ตู้เก็บของสแตนเลส
อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบตั้งพื้น
ตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้น เป็นตู้ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยเฉพาะในระบบ Control Panel และ MDB (Main Distribution Board) ซึ่งมักใช้ในการจัดการกระแสไฟฟ้าหรือควบคุมการทำงานของระบบไฟฟ้าในโรงงาน, อาคารพาณิชย์, หรืออุตสาหกรรมต่างๆ. ตู้สแตนเลสนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการ ความทนทานสูง และ การป้องกันจากการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสภาพอากาศที่รุนแรง เช่น พื้นที่ชายฝั่งหรือในโรงงานที่มีการใช้สารเคมี. นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการ ป้องกันฝุ่นและน้ำ
"ตู้เก็บของสแตนเลส | อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบตั้งพื้น"
การจำหน่ายและการใช้งานตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้น
จำหน่ายที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตตู้สแตนเลสตามขนาดและความต้องการเฉพาะของลูกค้า. ลูกค้าสามารถเลือกขนาดที่ต้องการหรือกำหนดขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่เฉพาะได้. การใช้งานเหมาะสำหรับการเก็บและจัดการอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือการกระจายพลังงานในโรงงาน, อาคารพาณิชย์, หรือสถานีไฟฟ้ามีความทนทานสูงและสามารถป้องกันน้ำ, ฝุ่น, และการกัดกร่อนได้ดีเยี่ยม. ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานในสภาพแวดล้อมที่หลาก
การทำฐานของตู้สแตนเลสสำหรับตู้แบบตั้งพื้น
การทำฐานของตู้สแตนเลส เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความเสถียรและการรองรับน้ำหนักของตู้ โดยเฉพาะในกรณีที่ตู้มีขนาดใหญ่หรือมีอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือที่หนัก การทำฐานตู้มีรายละเอียดดังนี้:
วัสดุ: ฐานของตู้มักทำจาก สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316L ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและความแข็งแรงสูง สามารถรับน้ำหนักและทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีได้ดี.
ออกแบบฐาน: ฐานของตู้สแตนเลสมักออกแบบให้มีขนาดพอดีกับพื้นที่ที่ตู้จะตั้งอยู่ โดยการคำนึงถึง ความสูง และ ความเสถียร เพื่อป้องกันการล้มของตู้ในกรณีที่ต้องรับน้ำหนักมากหรือถูกกระทบจากแรงภายนอก.
ตู้ขนาดใหญ่ที่มีฐานรอง:
- การรองรับน้ำหนัก: ฐานรองทำหน้าที่ช่วยรองรับน้ำหนักของตู้และอุปกรณ์ภายในได้ดี, เหมาะสำหรับการใช้งานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบควบคุมขนาดใหญ่ที่มีน้ำหนักมาก.
- เสถียรภาพและความปลอดภัย: การติดตั้งฐานรองช่วยเพิ่มความมั่นคงในการใช้งาน, ป้องกันไม่ให้ตู้ล้มในกรณีที่เกิดแรงกระแทกหรือสภาวะที่ไม่คาดคิด.
- ปรับแต่งได้: ฐานรองสามารถปรับขนาดและการติดตั้งให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งานได้, ทำให้สามารถเลือกใช้งานในพื้นที่ที่มีข้อจำกัดด้านการติดตั้งหรือความต้องการเฉพาะได้.
คุณสมบัติของสแตนเลส 304 และ 316L ในตู้ Main Distribution Board (MDB)
สแตนเลส 304:
- ความทนทานต่อการกัดกร่อน: สแตนเลส 304 มีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากน้ำและสารเคมีหลายประเภท, เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นปานกลางหรือในอุตสาหกรรมที่ไม่มีกลุ่มสารเคมีที่มีความกัดกร่อนรุนแรง.
- คุณสมบัติทางกล: มีความแข็งแรงสูงและความยืดหยุ่นดี ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างยาวนานในหลายสถานการณ์.
- การทำความสะอาดง่าย: พื้นผิวเรียบและไม่ซึมสาร, ทำให้การดูแลรักษาง่าย.
สแตนเลส 316L:
- ความทนทานสูงต่อการกัดกร่อน: เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือเกลือ เช่น ใน อุตสาหกรรมอาหาร หรือ ทางทะเล เพราะมีส่วนผสมของโมลิบดีนัม (Molybdenum) ซึ่งช่วยเพิ่มความต้านทานต่อการกัดกร่อน.
- ทนทานต่อการเกิดสนิม: ความทนทานต่อการเกิดสนิมสูงกว่าสแตนเลส 304, จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความเค็มสูงหรือสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับน้ำเค็ม.
