สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
เคเบิ้ลแกลน M20 (Stainless Steel) คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง M20 ในระบบไฟฟ้า โดยมีวัสดุที่ทำจากสแตนเลส SUS304 ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ, สารเคมี, และสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือแรงสั่นสะเทือนสูง ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความชื้นสูง, พื้นที่ทะเล หรือสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนจากสารเคมี
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดสายไฟในระบบไฟฟ้า โดยมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง M20 ซึ่งเป็นขนาดมาตรฐานที่นิยมใช้ในงานต่าง ๆ เช่น งานไฟฟ้าในอุตสาหกรรมและอาคารต่าง ๆวัสดุสแตนเลส SUS304 ซึ่งมีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมี รวมทั้งสามารถทนทานต่อการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงได้ดี
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ขนาดของการยึดหรือเกลียวที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกประมาณ 20 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ใช้ในงานไฟฟ้าและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการขนาดการเชื่อมต่อที่พอดีกับสายไฟหรืออุปกรณ์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใกล้เคียงกัน การใช้ขนาด M20 มักจะพบในเคเบิ้ลแกลนที่ใช้สำหรับยึดสายไฟที่มีขนาดกลาง โดยสามารถรองรับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางที่มีขนาดใกล้เคียงกับ 20 มิลลิเมตร ในกรณีที่ใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนที่หรือสั่นสะเทือน M20 จะช่วยยึดสายไฟให้มั่นคงและลดความเสี่ยงจากการเสียหายของสายไฟที่อาจเกิดจากแรงดึงหรือการเคลื่อนที่การเลือกขนาด M20 สำหรับเคเบิ้ลแกลนทำให้สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าไปในระบบไฟฟ้าได้ เนื่องจากการเก็บสายไฟที่ถูกต้องและแน่นหนาจะช่วยเพิ่มความปลอดภัย
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือกเมี 2 ขนาดหลัก คือ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
สำหรับการใช้งานทั้ง งานภายในอาคาร และ พื้นที่กลางแจ้ง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, ท่าเรือ, หรือ อุปกรณ์ที่ต้องการการป้องกันที่แข็งแรง โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือน, ความชื้น, และสารเคมีที่อาจเกิดการกัดกร่อน ในงานภายในอาคาร ช่วยให้การติดตั้งสายไฟทำได้อย่างมั่นคง ป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำงานสำหรับ พื้นที่กลางแจ้ง เช่น ท่าเรือ หรือพื้นที่ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่มีความชื้นหรือการกัดกร่อนจากสารเคมี, จะมีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถใช้งานได้ในอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องการการป้องกันที่แข็งแรง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งในสถานที่กลางแจ้งที่มีสภาพแวดล้อมที่ไม่คงที่ด้วยการออกแบบที่ทนทาน, จึงสามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ท่าทางอุตสาหกรรมได้อย่างปลอดภัย ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ จึงเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมในการใช้ในพื้นที่ที่มีความท้าทายสูงในการปกป้องระบบไฟฟ้าจากการสัมผัสสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่และการเสียหายของสายไฟจากการสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกที่เกิดขึ้นในขณะทำงานใน อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งในสถานที่กลางแจ้ง, ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ซึ่งเหมาะกับการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือมีการสัมผัสกับสารเคมีที่กัดกร่อน
การใช้งานใน อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ต้องการป้องกันการสัมผัสกับ สารเคมีที่กัดกร่อน เช่นใน ท่าเรือ หรือ พื้นที่ที่ต้องการความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน มีความสำคัญในการรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย สารเคมีที่กัดกร่อนอาจทำลายส่วนประกอบของอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น สายไฟ, ขั้วต่อ, หรือกล่องไฟฟ้า
ในท่าเรือที่มีความเค็มจากน้ำทะเล, หรือในโรงงานที่มีสารเคมีอันตราย การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีจึงช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
