สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
ท่อ Flex Stainless หรือ ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส เป็นท่อที่เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายลมร้อน เช่น ระบบระบายไอเสียในเครื่องจักรหนัก, ระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม, และการขนส่งก๊าซร้อนจากอุปกรณ์ต่างๆ ท่อชนิดนี้ผลิตจากสแตนเลสที่มีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการกัดกร่อนจากสารเคมี ซึ่งทำให้ท่อเหมาะสมในการใช้งานในระบบระบายลมร้อนที่ต้องการการยืดหยุ่นและความทนทานในสภาวะที่ท้าทาย
เรามีท่อสแตนเลส 304 และท่อเหล็กกัลวาไนซ์สตีลคุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบระบายอากาศและส่งลมในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในอุตสาหกรรมและสถานที่ที่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
ท่อเฟล็กซ์สแตนเลส 304
✅ ทนทานต่อการกัดกร่อนสูง: ผลิตจากสแตนเลส 304 ซึ่งทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น
✅ ทนทานต่ออุณหภูมิสูง: สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงและสภาวะการใช้งานที่มีความร้อนหรือแรงดันสูงได้ดี
✅ ยืดหยุ่นในการติดตั้ง: ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่น สามารถดัดโค้งงอได้ง่ายตามต้องการ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม, ห้องเครื่องจักร, และสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง
ท่อเหล็กกัลวาไนซ์สตีล
✅ ทนทานต่อการกัดกร่อน: เคลือบด้วยชั้นกัลวาไนซ์ที่ช่วยป้องกันการเกิดสนิมช้าลง
✅ แข็งแรงและทนทาน: ผลิตจากเหล็กกล้าแข็งแรง รองรับแรงดันได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานหนัก
✅ ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว: ดีไซน์ที่ยืดหยุ่นช่วยให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่ายและสะดวก
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบระบายอากาศในโรงงาน, ระบบการส่งลมในอาคารที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน
เลือกท่อ Flex สแตนเลส 304 และท่อเหล็กกัลวาไนซ์สตีลจากเรา เพื่อการระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพและยาวนาน!
คุณสมบัติที่เหมาะสมกับการใช้งานในหลายๆ สภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานและความยืดหยุ่นสูง ซึ่งคุณสมบัติหลักๆ ได้แก่:
ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
เส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) ที่สามารถเลือกใช้ได้ตั้งแต่ 1 1/4 นิ้ว ถึง 16 นิ้ว ซึ่งทำให้สามารถใช้งานในหลายขนาดระบบที่ต้องการการระบายอากาศหรือการขนส่งสารได้หลากหลาย ขนาดของท่อจะต้องเลือกให้เหมาะสมกับปริมาณการไหลของอากาศหรือสารที่ต้องการขนส่ง รวมถึงความสามารถในการรับแรงดันและการติดตั้งในพื้นที่ที่จำกัด การเลือกขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้การทำงานของระบบมีประสิทธิภาพสูงสุดและลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกขนาดที่ไม่เหมาะสมควรพิจารณาจากการใช้งานที่ต้องการ เช่น ระบบที่มีการไหลของอากาศหรือสารในปริมาณมากจะต้องใช้ท่อที่มีขนาดใหญ่ เช่น 8 นิ้ว หรือ 12 นิ้ว เพื่อรองรับการไหลของอากาศได้ดี ขณะที่ท่อขนาดเล็กกว่า เช่น 1 1/4 นิ้ว จะเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบที่มีปริมาณการไหลต่ำหรือในพื้นที่จำกัด
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.
การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.
การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
การเลือกขนาดท่อ Flex Stainless เกลียว Interlock ที่เหมาะสมยังมีผลต่อความสะดวกในการติดตั้งและการบำรุงรักษา เช่น การติดตั้งท่อขนาดใหญ่ในพื้นที่แคบอาจต้องใช้พื้นที่มากขึ้นและมีความยากในการจัดการ ขนาดท่อที่พอดีจะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงจากการอุดตันหรือปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกขนาดท่อที่ไม่เหมาะสม การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมยังช่วยให้การไหลของอากาศหรือสารในระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น ท่อที่มีขนาดใหญ่เกินไปอาจทำให้การไหลของอากาศลดลงเนื่องจากการต้านทานที่เพิ่มขึ้น ขณะที่ท่อขนาดเล็กเกินไปอาจทำให้เกิดการอุดตันหรือแรงดันสูงเกินไป ส่งผลกระทบต่อระบบโดยรวม ช่วยลดการสูญเสียพลังงานในระบบเนื่องจากการไหลของอากาศหรือสารจะไม่ถูกขัดขวางอย่างไม่จำเป็น ท่อขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมมีความสำคัญในการรับประกันการทำงานที่มีประสิทธิภาพและลดปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น การไหลของอากาศที่ไม่สม่ำเสมอหรือการอุดตัน โดยหลักการเลือกขนาดท่อสามารถพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น:
ตัวอย่างการใช้งาน:
การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการสูญเสียพลังงานและป้องกันปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกขนาดท่อผิด.
