ตู้ stainless
(กันน้ำ 304-316L)
ตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L) เป็นตู้ที่ผลิตจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น งานอุตสาหกรรมเคมี หรือบริเวณที่มีความเค็มสูง ตู้มีการป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP55 หรือ IP66 ทำให้สามารถใช้ในที่กลางแจ้งหรือสถานที่ที่มีสภาพอากาศที่ไม่คงที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตู้ยังมีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก
"ตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L)"
หมวดหมู่สินค้า
Datasheet Details:
จำหน่ายตู้สแตนเลสกันน้ำ IP55-IP66
✅ ตู้ stainless IP55
- ผลิตจากสแตนเลสคุณภาพสูง แข็งแรง ทนทาน
- ป้องกันฝุ่นและน้ำกระเซ็น เหมาะสำหรับใช้งานภายในอาคาร
- ทนต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
✅ ตู้สแตนเลสกันน้ำ IP66
- ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์แบบ รองรับงานกลางแจ้ง
- เหมาะสำหรับงานไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม และพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
- โครงสร้างแข็งแรง ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อน
💡 เลือกตู้ที่เหมาะกับงานของคุณ!
📦 พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
รายละเอียดสินค้าตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L)
ตู้สแตนเลส (กันน้ำ 304-316L) ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้า L ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านทานการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้อย่างยอดเยี่ยม ทั้งนี้ตู้ไฟฟ้าสแตนเลสชนิดนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานกันน้ำและฝุ่นตามระดับ IP55 หรือ IP66 จึงสามารถป้องกันสิ่งสกปรกและน้ำจากการเข้าไปทำลายอุปกรณ์ภายในตู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วัสดุคุณภาพสูง – ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่เป็นสนิม และเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี
- ความหนาของแผ่นสแตนเลส – มีความหนาตั้งแต่ 1.5 – 2 มม. เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและทนต่อแรงกระแทก
- ป้องกันน้ำและฝุ่น – ติดตั้งซีลยาง (Sponge Rubber Seal) เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละออง มาตรฐานการป้องกัน IP55 และ IP66
- ทนต่อแรงกระแทก – มีค่าความทนทานต่อแรงกระแทก IK10 ซึ่งสามารถป้องกันแรงกระแทกจากภายนอกได้ดี
- ดีไซน์แข็งแรงและสวยงาม – การออกแบบเรียบง่าย ทันสมัย ใช้งานได้กับทุกสถานที่
- ติดตั้งง่าย – รองรับการติดตั้งแบบแขวนผนังหรือยึดพื้น พร้อมบานพับและระบบล็อกที่แข็งแรง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ Stainless 304 ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้ดีเยี่ยม
ตู้สแตนเลส 304 มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิมได้ดีเยี่ยม เนื่องจากส่วนผสมหลักของสแตนเลส 304 ประกอบด้วยโครเมียม (Cr) และนิกเกิล (Ni) ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการต้านทานสารเคมีและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน การเคลือบผิวของสแตนเลส 304 ยังช่วยป้องกันไม่ให้เกิดสนิมในระยะยาว แม้จะต้องเผชิญกับการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร หรือเครื่องจักรกลในภาคการผลิต จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานและความยาวนานในการใช้งาน
การวัดขนาดของตู้สแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานตู้ไฟฟ้าสแตนเลสเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟฟ้าได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
ตู้สแตนเลสทนต่อการกัดกร่อนจากการสัมผัสกับน้ำเค็มหรือสารเคมีบางชนิด
ตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L) ทนทานต่อการกัดกร่อนจากการสัมผัสกับน้ำเค็มหรือสารเคมีบางชนิดได้ดี เนื่องจากสแตนเลส 304 มีโครเมียมในส่วนผสมที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิมและการกัดกร่อนจากการสัมผัสกับน้ำหรืออากาศที่มีความชื้นสูง รวมถึงน้ำทะเลที่มีความเค็ม ซึ่งสามารถทำให้โลหะทั่วไปเกิดสนิมได้ง่าย สแตนเลส 304 ยังทนทานต่อกรดอ่อน ๆ หรือสารเคมีที่ไม่รุนแรงได้ดี เช่น กรดซัลฟูริกที่ความเข้มข้นต่ำหรือน้ำมันจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ทำให้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่มีความเค็ม โดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการกัดกร่อนในระยะยาว
ตู้ stainless ความทนทานต่อการเกิดคราบจากสารเคมี
ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม: สแตนเลส 304 และ 316L
ความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้า
ทำไมตู้สแตนเลสจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ชายฝั่งและอุตสาหกรรมเคมี
ตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L)เป็นวัสดุที่เหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น พื้นที่ชายฝั่งและอุตสาหกรรมเคมี เนื่องจากมีคุณสมบัติที่ทนทานและสามารถทนต่อการกัดกร่อนจากปัจจัยภายนอกได้ดี โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้:
- ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม: สแตนเลส 304 มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญสำหรับการใช้งานในพื้นที่ชายฝั่ง ที่มีความเสี่ยงจากการสัมผัสกับเกลือในอากาศและน้ำทะเล
- ป้องกันการเกิดสนิม: สแตนเลส 304 มีการผสมโครเมียมและนิกเกิลที่ช่วยเพิ่มความต้านทานการเกิดสนิม ซึ่งช่วยปกป้องอุปกรณ์จากการเสียหายและยืดอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
- ทนทานต่อสารเคมีบางชนิด: สแตนเลส 304 สามารถทนต่อการสัมผัสกับสารเคมีบางประเภทได้ดี เช่น กรดเจือจาง และสารเคมีในกระบวนการอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้เหมาะสมในการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมเคมี
- ง่ายต่อการบำรุงรักษา: ด้วยความทนทานและความสามารถในการทำความสะอาดได้ง่าย จึงช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นๆ ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- คงทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง: ไม่ว่าจะเป็นการสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ หรืออุณหภูมิที่สูงหรือเย็นเกินไป สแตนเลส 304 ยังคงรักษาคุณสมบัติการป้องกันได้ดี
- ความแข็งแรงและความทนทาน: ตู้สแตนเลส 304 มีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อแรงกระแทก ซึ่งช่วยให้การใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวหรือการกระแทกได้ดี เช่น พื้นที่ชายฝั่งที่มีสภาพลมแรง
ดังนั้น, การเลือกใช้ตู้สแตนเลส 304 จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายเช่นในพื้นที่ชายฝั่งและอุตสาหกรรมเคมี เพราะสามารถปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องจักรได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว.
ตู้ stainless ความทนทานต่อการเกิดคราบจากสารเคมี
ตู้ไฟสแตนเลส 304 ยังมีความทนทานต่อการเกิดคราบจากสารเคมีและการสะสมของสิ่งสกปรก ซึ่งทำให้การบำรุงรักษาและการทำความสะอาดทำได้ง่าย ตู้ประเภทนี้จึงเหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับน้ำทะเลหรือสารเคมีต่าง ๆ เช่น ในอุตสาหกรรมการประมง การผลิตอาหารทะเล หรือในพื้นที่ชายฝั่งที่มีมลพิษจากน้ำเค็ม อีกทั้งยังทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิที่รุนแรงได้ดี จึงมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ภายในตู้จะได้รับการปกป้องอย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่เพียงแต่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและสารเคมีเบื้องต้น แต่ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีมลพิษสูง เช่น ฝุ่นละอองในอากาศ หรือสารเคมีที่อาจเกิดจากกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการติดตั้งในอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยและการปกป้องที่ยาวนาน
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลสนี้สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนจากการสัมผัสสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนต่ำ เช่น กรดฟอสฟอริกหรือน้ำมันเชิงพาณิชย์ได้ ทำให้การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีเป็นส่วนประกอบเป็นเรื่องที่ง่ายและปลอดภัยขึ้น ทั้งยังช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ที่ติดตั้งภายในตู้
ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูงช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ภายในตู้ โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเกิดสนิมหรือการกัดกร่อนที่อาจทำให้ระบบไฟฟ้าล้มเหลวหรือเกิดอันตรายจากการไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ ด้วยความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย สแตนเลส 304 ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหรือซ่อมแซมตู้เมื่อเวลาผ่านไ
ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม: สแตนเลส 304 และ 316L
ทั้ง สแตนเลส 304 และ 316L มีคุณสมบัติที่ช่วยให้ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มได้ดี แต่ทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกันในระดับความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ดังนี้:
สแตนเลส 304:สแตนเลส 304 มีโครเมียมและนิกเกิลในสัดส่วนที่ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและอากาศที่มีความชื้นสูง แต่ยังคงสามารถทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและสิ่งปนเปื้อนได้ดีในสภาพแวดล้อมทั่วไปแม้ว่า 304 จะทนต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มได้ดี แต่เมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำเค็มสูงหรือใกล้ทะเล อาจพบการกัดกร่อนได้บ้างในระยะยาว
สแตนเลส 316L:สแตนเลส 316L ถือเป็นวัสดุที่ดีกว่าเมื่อเทียบกับ 304 ในการทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็ม เนื่องจากมี โมลิบดีนัม (Molybdenum) ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและน้ำเค็มโดยเฉพาะ
สแตนเลส 316L จึงเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีน้ำเค็มสูง เช่น ในอุตสาหกรรมทะเลหรือการใช้งานใกล้ชายฝั่งทะเล ซึ่งต้องการการปกป้องสูงจากการกัดกร่อน
ทำไมตู้สแตนเลสจึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ชายฝั่งและอุตสาหกรรมเคมี
จากวัสดุสแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและไม่เกิดสนิม ทำให้ไม่จำเป็นต้องทำการบำรุงรักษาบ่อยครั้ง เพียงแค่ทำความสะอาดตู้เป็นระยะ ๆ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจส่งผลต่อการทำงานของอุปกรณ์ภายใน การตรวจสอบสภาพประตูและระบบยึดภายในตู้ก็สามารถทำได้ง่าย เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการหลุดหรือเสียหายจากการใช้งาน อายุการใช้งานยาวนาน เนื่องจากวัสดุที่ใช้ผลิตมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นความชื้น ฝุ่น หรือสารเคมีต่าง ๆ ทั้งยังไม่เสื่อมสภาพจากแสงแดดและการใช้งานหนัก การออกแบบที่แข็งแรงช่วยให้สามารถรองรับน้ำหนักของอุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก ๆ ได้โดยไม่เกิดการบิดงอ สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปีโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความเสียหายจากสภาพแวดล้อม
ความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้า
การเข้าสายไฟด้วยเคเบิ้ลแกลนแและตู้ stainless มีความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด:
- ป้องกันการเสื่อมสภาพของสายไฟ: การใช้งานช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพ เช่น ความชื้นหรือสารเคมี ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
- ยึดสายไฟให้มั่นคง: สามารถยึดสายไฟให้แน่นหนาและมั่นคงในที่ตั้งต่างๆ เช่น ตู้ไฟฟ้า หรือพื้นที่การติดตั้งที่มีการเคลื่อนไหวหรือสั่นสะเทือน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการเสียหายจากการดึง
- รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน: ด้วยการผลิตจากวัสดุสแตนเลสที่ทนทานต่อการกัดกร่อน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่กลางแจ้ง
- ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร: การใช้งานสามารถช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสกันระหว่างสายไฟหรือการเสื่อมสภาพของฉนวนสายไฟ โดยการยึดสายให้แน่น
- ติดตั้งง่ายและยืดหยุ่น: มีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง รองรับการเชื่อมต่อหลายประเภทของสายไฟและสามารถใช้งานได้กับหลายชนิดของการเดินสายไฟ
- เพิ่มความทนทานของระบบไฟฟ้า: การใช้งานช่วยเพิ่มความทนทานให้กับระบบไฟฟ้า โดยลดโอกาสเกิดการชำรุดจากปัจจัยภายนอก ช่วยให้การใช้งานระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส คือ ตู้ที่ผลิตจากวัสดุสแตนเลส มีความแข็งแรง ทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิม เหมาะสำหรับใช้ในงานอุตสาหกรรมและงานติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า ตู้สแตนเลสสามารถป้องกันน้ำ ฝุ่นละออง และแรงกระแทกได้ดี มักใช้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัย มีให้เลือกหลายขนาดและสามารถปรับแต่งให้ตรงกับการใช้งาน เช่น เพิ่มช่องระบายอากาศ ระบบล็อก ช่องเข้าสายไฟ ใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมี
อธิบายสรุป ตู้ stainless (กันน้ำ 304-316L)เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมในการผลิตตู้ไฟฟ้าและตู้ควบคุมที่ต้องการความทนทานสูงต่อน้ำและการกัดกร่อน โดยทั้งสองประเภทมีคุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือใกล้ทะเล:สแตนเลส 304: ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและสารเคมีทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ในโรงงานหรืออุตสาหกรรมทั่วไป สแตนเลส 316L: มีความทนทานที่สูงกว่า 304 เนื่องจากมี โมลิบดีนัม ช่วยเพิ่มความต้านทานการกัดกร่อนจากน้ำเค็มและสารเคมีต่าง ๆ ได้ดีกว่า เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ชายฝั่งทะเลหรืออุตสาหกรรมเคมีที่มีการสัมผัสกับสารเคมีรุนแรง