วัสดุเช่น สแตนเลส SUS304 หรือ ทองเหลืองชุบนิกเกิล เป็นวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ เนื่องจากสามารถทนทานต่อสารเคมีที่มีการกัดกร่อนและช่วยป้องกันความเสียหายของระบบไฟฟ้าได้ดี
การเลือกใช้ เคเบิ้ลแกลน หรือ อุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ออกแบบมาเพื่อทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีและการกัดกร่อนจะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว
ในพื้นที่ที่ต้องการความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเล เช่น ท่าเรือ, ระบบไฟฟ้าจะต้องใช้การป้องกันที่มีความแข็งแรงและทนทาน เพื่อให้สามารถทำงานได้ในระยะยาวและลดการเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ด้วยการเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสม, อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ในพื้นที่ที่มีสารเคมีหรือความเค็มจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง
ส่วนประกอบของ Cable gland stainless 316 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และยังช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
1. Sealing Nut (ตัวน็อตซีล) หน้าที่: ทำหน้าที่ในการบีบอัดส่วนของซีลและโอริงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายใน
2. Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดจับสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น ไม่ให้หลุดออกเมื่อถูกดึงหรือสั่นสะเทือน
3. NBR Seal (ซีลยาง NBR) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีล ป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นละอองซึมผ่านเข้าไปภายในได้
4. Body (ตัวบอดี้) หน้าที่: เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ และยึดติดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
5. O-ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพิ่มเติม ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละออง
6. Lock Nut (น็อตล็อค) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ให้หลุดออก
ออกแบบมาเพื่อทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มี สารเคมีและการกัดกร่อน จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของส่วนประกอบต่างๆ ในระบบไฟฟ้า, เช่น สายไฟ, ขั้วต่อ, หรือกล่องไฟฟ้า ที่อาจถูกทำลายจากสารเคมีที่มีความเป็นกรดหรือด่าง ด้วยการเลือกวัสดุที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อน, ระบบไฟฟ้าจะสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาวโดยไม่ต้องเสียเวลาในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนแปลงส่วนประกอบที่ถูกทำลายจากสารเคมี วัสดุอย่าง สแตนเลส หรือ ทองเหลืองชุบนิกเกิล เหมาะสมในการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมีที่กัดกร่อน, ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าการใช้ เคเบิ้ลแกลน ที่ทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อนช่วยให้การติดตั้งและการบำรุงรักษาเป็นไปอย่างสะดวกและประหยัดค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบไฟฟ้าในระยะยาวการเลือกวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีสามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์ไฟฟ้า, ทำให้การใช้งานในพื้นที่อุตสาหกรรมหรือท่าเรือเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การออกแบบและเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่ท้าทายเช่นนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าและทำให้การลงทุนในอุปกรณ์ไฟฟ้ามีความคุ้มค่ามากขึ้นในระยะยาว
การติดตั้งเคเบิ้ลแกลนที่ถูกต้องช่วยให้ระบบไฟฟ้าในพื้นที่ที่ต้องการป้องกันน้ำและฝุ่น เช่น กล่องไฟฟ้ากันน้ำมีความปลอดภัยและทนทานในการใช้งาน
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป เคเบิ้ลแกลน M20 (Stainless Steel) คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟเข้ากับกล่องเชื่อมต่อหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าในระบบไฟฟ้า โดยที่มีขนาดเกลียว M20 ซึ่งหมายถึงขนาดของเกลียวที่เส้นผ่านศูนย์กลางจะเป็น 20 มิลลิเมตร ใช้สำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการการป้องกันสูง เช่น พื้นที่ที่มีความชื้น, ฝุ่น, หรือสารเคมีที่กัดกร่อน วัสดุที่ทำจาก สแตนเลส SUS304 ทำให้เคเบิ้ลแกลนรุ่นนี้มีความทนทานต่อการกัดกร่อน, ความชื้น, และการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความเค็ม เช่น ใน ท่าเรือ, โรงงานอุตสาหกรรม, หรือ พื้นที่กลางแจ้ง