รางร้อยสายไฟกระดูกงู
Cable Chain Steel (S-Type)
รางร้อยสายไฟกระดูกงู Cable Chain Steel (S-Type) คือ รางที่ปกป้องสายไฟและสายไฮดรอลิคที่ผลิตจากเหล็กคุณภาพสูงและผ่านกระบวนการเคลือบผิวด้วยสังกะสี (ซิงค์) เพื่อเพิ่มความทนทานและการป้องกันจากการกัดกร่อน การชุบซิงค์ช่วยให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสารเคมี ฝุ่น และการเสียดสี การออกแบบสามารถโค้งงอได้ในแนวขึ้นและลง (รูปทรง “S”)
" รางร้อยสายไฟกระดูกงู Cable Chain Steel (S-Type) "
คุณสมบัติของรางร้อยสายไฟกระดูกงูเหล็ก S-Steel Cable Chain
การออกแบบ สามารถโค้งงอได้ในทิศทางขึ้นและลงในรูปทรงคล้ายตัว “S” ต่างจากรุ่นทั่วไปที่มักจะโค้งงอได้เพียงทิศทางเดียว คุณสมบัตินี้ช่วยให้สามารถเคลื่อนไหวได้หลากหลายและรองรับการใช้งานในระบบที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง เช่น แขนหุ่นยนต์อุตสาหกรรมและเครื่องจักร CNC ที่มีการเคลื่อนที่ในหลายแนว การออกแบบรูปทรง “S” นี้ยังช่วยลดการบิดงอและป้องกันการพันกันของสายไฟและท่อ ทำให้เกิดความปลอดภัยในการใช้งานและยืดอายุการใช้งานของสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา
วัสดุและโครงสร้างที่แข็งแกร่ง ผลิตจาก เหล็กชุบซิงค์ (Galvanized Steel Plate) หรือ สเตนเลสสตีล (Stainless Steel) ซึ่งเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานในการใช้งาน วัสดุเหล่านี้มีความต้านทานต่อการกัดกร่อนและสนิมได้ดี ทำให้เหมาะกับงานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง โครงสร้างทำจากแผ่นเหล็กคุณภาพสูงและมีความหนาเพื่อรองรับการใช้งานหนัก นอกจากนี้ ตัวซัพพอร์ตบอร์ดทำจาก อลูมิเนียมอัลลอยที่ถูกอัดขึ้นรูป ช่วยให้รองรับน้ำหนักของสายไฟและท่อได้อย่างมั่นคง ในขณะที่ตัวเพลาข้อต่อทำจากโลหะอัลลอยเพื่อการเชื่อมต่อที่แข็งแรงและทนทานต่อการสึกหรอจากการใช้งานซ้ำๆ
ช่วงอุณหภูมิในการใช้งานที่กว้าง ด้วยวัสดุที่ทนทานต่อความร้อนสูง Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type สามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง +250°C ซึ่งทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งในสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด เช่น โรงงานแช่แข็ง และอุณหภูมิสูง เช่น อุตสาหกรรมหลอมโลหะและโรงงานผลิตแก้ว ความสามารถนี้ยังเหมาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมพลังงาน เช่น การขนส่งก๊าซและน้ำมัน ซึ่งอาจต้องเผชิญกับความร้อนจากการใช้งานที่เข้มข้น ช่วงอุณหภูมิที่กว้างนี้ทำให้โซ่รุ่นนี้ใช้งานได้ยาวนานและคงประสิทธิภาพแม้ในสภาวะที่ท้าทาย
รองรับน้ำหนักและการเคลื่อนไหวของสายไฟและท่อที่มี ความยืดหยุ่นสูงด้วยซัพพอร์ตบอร์ดที่ทำจาก อลูมิเนียมอัลลอย ซึ่งมีน้ำหนักเบาแต่แข็งแรง สามารถรองรับน้ำหนักของสายไฟและท่อที่มีความหลากหลายได้ ตั้งแต่สายไฟสำหรับงานหนักไปจนถึงท่อที่มีการไหลของของเหลวหรือก๊าซ และเนื่องจากโครงสร้างที่มีความแข็งแรง จึงช่วยลดการบิดงอและการเสียดสีที่อาจทำให้สายเสียหายได้ในระยะยาว คุณสมบัตินี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนซึ่งต้องการความมั่นคงในการจัดระเบียบสายไฟ เช่น หุ่นยนต์อุตสาหกรรมหรือเครื่องจักร CNC
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานและการออกแบบที่ป้องกันการบิดงอ