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้นยังสามารถปรับแต่งฟังก์ชันเสริมต่างๆ
สามารถปรับแต่งฟังก์ชันเสริมต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้า เช่น การเจาะรูเลเซอร์สำหรับเดินสายไฟ, การติดตั้งช่องระบายอากาศ, และการเลือกประตูที่เหมาะสมกับการตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน. การเลือกฟังก์ชันเสริมเหล่านี้จะช่วยให้การใช้งานสะดวกขึ้นและตอบโจทย์ความต้องการที่เฉพาะเจาะจง. การติดตั้งตู้ควรทำในพื้นที่ที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าได้สะดวก. ผู้จำหน่ายยังให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการออกแบบและการเลือกฟังก์ชันเสริมเพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่ต้องการ
การวัดขนาดของตู้เก็บของสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
การใช้งานตู้เก็บของสแตนเลสทนการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
การใช้งานตู้ไฟแบบตั้งพื้นยังเหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, สถานีไฟฟ้า, หรือพื้นที่ริมทะเลที่มีการสัมผัสกับสภาพอากาศที่รุนแรง มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในจะได้รับการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ. นอกจากนี้ยังมีการปรับแต่งที่รองรับมาตรฐาน IP เพื่อการกันฝุ่นและน้ำ, จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยและทนทานสูง
ตารางคุณสมบัติตู้เก็บของสแตนเลสและแบบติดผลัง
การสั่งซื้อและใช้งานตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้น
การเลือกวัสดุตู้คอนโทรลไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การใช้งานตู้สแตนเลสตั้งพื้นและแบบติดผนัง
ตู้สแตนเลสแบบตั้งพื้น: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือระบบควบคุมหลายตัวที่ต้องการพื้นที่ภายในมาก เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือ สถานีไฟฟ้า การตั้งตู้บนพื้นช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หลายขนาดและง่ายต่อการเข้าถึง. ตู้แบบนี้มักมีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น, และสามารถออกแบบให้รองรับฟังก์ชันเสริม เช่น ช่องระบายอากาศ หรือ การเจาะรูสำหรับเดินสายไฟ ได้ตามความต้องการ.
ตู้สแตนเลสแบบติดผนัง: เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดหรือพื้นที่ที่ไม่ต้องการใช้พื้นที่พื้นมาก เช่น ห้องควบคุมไฟฟ้า หรือ สำนักงาน. การติดตั้งตู้บนผนังช่วยประหยัดพื้นที่และทำให้สามารถจัดการกับการเดินสายไฟและอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างมีระเบียบ. ตู้ประเภทนี้เหมาะกับการติดตั้งอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือระบบควบคุมที่ไม่ต้องการพื้นที่มาก. นอกจากนี้ยังสามารถออกแบบให้ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรืออุณหภูมิสูงได้.
การเลือกใช้งานตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้นและแบบติดผนังยังขึ้นอยู่กับลักษณะของการติดตั้งและการบำรุงรักษา:
ตู้สแตนเลสแบบตั้งพื้น: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก หรือในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและความชื้นสูง เช่น ใน โรงงานผลิต หรือ สถานีควบคุมไฟฟ้า ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมหลายตัว. เนื่องจากมีพื้นที่ภายในมาก จึงสามารถรองรับอุปกรณ์ต่างๆ ได้หลากหลายและจัดการได้ง่ายขึ้น. การตั้งอยู่บนพื้นยังช่วยให้การบำรุงรักษาและการตรวจสอบอุปกรณ์สะดวกยิ่งขึ้น.
ตู้สแตนเลสแบบติดผนัง: เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือพื้นที่ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ เช่น ห้องควบคุม หรือ พื้นที่ภายในอาคาร ที่ไม่ต้องการพื้นที่พื้นมาก. การติดตั้งแบบนี้จะช่วยให้การเดินสายไฟและการจัดการกับอุปกรณ์ต่างๆ เป็นระเบียบและสามารถจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีระเบียบ. นอกจากนี้ยังช่วยให้การบำรุงรักษาทำได้ง่าย โดยไม่ต้องเคลื่อนย้ายตู้, และสามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มีการจำกัดการเคลื่อนที่หรือการเข้าถึงได้.
ตารางคุณสมบัติตู้เก็บของสแตนเลสและแบบติดผลัง
คุณสมบัติ | ตู้สแตนเลสแบบตั้งพื้น | ตู้สแตนเลสแบบติดผนัง |
---|---|---|
ลักษณะการติดตั้ง | วางบนพื้น | ติดตั้งบนผนัง |
พื้นที่การใช้งาน | ใช้ในพื้นที่กว้างหรือพื้นที่ที่มีอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายตัว | ใช้ในพื้นที่จำกัดหรือที่ต้องการประหยัดพื้นที่ |
การบำรุงรักษา | เข้าถึงอุปกรณ์ได้สะดวก, มีพื้นที่สำหรับการบำรุงรักษา | บำรุงรักษาง่ายแต่ต้องการการเข้าถึงที่สะดวกจากด้านบน |
การจัดเก็บอุปกรณ์ | รองรับอุปกรณ์หลายขนาด, สามารถจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ได้ | เหมาะสำหรับอุปกรณ์ขนาดเล็กหรือระบบควบคุมที่ไม่ต้องการพื้นที่มาก |
ความทนทานและการป้องกัน | ทนทานต่อการกัดกร่อนและสามารถรองรับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง | ทนทานเช่นเดียวกัน, แต่เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารหรือพื้นที่จำกัด |
การสั่งซื้อและใช้งานตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้น
ามารถออกแบบให้รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้ง Main Distribution Board (MDB) หรือ Control Panel ภายในตู้. การปรับขนาดและฟังก์ชันต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะ ช่วยให้การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างสะดวกและปลอดภัย. นอกจากนี้ยังสามารถเลือกการจัดเรียงภายในตู้ได้อย่างมีระเบียบ เพื่อให้การบำรุงรักษาหรือการตรวจสอบอุปกรณ์ทำได้ง่ายและรวดเร็ว. สำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ตู้สแตนเลสนี้จะช่วยให้การควบคุมและกระจายพลังงานไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การเลือกใช้ฟังก์ชันเสริม เช่น ช่องระบายอากาศ หรือ ประตูที่สามารถเปิด-ปิดได้ง่าย จะช่วยให้การใช้งานและบำรุงรักษาตู้สะดวกยิ่งขึ้น.
