพิ่มเติม
✅ ติดตั้งง่าย – มีจุดยึดสำหรับติดผนังหรือเสา พร้อมซีลยางกันน้ำ
🔹 ใช้เป็นตู้ควบคุมไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
🔹 ติดตั้งในพื้นที่กลางแจ้ง เช่น สถานีไฟฟ้า หรืออาคารที่ต้องการป้องกันน้ำและฝุ่น
🔹 ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเคมีที่ต้องการวัสดุที่ไม่เป็นสนิม
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส คืออะไร
ตู้สแตนเลส คือ ตู้ควบคุมระบบไฟฟ้า ที่ผลิตจาก สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ซึ่งมีคุณสมบัติ ทนต่อการกัดกร่อน ความชื้น และสนิม เหมาะสำหรับ ใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะใน โรงงานอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมอาหาร และเคมี มี มาตรฐานกันน้ำและฝุ่นระดับ IP55, IP65 หรือ IP66 ทำให้สามารถป้องกันน้ำกระเซ็นและฝุ่นละอองได้ดี มีให้เลือกทั้ง ฝาชั้นเดียวและฝาสองชั้น เพื่อความเหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภท ใช้สำหรับติดตั้ง อุปกรณ์ควบคุมระบบไฟฟ้า เพื่อความปลอดภัยและการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพ มีความ แข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความร้อน ความชื้น และสารเคมี เหมาะสำหรับ อุตสาหกรรมที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานใน สถานที่กลางแจ้ง ได้ดี เนื่องจากทนต่อฝนและแสงแดด การเลือกใช้สแตนเลส 304 หรือ 316 ขึ้นอยู่กับระดับความทนทานต่อการกัดกร่อนที่ต้องการ ตู้บางรุ่นอาจมาพร้อมกับ ซีลยางกันน้ำ และ ระบบล็อกนิรภัย เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน ติดตั้งง่ายและรองรับ อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายประเภท ทำให้เหมาะกับการใช้งานทั้งเชิงพาณิชย์และอุตสาหกรรม
การวัดขนาดของตู้ไฟฟ้าสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานตู้ไฟสแตนเลสเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟฟ้าได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
รูปแบบตู้ไฟฟ้าสแตนเลสมีให้เลือกหลายและหลายขนาด
ตู้สแตนเลสมีให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น ตู้ฝาชั้นเดียว ที่เหมาะสำหรับการติดตั้งทั่วไป และ ตู้ฝาสองชั้น ที่ช่วยป้องกันความร้อนและเพิ่มความปลอดภัยสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน บางรุ่นอาจมาพร้อม ช่องระบายอากาศหรือพัดลมระบายความร้อน เพื่อลดการสะสมความร้อนภายในตู้ การเลือกใช้ ระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำ (IP Rating) เป็นสิ่งสำคัญ เช่น IP55 สำหรับกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น หรือ IP66 สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำและฝุ่นมาก ตู้เหล่านี้สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบ แขวนผนัง ตั้งพื้น หรือแบบมีขาตั้ง เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย นอกจากนี้ ยังสามารถ สั่งผลิตขนาดพิเศษ ตามความต้องการของแต่ละโครงการได้
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลสที่ทนต่อความชื้นและสารเคมี
การทำความสะอาดและดูแลรักษาง่ายตู้ไฟฟ้าสแตนเลส
กระบวนการการออกแบบตู้สแตนเลสกันน้ำ
การออกแบบให้รองรับการใช้งานใน อุตสาหกรรมหนักและพื้นที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อน
ตัวอย่างการออกแบบตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสำหรับอุตสาหกรรมหนักและพื้นที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อน
1️⃣ โรงงานเคมีและปิโตรเคมี – ออกแบบให้ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากไอระเหยของสารเคมี ด้วยการใช้ สแตนเลสเกรด 316 และซีลกันน้ำแบบพิเศษ
2️⃣ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม – ออกแบบให้มีพื้นผิวเรียบ ทำความสะอาดง่าย ป้องกันเชื้อแบคทีเรียสะสม และรองรับมาตรฐานสุขอนามัย
3️⃣ อุตสาหกรรมทางทะเลและชายฝั่ง – ใช้วัสดุสแตนเลส 316L ที่ทนต่อไอเกลือและความชื้นสูง พร้อมซีลป้องกันน้ำมาตรฐาน IP66
4️⃣ โรงงานผลิตยาและห้องปลอดเชื้อ – ออกแบบให้ไม่มีรอยต่อและมุมอับฝุ่น ทำให้สามารถ ล้างทำความสะอาดและฆ่าเชื้อได้ง่าย
5️⃣ เหมืองแร่และโรงไฟฟ้า – ใช้โครงสร้างที่หนาพิเศษ รองรับแรงกระแทกและสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นและความร้อนสูง
6️⃣ โรงงานอุตสาหกรรมหนัก – ออกแบบให้มีระบบระบายอากาศ หรือพัดลมระบายความร้อน เพื่อลดการสะสมความร้อนภายในตู้ไฟฟ้าและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอุปกรณ์.