คุณสมบัติด้วยการเลือกใช้วัสดุที่ทนทานและการออกแบบที่ป้องกันการบิดงอ Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและท่อในระบบการผลิต โครงสร้างที่มี โครงสร้างจากเหล็กช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างข้อต่อมีความแข็งแรง และสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหลโดยไม่ทำให้เกิดการเสียดสีภายในราง ซึ่งเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้สายไฟและท่อเกิดการเสียหาย การใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูงยังทำให้การบำรุงรักษาเป็นไปอย่างง่ายดาย ลดการหยุดซ่อมบำรุง และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมดในระบบ
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ
การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ (Cable Chain Measurement)
การเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในด้านความกว้างและความสูงภายในรางเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญมากในการติดตั้งและใช้งานเพื่อป้องกันการสึกหรอและลดโอกาสเกิดความเสียหายกับสายเคเบิลหรือสายพาน โดยการทำตามแนวทางนี้ จะช่วยให้การติดตั้งและใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้ตามแนวทางดังนี้:
- 1. การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement) ทำการวัดความกว้างของ โดยให้ความสนใจว่าความกว้างนี้ต้องพอเพียงสำหรับการติดตั้งสายเคเบิลหรือสายพานหลายเส้นในแนวขนาน ซึ่งหากมีสายหลายเส้นในรางเดียว ควรมีช่องว่างระหว่างแต่ละเส้นอย่างน้อย 10% ของความกว้างสาย
- 2. การคำนวณค่า 10% ของความกว้างสายเคเบิล (Calculate 10% of Cable Width) เมื่อทราบความกว้างของสายเคเบิลหรือสายพานที่ต้องการติดตั้งในรางแล้ว ให้คำนวณค่า 10% ของความกว้างนี้เพื่อเป็นช่องว่างเพิ่มเติม โดยการเพิ่ม 10% นี้จะช่วยป้องกันการเสียดสีและช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายทำได้อย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดของสายขณะเคลื่อนที่
- 3. เว้นช่องว่างความสูงอย่างน้อย 10% ไม่เพียงแค่ความกว้าง ช่องว่างในแนวสูงภายในรางก็ควรมีอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลหรือสายพานเช่นกัน เพื่อให้สายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะการทำงาน
- 4. ประโยชน์จากการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม การเว้นช่องว่างทั้งด้านกว้างและสูงอย่างน้อย 10% จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสายภายในราง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและสายพานได้ ทำให้ระบบการเคลื่อนที่ภายในเครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องที่อาจส่งผลต่อการผลิตหรือการทำงานของระบบ
รัศมีการดัดโค้ง (Bending Radius) ของกระดูกงูมีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้
- หลักการเว้นพื้นที่ 15%: ควรเว้นพื้นที่ในรางอย่างน้อย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สายไฟหรือท่อสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดแรงกดหรือแรงตึงที่อาจทำให้สายเสียหาย
- การรองรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ: พื้นที่ว่างช่วยให้สายไฟหรือท่อโค้งงอได้โดยไม่มีแรงกระทำมากเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายจากการเสียดสี
- ผลกระทบต่ออายุการใช้งาน: หากเว้นพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายไฟหรือท่อขาดความยืดหยุ่นและเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ
- ความสำคัญของรัศมีโค้ง: รัศมีโค้งที่เหมาะสมช่วยลดแรงกระทำต่อสายไฟและราง ทำให้ระบบเคลื่อนไหวได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน
รางกระดูกงูสแตนเลสเกรด 210
ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือใกล้สารเคมี การเลือกใช้รางสแตนเลสที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของระบบสายไฟ โดยทั่วไปแนะนำให้ใช้สแตนเลสเกรดที่มีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนและสนิม เช่น สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีส่วนผสมของโครเมียมและนิกเกิลสูง ช่วยเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรง เกรด 210 เหมาะสำหรับงานที่ต้องการลดต้นทุนและอยู่ในพื้นที่ที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการกัดกร่อนสูง หากต้องการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี ควรพิจารณาเกรดที่สูงกว่า
ข้อดีของรางสายไฟกระดูกงูเหล็ก S-Type
การจัดการสายไฟขนาดใหญ่ในงานอุตสาหกรรมหนัก
การเลือกขนาดช่องเข้าสายไฟในรางร้อยสายไฟกระดูกงู
ตัวอย่างการใช้งานรางกระดูกงูเหล็ก S-Type ในสายไฟขนาดใหญ่
อุตสาหกรรมการผลิตน้ำมัน ในกระบวนการขุดเจาะและสกัดน้ำมัน มักต้องใช้สายไฟและท่อที่ยาวและหนัก เพื่อส่งพลังงานและควบคุมเครื่องมือในการขุดเจาะ Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type เหมาะสำหรับใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและมีสารเคมีอยู่ทั่วไป โครงสร้างที่แข็งแรงทนทานและการเคลือบซิงค์หรือสเตนเลสช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากน้ำมันดิบ ทำให้โซ่สามารถป้องกันสายไฟและท่อจากการสึกหรอในระยะยาว ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
อุตสาหกรรมปิโตรเคมี โรงงานปิโตรเคมีมักมีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดการกัดกร่อนสูง Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการจัดการสายไฟและท่อในโรงงานเหล่านี้ โซ่ร้อยสายไฟรุ่นนี้ช่วยป้องกันสายไฟจากการสัมผัสสารเคมีที่รุนแรง ลดโอกาสในการเสียหายและทำให้ระบบการทำงานเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในกระบวนการที่ต้องการความมั่นคงของระบบไฟฟ้าและการควบคุมการไหลของของเหลว
อุตสาหกรรมการผลิตพลาสติก ในกระบวนการฉีดหรือขึ้นรูปพลาสติกมักต้องใช้สายไฟและท่อเพื่อควบคุมระบบที่ทำงานภายใต้อุณหภูมิสูง Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type รองรับการใช้งานในสภาวะดังกล่าวได้ดี เนื่องจากทนต่ออุณหภูมิสูง โดยรางสายไฟนี้จะช่วยป้องกันสายไฟและท่อจากการเสียดสีและการบิดงอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวบ่อยครั้งในการผลิต นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการสัมผัสกับสารเคมีบางชนิดที่ใช้ในกระบวนการผลิตพลาสติก ทำให้มั่นใจได้ว่าสายไฟและท่อจะคงสภาพดีตลอดการใช้งาน
การป้องกันการกัดกร่อนในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการป้องกันการกัดกร่อน เช่น โรงงานผลิตชิ้นส่วนโลหะและอุตสาหกรรมเคมี ซึ่งมีสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยฝุ่นและสารเคมีที่อาจทำให้โซ่เสียหาย การใช้เหล็กชุบซิงค์หรือสเตนเลสทำให้โซ่รุ่นนี้มีคุณสมบัติต้านทานการกัดกร่อนที่ยอดเยี่ยม เหมาะสำหรับปกป้องสายไฟและท่อจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย นอกจากช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของระบบแล้ว ยังลดความเสี่ยงที่จะเกิดการเสียหายกับสายไฟที่อาจส่งผลต่อระบบโดยรวม
ข้อดีของรางสายไฟกระดูกงูเหล็ก S-Type