ท่อ Flex Stainless เกลียว Interlock มีคุณสมบัติ ทนทานต่อแรงดัน สูง เนื่องจากโครงสร้างเกลียว Interlock ที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับท่อ ท่อชนิดนี้สามารถรองรับแรงดันจากการขนส่งอากาศ, ก๊าซ, หรือสารต่างๆ ในระบบที่มีแรงดันสูงได้ดี โดยมีความยืดหยุ่นสูงและไม่เกิดการเสียรูปหรือฉีกขาดภายใต้สภาวะที่มีแรงดัน.
คุณสมบัติที่ทำให้ท่อทนทานต่อแรงดัน:
เหมาะสมกับการใช้งานในระบบที่ต้องการการรองรับแรงดันสูง เช่น ระบบไอเสีย, ระบบระบายอากาศในโรงงานอุตสาหกรรม, หรือการขนส่งก๊าซในท่อที่มีแรงดันสูง
การทนทานต่อแรงดัน เกลียว Interlock ยังมีข้อดีในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงแรงดันหรือแรงสั่นสะเทือน เช่น ในระบบเครื่องจักรหนักหรืออุปกรณ์ที่มีการใช้งานต่อเนื่องภายใต้แรงดันที่ไม่คงที่ ท่อเหล่านี้สามารถปรับตัวได้ดีและยังคงความเสถียร
การโค้งดัดตัวของคุณสมบัติที่ทำให้ท่อสามารถโค้งได้อย่างดี แต่ก็มีข้อจำกัดตามขนาดของท่อและการใช้งาน โดยท่อ flex สแตนเลส 304 มีความยืดหยุ่นและสามารถทนทานต่อแรงดัดได้ดีในขนาดเล็กถึงขนาดกลาง.
คุณสมบัติการโค้งดัดตัว:
การจัดการความร้อนและสเกล็ดไฟในระบบท่อ flex stainless (ระบายลมร้อน) (หรือท่อเฟล็กซ์สแตนเลส) ต้องใช้โซลูชันที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความร้อนที่สูงและลดความเสี่ยงจากการลุกลามของไฟในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือเสี่ยงต่อการเกิดเพลิงไหม้ โซลูชันที่เหมาะสมสามารถทำได้โดยการใช้วัสดุและการออกแบบที่ตอบโจทย์ในเรื่องการทนทานต่อความร้อนและความปลอดภัยในการใช้งาน มีความทนทานต่อความร้อนสูงถึง 450 องศาเซลเซียส และทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี ทำให้เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการจัดการความร้อนในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง
กำหนดเส้นทางการติดตั้ง ควรกำหนดเส้นทางการติดตั้งท่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่จำกัดหรือสามารถติดตั้งท่อในทิศทางที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงการไหลของอากาศและการลดทอนของแรงดัน
ดัดโค้งท่อ ขนาดของท่อมีผลต่อความสามารถในการดัดโค้ง:
การคำนึงถึงการไหลของอากาศ เมื่อดัดท่อ ควรให้แน่ใจว่าทิศทางการไหลของอากาศไม่ถูกขัดขวางโดยการดัดโค้งมากเกินไป เพราะการดัดโค้งที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดการสูญเสียแรงดันหรือความไม่เสถียรในการไหลของอากาศ
การติดตั้งท่อในตำแหน่งที่ต้องการ หลังจากดัดโค้งท่อแล้ว ควรติดตั้งท่อในตำแหน่งที่เหมาะสมและยึดติดให้มั่นคง ด้วยการใช้ข้อต่อหรือเครื่องมือเสริม เช่น คลิปล็อกท่อหรือแคลมป์ เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่ของท่อระหว่างการใช้งาน
ทดสอบระบบ เมื่อการติดตั้งเสร็จสิ้น ควรทดสอบการไหลของอากาศในระบบเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการรั่วซึมหรือการสูญเสียแรงดันที่เกิดจากการดัดโค้งท่อ
ท่อดูดควันแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)
อธิบายสรุป ท่อ Flex Stainless (สำหรับระบายลมร้อน) ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายลมร้อนในโรงงานหรือเครื่องจักรที่มีการปล่อยความร้อน. ท่อมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ, ช่วยให้ติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้สะดวก. ด้วยโครงสร้างเกลียว Interlock ท่อจึงมีความแข็งแรงทนทานต่อแรงดันและความร้อน. ท่อเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงหรือมีสารเคมีที่กัดกร่อน. การใช้งานในระบบไอเสียหรือการระบายอากาศร้อนจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟไหม้หรือการเสื่อมสภาพของวัสดุ