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลสที่ทนต่อความชื้นและสารเคมี
ออกแบบเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจาก การกัดกร่อน หรือ การทำปฏิกิริยาของสารเคมี เช่น ในอุตสาหกรรมอาหาร, เคมี, หรือการผลิตที่ใช้สารเคมีต่างๆ ซึ่งต้องใช้ตู้ไฟฟ้าที่ทนทานและปลอดภัย
คุณสมบัติที่ช่วยให้ตู้ Stainless ทนต่อความชื้นและสารเคมี:
- วัสดุสแตนเลสเกรด 316: สแตนเลสเกรด 316 เป็นวัสดุที่ทนต่อสารเคมีและไอเกลือได้ดีเยี่ยม จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีที่กัดกร่อน เช่น การผลิตอาหารทะเลหรืออุตสาหกรรมเคมี
- ซีลกันน้ำและฝุ่น (IP Rating): มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (เช่น IP65 หรือ IP66) ช่วยให้ตู้ไฟฟ้าป้องกันน้ำจากการกระเซ็นหรือฝุ่นละอองที่อาจเข้าไปทำลายอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน
- พื้นผิวที่ป้องกันการกัดกร่อน: พื้นผิวของตู้ไฟฟ้าจะมีการเคลือบหรือขัดเงาเพื่อป้องกันการสะสมของสารเคมีและทำให้ทำความสะอาดได้ง่าย
- การระบายอากาศที่ดี: การออกแบบให้มีช่องระบายอากาศหรือพัดลมที่ช่วยให้สามารถ ระบายความร้อน และ ลดความชื้นภายในตู้ เพื่อป้องกันการทำลายของอุปกรณ์ไฟฟ้า
- ความทนทานต่อการกระแทก: สามารถทนต่อแรงกระแทกจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนย้ายหรือสั่นสะเทือนสูง
ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสสารเคมีบ่อยครั้ง เพื่อ ปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้า และ เพิ่มความปลอดภัย ในการใช้งาน.
การทำความสะอาดและดูแลรักษาง่ายตู้ไฟสแตนเลส
เป็นตัวเลือกที่ เหมาะสมในการทำความสะอาดและดูแลรักษาง่าย เนื่องจากคุณสมบัติหลายประการที่ช่วยให้ง่ายต่อการบำรุงรักษาและทำความสะอาด:
- พื้นผิวเรียบและไม่ดูดซับสิ่งสกปรก: สแตนเลสมีพื้นผิวที่เรียบและไม่เป็นรูพรุน ทำให้ไม่สะสมฝุ่นและสิ่งสกปรก ซึ่งทำให้การทำความสะอาดเป็นไปได้ง่ายและรวดเร็ว
- ทนทานต่อสารเคมี: ทนต่อสารเคมีต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการทำความสะอาด เช่น น้ำยาทำความสะอาดทั่วไป หรือสารฆ่าเชื้อที่มักใช้ในอุตสาหกรรม ทำให้ไม่เกิดความเสียหายหรือการกัดกร่อน
- ทนทานต่อการกัดกร่อน: สแตนเลสไม่เกิดสนิมหรือกัดกร่อนจากการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมี จึงสามารถทำความสะอาดได้บ่อยครั้งโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเสื่อมสภาพ
- การขัดและเช็ดง่าย: สามารถขัดหรือเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายโดยไม่ทิ้งคราบหรือรอยขีดข่วน ช่วยให้ตู้ดูใหม่อยู่เสมอ
- ระบายความร้อนได้ดี: การออกแบบที่สามารถระบายอากาศได้ดีช่วยให้ไม่เกิดการสะสมของความชื้นภายใน ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดเชื้อราหรือสิ่งสกปรกที่ยากต่อการทำความสะอาด
การดูแลรักษาตู้ไฟฟ้าสแตนเลสอย่างมีประสิทธิภาพ
ดูแลรักษาตู้ไฟสแตนเลส ควรทำตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อรักษาความทนทานและประสิทธิภาพ:ทำความสะอาดพื้นผิว: ใช้ผ้านุ่มหรือฟองน้ำทำความสะอาดเพื่อขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรก หลีกเลี่ยงการใช้วัสดุแข็งที่อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนตรวจสอบซีลและช่องระบายอากาศ: ตรวจสอบซีลยางรอบประตูเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าไป และทำความสะอาดช่องระบายอากาศเพื่อป้องกันการอุดตันตรวจสอบภายในตู้: ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน เช่น สายไฟ และตัวตัดวงจร เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้องป้องกันความชื้นและสารเคมี: ป้องกันไม่ให้มีน้ำขังภายในตู้และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารเคมีที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อนการบำรุงรักษาระยะยาว: ตั้งตารางตรวจสอบและเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เสียหายเพื่อรักษาการทำงานของระบบไฟฟ้า
กระบวนการการออกแบบตู้สแตนเลสกันน้ำ
ระบวนการที่ต้องคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละสภาพแวดล้อมและมีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงความปลอดภัย การป้องกันจากฝุ่น น้ำ และสารเคมีที่อาจเป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ภายใน ดังนี้:
- วัสดุที่ใช้: เลือกสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ตามสภาพแวดล้อมและความต้องการ เช่น สำหรับพื้นที่ชายฝั่งหรือในอุตสาหกรรมเคมี
- ขนาดและรูปร่าง: ออกแบบตามขนาดอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้งและพื้นที่ติดตั้ง เช่น ตู้ขนาดเล็กสำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือขนาดใหญ่สำหรับระบบควบคุม
- ประเภทของประตู: เลือกประตูแบบเดี่ยวหรือ 2 ชั้น ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความสะดวกในการเข้าถึงอุปกรณ์ภายใน
- การป้องกันฝุ่นและน้ำ: ใช้มาตรฐาน IP55, IP66 หรือสูงกว่าเพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำจากการเข้าไปทำลายอุปกรณ์ภายใน
- ฟังก์ชันเพิ่มเติม: อาจออกแบบช่องระบายอากาศ ช่องสำหรับติดตั้งพัดลมระบายความร้อน หรือเพิ่มอุปกรณ์เสริมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
- การติดตั้ง: คำนึงถึงวิธีการติดตั้ง เช่น การติดตั้งแบบวางพื้นหรือแบบติดผนัง และการจัดการกับการเดินสายไฟเพื่อความสะดวกในการบำรุงรักษา
การออกแบบที่ดีจะช่วยให้ตู้ Stainless มีความทนทาน ปลอดภัย และเหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย.
ตู้สแตนเลส คือ ตู้ที่ผลิตจากวัสดุสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิม เหมาะสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมและงานติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า สามารถป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และแรงกระแทกได้ดี มักใช้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัย มีให้เลือกหลายขนาดและสามารถปรับแต่งให้ตรงกับการใช้งาน เช่น เพิ่มช่องระบายอากาศ ระบบล็อก ช่องเข้าสายไฟ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมี
อธิบายสรุป ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส ฝาชั้นเดียวกันน้ำ เป็นตู้ที่ทำจากสแตนเลสคุณภาพสูง พร้อมฝาชั้นเดียวที่ออกแบบให้ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP55 หรือสูงกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีฝุ่น เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่กลางแจ้งที่ต้องการการป้องกันไฟฟ้าจากน้ำและสิ่งสกปรก วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรงฝาชั้นเดียวกันน้ำ: ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตู้จากความเสียหาย ใช้งานง่าย: ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายทั้งในพื้นที่ในร่มและกลางแจ้ง