ตู้สแตนเลสราคากันน้ำ
ประตูเดี่ยว IP55-IP66
ตู้สแตนเลสกันน้ำ คือตู้ไฟฟ้ามีโครงสร้างแข็งแรง ผลิตจากสแตนเลส 304/316L ซึ่งมาราคาต่างกันที่เกรดของสแตนเลส มีความทนต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม ฝาปิดซีลยางช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองตามมาตรฐาน IP ป้องกันและจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในจากความชื้นและสิ่งสกปรก ใช้ได้ทั้งงานติดตั้งภายนอกและภายในอาคาร รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีละอองน้ำ เช่น โรงงานผลิตอาหาร โรงงานเคมี หรือสถานที่กลางแจ้ง สามารถใชเป็นตู้เก็บของอเนกประสงค์
"ตู้สแตนเลสราคากันน้ำ ประตูเดี่ยว IP55-IP66"
ตู้สแตนเลสราคาประตูเดี่ยว IP55-IP66
จำหน่ายตู้สแตนเลส ตู้คอนโทรลออกแบบเพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าสู่ภายในตัวตู้ โครงสร้างแข็งแรง ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ ทนต่อการกัดกร่อนและสนิม เหมาะสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและระบบควบคุมต่างๆ ใช้งานได้ทั้งในอุตสาหกรรม โรงงาน และกลางแจ้ง มีให้เลือกหลายขนาดตามความต้องการของผู้ใช้ พร้อมซีลยางกันน้ำช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าจากความชื้นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงสร้างแข็งแรงผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ทนต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับงานภายนอกและภายใน ซีลยางรอบประตูช่วยป้องกันน้ำรั่วซึม ระบบล็อกแน่นหนาเพื่อความปลอดภัย รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าและเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม สะดวกต่อการบำรุงรักษาและตรวจสอบอุปกรณ์ภายใน ติดต่อเราได้เลยค่ะ!
ตู้สแตนเลสราคาของตู้ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
ขนาดของตู้ มาตรฐานการกันน้ำ (IP Rating) และประเภทของฝาตู้ เช่น ฝาชั้นเดียวหรือฝาสองชั้น ตู้ที่มีวัสดุและเกรดของสแตนเลสที่ทนทาน เช่น 304 หรือ 316 ก็จะมีราคาสูงกว่า นอกจากนี้ ฟังก์ชันเสริม เช่น ระบบล็อกหรือการระบายอากาศ ก็ส่งผลต่อราคาด้วย การสั่งซื้อจำนวนมากยังสามารถทำให้ได้ราคาที่ถูกลง ส่วนการเลือกตู้ที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะการใช้งานเพื่อความคุ้มค่าที่สุด
ราคาตู้สแตนเลสยังขึ้นอยู่กับการปรับแต่งตามความต้องการ เช่น การเปลี่ยนกุญแจ หรือการเจาะรูสำหรับสายไฟและท่อทางเข้า-ออก ซึ่งอาจส่งผลให้ราคาสูงขึ้น สำหรับงานที่ต้องการความทนทานสูง เช่น การใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง หรือในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี ควรเลือกตู้ที่ทำจากวัสดุเกรดสูงและมีมาตรฐานการกันน้ำที่ดี เช่น IP66 ส่วนการติดตั้งอุปกรณ์เสริม เช่น พัดลมหรือแผ่นระบายอากาศก็สามารถเพิ่มมูลค่าได้เช่นกัน เมื่อเปรียบเทียบกับตู้ที่ไม่มีฟังก์ชันเหล่านี้
Features of IP55-IP66 Waterproof
- วัสดุคุณภาพสูง – ผลิตจากสแตนเลส 304 หรือ 316L ทนต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม
- มาตรฐานกันน้ำและฝุ่น IP55-IP66 – ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี เหมาะสำหรับใช้งานทั้งในอาคารและกลางแจ้ง
- โครงสร้างแข็งแรง – ดีไซน์แบบประตูเดี่ยว เปิด-ปิดสะดวก พร้อมซีลยางกันน้ำรอบบานประตู
- รองรับการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า – มีเพลทยึดอุปกรณ์ภายใน ติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าได้ง่าย
- ระบายอากาศได้ดี – รองรับการติดตั้งพัดลมระบายอากาศหรือช่องระบายความร้อนเพิ่มเติม
- เหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรม – ใช้งานได้หลากหลาย เช่น ระบบไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม และสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