นอกจากนี้ยังควรพิจารณาการติดตั้งในพื้นที่ที่สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี เช่น บริเวณที่มีการระบายอากาศที่เหมาะสมหรือไม่อยู่ในพื้นที่ที่อาจมีการกัดกร่อนจากสารเคมี. สำหรับการติดตั้งในพื้นที่กลางแจ้ง, การเลือกมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น
ตู้เก็บของสแตนเลสแบบตั้งพื้นที่ผลิตตามความต้องการเฉพาะ
าะ เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับ อุตสาหกรรมต่างๆ เนื่องจากสามารถออกแบบให้เหมาะสมกับการใช้งานเฉพาะของแต่ละประเภทอุตสาหกรรมได้. การปรับขนาดและฟังก์ชันต่างๆ ของตู้ให้ตรงกับความต้องการช่วยให้สามารถเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตตามสั่งยังมีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนและสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP ที่ต้องการ, จึงสามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการกัดกร่อนได้ดี. การเลือกฟังก์ชันเสริม เช่น ช่องระบายอากาศ หรือการเจาะรูสำหรับเดินสายไฟ จะช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาทำได้สะดวกและรวดเร็ว. ด้วยความยืดหยุ่นในการออกแบบและการผลิตตามขนาดที่ต้องการ
การเลือกวัสดุตู้คอนโทรลไฟฟ้าให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การเลือกวัสดุตู้ควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมที่ใช้งาน เช่น ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือสารเคมี ควรเลือก ตู้ไฟเบอร์กลาส ที่ทนต่อสารเคมีและความชื้นได้ดี ส่วนในพื้นที่ที่มีการกระแทกหรือความร้อนสูง ควรเลือก ตู้ไฟฟ้า ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและความร้อนได้ดี การเลือกวัสดุที่ถูกต้องช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันการเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรมหนักหรือพื้นที่กลางแจ้ง ควรเลือกตู้ที่มีมาตรฐาน IP สูง เช่น IP65 หรือ IP66 เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ
หากใช้งานในสถานที่ที่มีการสัมผัสกับสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานเคมี ควรเลือก ตู้ไฟเบอร์กลาส ที่มีความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อน โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการเป็นสนิม ในขณะที่หากใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความแข็งแรงและทนทาน เช่น พื้นที่กลางแจ้งหรือโรงงานที่มีการกระแทก
ควรเลือกตู้ที่ทนทานต่อการกระแทกและสามารถป้องกันการเกิดสนิมได้ดี การเลือกวัสดุที่เหมาะสมยังช่วยลดต้นทุนการบำรุงรักษา
สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิผันผวน เช่น โรงงานที่มีการใช้งานเครื่องจักรหนักหรือในสภาพอากาศร้อนจัด ควรเลือกสแตนเลส ที่สามารถทนทานต่ออุณหภูมิสูงและช่วยกระจายความร้อนได้ดี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ภายในตู้ ในทางกลับกัน, หากการใช้งานอยู่ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากการสัมผัสน้ำหรือความชื้น เช่น ใกล้แหล่งน้ำหรือในอุตสาหกรรมอาหาร ตู้ไฟเบอร์กลาส ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อความชื้นและไม่เกิดการกัดกร่อนจึงเหมาะสมมากกว่า. การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน.
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป ตู้เก็บของสแตนเลสเป็นตู้ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในพื้นที่กว้างหรือสถานที่ที่ต้องการการจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายประเภท โดยสามารถรองรับอุปกรณ์ขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ. ตู้สแตนเลสแบบตั้งพื้นเหมาะสำหรับการใช้งานใน โรงงานอุตสาหกรรม, สถานีไฟฟ้า, หรือ ศูนย์ควบคุมต่างๆ ที่มีความต้องการความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น การติดตั้งบนพื้นช่วยให้สามารถเข้าถึงอุปกรณ์ภายในได้สะดวก ทำให้การบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ทำได้ง่าย