รองรับสายไฟขนาดใหญ่และน้ำหนักที่มากได้อย่างมั่นคง ออกแบบมาให้สามารถรองรับสายไฟและท่อขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก ซึ่งเหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมหนัก เช่น การขนส่งพลังงานและการเชื่อมต่อระบบที่มีความซับซ้อน โครงสร้างเหล็กและการเสริมความแข็งแรงภายในด้วยซัพพอร์ตบอร์ดจากอลูมิเนียมอัลลอย ทำให้โซ่รุ่นนี้สามารถรองรับน้ำหนักได้โดยไม่เกิดการบิดตัวหรือเสียรูป ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของสายไฟและท่อ
ทนทานต่อการเสียดสีและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีแรงกระแทก วัสดุเหล็กชุบซิงค์หรือสเตนเลสสตีลของรุ่น S-Type ทำให้โซ่สามารถทนต่อการเสียดสีจากการเคลื่อนไหวซ้ำๆ ได้เป็นอย่างดี ช่วยป้องกันสายไฟและท่อจากการสึกหรอที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองและเศษวัสดุ นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่มีการกระแทกและการสั่นสะเทือนสูง เช่น ในการขนส่งและกระบวนการลำเลียงในโรงงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าระบบสายไฟจะไม่เสียหายจากแรงเสียดสีภายในโซ่
ทนต่อความร้อนสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยการออกแบบที่สามารถทนทานต่ออุณหภูมิในช่วง -40°C ถึง +250°C โซ่รุ่น S-Type จึงสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น การผลิตเหล็กและการหลอมโลหะ ซึ่งความร้อนเป็นปัจจัยหลักในกระบวนการผลิต การเลือกใช้วัสดุที่ทนความร้อนสูงช่วยให้โซ่และสายไฟไม่เสียหายจากการโดนความร้อนเป็นเวลานาน ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับความร้อนสูงเป็นพิเศษ
ต้านทานสารเคมีบางชนิดได้ดี โครงสร้างเหล็กที่เคลือบด้วยซิงค์หรือผลิตจากสเตนเลสสตีล ช่วยให้ Steel Cable Drag Chain รุ่น S-Type ทนต่อการกัดกร่อนและสารเคมีบางชนิด เช่น น้ำมันหล่อลื่นและสารเคมีอุตสาหกรรมทั่วไป
การจัดการสายไฟขนาดใหญ่ในงานอุตสาหกรรมหนัก
การจัดการสายไฟขนาดใหญ่ในงานอุตสาหกรรมหนักที่ต้องการความทนทานและเสถียรภาพสูง ตัวรางนี้ออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้มาก และมีโครงสร้างเหล็กชุบซิงค์หรือสเตนเลสที่มีความแข็งแรงสูง ช่วยให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องและหลากหลาย เช่น การจัดการสายไฟในโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เครื่องจักร เมื่อใช้งานกับสายไฟขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก ช่วยป้องกันการบิดงอและการเสียดสีที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสายไฟ
ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง สำหรับสายไฟขนาดใหญ่ได้รับการออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับให้เหมาะกับเส้นทางเดินสายไฟที่ซับซ้อนในพื้นที่จำกัด ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น ลดเวลาการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตั้ง
ลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวน โครงสร้างรางที่แข็งแรงและการออกแบบที่รองรับการเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นคงช่วยลดการสั่นสะเทือนและเสียงรบกวนจากการเคลื่อนที่ของสายไฟ ทำให้เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการสภาพแวดล้อมการทำงานที่เงียบและมีเสถียรภาพ
ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟ การใช้งานรางสายไฟกระดูกงูช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียหายของสายไฟขนาดใหญ่ที่อาจเกิดจากการบิดงอ เสียดสี หรือแรงดึงในระหว่างการเคลื่อนที่ โครงสร้างรางช่วยกระจายน้ำหนักและรักษาสภาพสายไฟให้เหมาะสม ส่งผลให้อายุการใช้งานของสายไฟยาวนานขึ้น ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนสายไฟบ่อยครั้ง
การรองรับน้ำหนักและความทนทานต่อการเสียดสี
การออกแบบมาให้รองรับสายไฟและท่อที่มีขนาดใหญ่และน้ำหนักมาก เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความมั่นคงในการจัดเก็บสายไฟ เช่น อุตสาหกรรมการผลิตหนัก ระบบสายไฟในโรงงานขนาดใหญ่ หรือแม้กระทั่งระบบการขนส่งไฟฟ้า ตัวโครงสร้างเหล็กมีความแข็งแรงและมีความหนาแน่นที่เพียงพอในการรองรับน้ำหนักของสายไฟจำนวนมากโดยไม่เกิดการเสียรูป เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น การขนส่งอัตโนมัติในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานต่อแรงกระแทกและการเสียดสี การออกแบบให้มีพื้นผิวเหล็กที่แข็งแรงและเรียบ ช่วยลดความเสียหายที่เกิดจากการเสียดสี ช่วยให้สายไฟและท่อสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่น ลดการสึกหรอของวัสดุภายในโซ่และยืดอายุการใช้งานของสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกขนาดช่องเข้าสายไฟในรางร้อยสายไฟกระดูกงู
การเลือกขนาดช่องเข้าสายไฟในรางร้อยสายไฟกระดูกงูเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยในการจัดการสายไฟ โดยมีปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาดังนี้:
1. ความกว้างและความสูงของสายไฟ เลือกช่องเข้าสายไฟที่มีขนาดกว้างและสูงกว่าสายไฟหรือสายไฮดรอลิคที่ต้องการติดตั้งอย่างน้อย 10% เพื่อให้สายมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเคลื่อนไหวและลดความเสี่ยงต่อการเสียดสีหรือบีบรัดที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย
2. ปริมาณสายไฟที่ต้องจัดการ ตรวจสอบจำนวนสายไฟที่ต้องวางในราง หากมีสายไฟหลายเส้น ให้เลือกขนาดช่องที่สามารถรองรับได้อย่างเหมาะสม โดยไม่ทำให้สายไฟแน่นจนเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาความร้อนสะสมและลดอายุการใช้งานของสายไฟ
3. ประเภทของสายไฟพิจารณาประเภทของสายไฟ เช่น สายไฟฟ้าแรงสูง สายไฮดรอลิค หรือสายสื่อสาร ซึ่งอาจมีขนาดและความยืดหยุ่นที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดช่องเข้าสายไฟจึงควรเหมาะสมกับคุณสมบัติของสายไฟเพื่อป้องกันความเสียหาย
4. การเคลื่อนไหวของสายไฟ หากรางเหล็กต้องรองรับการเคลื่อนไหวของสายไฟ เช่น ในเครื่องจักร CNC หรือระบบสายพาน ควรเลือกขนาดช่องเข้าสายไฟที่ช่วยให้สายเคลื่อนไหวได้อย่างลื่นไหล โดยไม่เกิดการติดขัดหรือแรงดึงเกินความจำเป็น
5. ระยะเผื่อสำหรับการอัพเกรดในอนาคตเผื่อพื้นที่ในช่องเข้าสายไฟสำหรับการเพิ่มจำนวนสายไฟในอนาคต หากมีการติดตั้งหรืออัพเกรดระบบเพิ่มเติมในภายหลัง จะช่วยลดความยุ่งยากในการเปลี่ยนรางใหม่
รางร้อยสายไฟกระดูกงู เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการจัดการสายไฟและท่อในงานอุตสาหกรรมหนัก โดยโครงสร้างของโซ่รุ่นนี้ทำจากเหล็กชุบซิงค์หรือสเตนเลสสตีลที่มีคุณภาพสูง เพื่อให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การเสียดสี ความร้อน และสารเคมี ช่วยป้องกันการกัดกร่อนและยืดอายุการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โซ่ร้อยสายไฟรุ่นนี้ยังออกแบบมาให้สามารถโค้งงอในแนวขึ้นและลงเป็นรูปทรงตัว “S” ซึ่งต่างจากมาตรฐานที่โค้งได้เพียงด้านเดียว ด้วยความแข็งแรงและความสามารถในการรองรับน้ำหนักของสายไฟและท่อขนาดใหญ่