- ติดตั้งได้หลายรูปแบบ – รองรับการติดตั้งแบบแขวนผนังหรือแบบตั้งพื้นตามความต้องกา
- รองรับการเจาะและปรับแต่ง – สามารถเจาะเพิ่มช่องเดินสายหรืออุปกรณ์เสริมได้ตามต้องการร
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
การเลือกตู้สแตนเลสราคากันน้ำช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน
คุณสมบัติพิเศษจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน เช่น การเลือกตู้ที่สามารถทนทานต่อสภาพอากาศร้อนหรือเย็นจัดได้ดี หรือการที่สามารถกันน้ำและฝุ่นได้ในระดับ IP66 จะทำให้ตู้เหมาะสำหรับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรมและสถานที่กลางแจ้งที่มีความเสี่ยงจากน้ำฝนหรือการสะสมของฝุ่นได้มากขึ้น นอกจากนี้การเลือกตู้ที่มีระบบระบายอากาศหรือช่องระบายความร้อนภายในยังช่วยป้องกันความร้อนที่เกิดขึ้นจากการทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าในตู้ให้คงที่และปลอดภัย ต้องคำนึงถึงขนาดและการออกแบบที่เหมาะสมกับลักษณะการใช้งาน เช่น ขนาดของตู้ที่จะต้องรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการใส่เข้าไป รวมถึงความสะดวกในการติดตั้งและบำรุงรักษา ตู้ที่มีฝาปิดแน่นหนาและซีลยางที่มีคุณภาพจะช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้าไปภายในตู้ไฟฟ้า
การวัดขนาดของตู้ไฟฟสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
ความทนทานสูงกว่าของตู้สแตนเลสราคากันน้ำ
การเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตก็มีผลต่อราคาด้วย ตู้ที่ทำจากสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 จะมีความทนทานสูงกว่าสแตนเลสเกรดอื่น ๆ และเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือการกัดกร่อนสูง การเลือกประเภทของประตู เช่น ประตูเดี่ยวหรือประตูสองชั้น รวมถึงการเลือกใช้ฝาแบบกระจกหรืออะคริลิก จะขึ้นอยู่กับความต้องการในการมองเห็นอุปกรณ์ภายในและการป้องกันจากฝุ่นหรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่อาจเข้าไปในตู้ได้
ตารางเปรียบเทียบตู้ไฟฟ้าสแตนเลสแบบวางกับพื้นกับแขวนผนัง
ขนาดของตู้สแตนเลสกันน้ำยังส่งผลต่อราคา
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
วิธีการติดตั้งและใช้งานตู้สแตนเลสสำหรับระบบควบคุมไฟฟ้า
การติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้าควรคำนึงถึงหลายปัจจัยเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ดังนี้:
- การเลือกขนาดและประเภทตู้: เลือกขนาดเหมาะสมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่จะติดตั้ง เช่น สวิตช์, รีเลย์ หรือคอนแทคเตอร์ โดยต้องมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการเดินสายไฟและการระบายความร้อน.
- การติดตั้งบนฐานที่มั่นคง: วางตู้ไฟสแตนเลสบนพื้นผิวที่มั่นคง เช่น พื้นคอนกรีต หรือโครงเหล็ก เพื่อป้องกันการโยกคลอน และให้การระบายความร้อนมีประสิทธิภาพ.
- การติดตั้งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า: ทำการเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตามแผนผังวงจร โดยใช้สายไฟที่มีความสามารถทนทานตามมาตรฐานและหลีกเลี่ยงการบิดหรือยืดสายไฟ.
- การตรวจสอบการป้องกันน้ำและฝุ่น: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเกลียวของฝาและซีลยางกันน้ำทำงานอย่างถูกต้อง เพื่อป้องกันน้ำหรือฝุ่นเข้าไปในตู้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ภายใน.
- การทดสอบการทำงาน: หลังจากติดตั้งเสร็จ ควรทดสอบการทำงานของระบบควบคุมไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่าทุกอย่างทำงานได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย.
- การบำรุงรักษาตู้: ตรวจสอบตู้และอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบไฟฟ้ายังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการทำความสะอาดและตรวจสอบการสึกหรอของสายไฟและอุปกรณ์.
การติดตั้งและใช้งานตู้ไฟสแตนเลสสำหรับระบบควบคุมไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ต้องการความแม่นยำและความปลอดภัย ซึ่งจะช่วยให้การควบคุมไฟฟ้าในโรงงานหรือสถานที่อุตสาหกรรมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
ตารางเปรียบเทียบตู้ไฟฟ้าสแตนเลสแบบวางกับพื้นกับแขวนผนัง
ขนาดตู้ (กว้าง x ลึก x สูง) | IP Rating | ประตู | ราคา (บาท) |
---|---|---|---|
300 x 250 x 150 mm | IP55 | ฝาชั้นเดียว | 5,500 – 8,00บาท |
400 x 350 x 200 mm | IP55 | ฝาชั้นเดียว | 9,500 – 12,000 บาท |
500 x 400 x 250 mm | IP66 | ฝา 2 ชั้น (ทึบ) | 11,000 – 1 3,000 บาท |
600 x 500 x 300 mm | IP66 | ฝา 2 ชั้น (กระจก) | 12,500 – 15,000บาท |
800 x 600 x 400 mm | IP66 | ฝาชั้นเดียว | 16,000 บาท ขึ้นไป |
1000 x 800 x 500 mm | IP66 | ฝา 2 ชั้น (ทึบ) | 18,000 บาท ขึ้นไป |
ขนาดของตู้สแตนเลสกันน้ำยังส่งผลต่อราคา
การเลือกขนาดของตู้ไฟสแตนเลสยังส่งผลต่อราคาอีกด้วย โดยตู้ที่มีขนาดใหญ่หรือมีความจุมากขึ้นจะมีราคาสูงกว่าตู้ขนาดเล็ก เนื่องจากต้องใช้วัสดุและกระบวนการผลิตมากขึ้น รวมทั้งการออกแบบที่ซับซ้อนกว่าปกติ เช่น การเสริมหลังคาหรือการเพิ่มช่องระบายอากาศเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ความซับซ้อนในระบบการติดตั้ง เช่น การติดตั้งระบบล็อค หรือการเสริมอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ราคาของตู้สูงขึ้นเช่นกัน
- ขนาดเล็ก (300x300x200 mm.) – ใช้สำหรับงานไฟฟ้าทั่วไป
- ขนาดกลาง (600x600x250 mm.) – ใช้ในงานควบคุมระบบไฟฟ้า
- ขนาดใหญ่ (1000x800x300 mm. หรือใหญ่กว่า) – ใช้ในงานอุตสาหกรรมและการควบคุมระบบไฟฟ้าขนาดใหญ่ ราคาสูงกว่าขนาดเล็ก
การกำหนด ตู้สแตนเลสราคานั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับวัสดุ โครงสร้าง มาตรฐานการกันน้ำ และฟังก์ชันเพิ่มเติมที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพการใช้งาน
ตู้สแตนเลสราคาอาจแตกต่างกันไปตามความต้องการของลูกค้า
สำหรับระบบควบคุมไฟฟ้าจะสามารถแตกต่างกันได้ตามความต้องการเฉพาะของลูกค้า ซึ่งรวมถึง:ขนาดและการออกแบบ: ตู้ที่มีขนาดใหญ่หรือออกแบบพิเศษตามคำขออาจมีราคาสูงกว่าตู้ที่มีขนาดมาตรฐานประเภทของประตู: ตู้ที่มีประตู 2 ชั้นหรือประตูแบบกระจกจะมีราคาสูงกว่าตู้ที่มีประตูชั้นเดียววัสดุพิเศษหรือคุณสมบัติพิเศษ: หากลูกค้าต้องการวัสดุที่มีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น ความทนทานต่อสารเคมี, ระบบระบายอากาศ, หรือการออกแบบเพื่อการป้องกันไฟฟ้า (EMI/RFI shielding) จำนวนและการสั่งซื้อพิเศษ: การสั่งซื้อตู้จำนวนมากหรือการสั่งผลิตตามคำขอสามารถทำให้ราคามีการปรับเปลี่ยนได้
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
การสั่งผลิตตู้กันน้ำสแตนเลส ตามขนาดและอุปกรณ์เสริม เป็นกระบวนการที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละลูกค้า โดยสามารถปรับรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ขนาดของตู้, วัสดุที่ใช้, และฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ต้องการ ดังนี้:
การเลือกขนาดของตู้:ลูกค้าสามารถระบุขนาดที่ต้องการสำหรับตู้ เช่น ความสูง, ความกว้าง, และความลึก เพื่อให้ตรงกับพื้นที่และการใช้งานขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายในอนาคต
วัสดุที่ใช้ในการผลิต:สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมตามความต้องการของสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลส สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการทนทานต่อการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็กเคลือบสี หรือ อลูมิเนียม ก็สามารถใช้ได้ตามความเหมาะสม
อุปกรณ์เสริม:
- ระบบระบายอากาศ: สามารถเพิ่มช่องระบายอากาศ(ตีบานเกล็ด)หรือติดตั้งพัดลมระบายความร้อนในตู้เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
- การออกแบบหลังคาเชื่อมและหลังคาสโลป สามารถทำได้ตามความต้องการของการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการใช้งาน ซึ่งทั้งสองประเภทมีลักษณะการออกแบบที่แตกต่างกัน
เจะารเจาะรูเข้าสายไฟการเจาะรูในตู้ไฟฟ้าช่วยให้สามารถเชื่อมต่อสายไฟจากภายนอกเข้าไปภายในตู้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป ตู้สแตนเลสราคากันน้ำ ประตูเดี่ยว IP55-IP66 เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าจากน้ำและฝุ่นในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยมีมาตรฐานการป้องกันที่แตกต่างกันระหว่าง IP55 และ IP66 โดย IP55 สามารถป้องกันฝุ่นได้บางระดับและน้ำที่มีแรงดันต่ำ ส่วน IP66 สามารถทนทานต่อการพรมฝนหรือแม้กระทั่งการจุ่มน้ำชั่วคราวได้ การใช้งานหลักๆ มักจะพบในอุตสาหกรรมที่ต้องการตู้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศและความชื้นสูง เช่น งานกลางแจ้ง, โรงงานอุตสาหกรรม, หรือการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าภายนอกที่ต้องการความคงทน