ตู้สแตนเลส กันน้ำ
ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น
ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นตู้ตู้สแตนเลสถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากน้ำ, ความชื้น, ฝุ่น และสิ่งสกปรก โครงสร้างทำจาก สแตนเลส 304 หรือ 316L ซึ่งทนต่อการกัดกร่อนและเหมาะสำหรับใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง ตู้ไฟสแตนเลสแบบ 2-4 ชั้นช่วยเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บ ทำให้สามารถแยกประเภทของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างเป็นระเบียบ มีซีลป้องกันน้ำช่วยป้องกันการรั่วซึมและลดความเสี่ยงจากความเสียหายที่เกิดจากความชื้น
"ตู้สแตนเลส กันน้ำ ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น"
หมวดหมู่สินค้า
ตู้สแตนเลสกันน้ำรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย
ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าถูกออกแบบให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, พื้นที่กลางแจ้ง, หรือบริเวณที่มีความชื้นสูง การใช้ ซีลยางกันน้ำ (Gasket Seal) ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าไปภายในตู้ ทำให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะปลอดภัยจากความเสียหาย นอกจากนี้ตู้ยังสามารถเลือกติดตั้ง บานพับและล็อกสแตนเลส เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและป้องกันการเปิด สนใจสั่งซื้อหรือต้องการคำปรึกษาเกี่ยวกับการเลือกตู้เก็บของสแตนเลสตั้งพื้น ติดต่อเราได้เลยค่ะ!
ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น ชั้นวางภายในรองรับน้ำหนักได้ดี
ตู้สแตนเลสกันน้ำ ชั้นวางภายใน 2-4 ชั้น ออกแบบมาให้รองรับน้ำหนักได้ดี สามารถปรับระดับชั้นวางได้ตามความต้องการ ช่วยให้การจัดเก็บอุปกรณ์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสะดวกต่อการใช้งาน ตู้ยังสามารถเพิ่ม ช่องเดินสายไฟและระบบจัดการสายไฟ (Cable Management System) เพื่อช่วยให้การเชื่อมต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าเป็นระเบียบมากขึ้น
ด้วยโครงสร้างสแตนเลสที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และระบบป้องกันน้ำที่มีประสิทธิภาพ ตู้เก็บของสแตนเลสไฟฟ้า 2-4 ชั้นแบบกันน้ำ จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการใช้งานในงานอุตสาหกรรม, ระบบไฟฟ้าโรงงาน, และพื้นที่ที่ต้องการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้
Features of IP55-IP66 Waterproof
- วัสดุทนทาน: ผลิตจากสแตนเลส 304 ซึ่งป้องกันสนิมและการกัดกร่อนได้ดี
- การป้องกันสูง: สามารถออกแบบให้มีมาตรฐาน IP55, IP65 หรือสูงกว่า เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำ
- การติดตั้งที่ยืดหยุ่น: รองรับการติดตั้งแบบแขวนผนังหรือตั้งพื้น พร้อมช่องระบายอากาศเพื่อลดความร้อนสะสม
- ใช้งานง่าย: มีบานพับ กุญแจล็อก พร้อมระบบล็อกเพื่อความปลอดภัย
- รองรับอุปกรณ์ไฟฟ้า: ภายในสามารถติดตั้งเบรกเกอร์, บัสบาร์, รีเลย์ และอุปกรณ์ควบคุมอื่นๆ ตามความต้องการของระบบไฟฟ้า
เหมาะสำหรับระบบไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานสูง ช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
การช่วยลดการสะสมของสิ่งสกปกของตู้สแตนเลส
นอกจากความแข็งแรงและคุณสมบัติกันน้ำแล้ว พื้นผิวสแตนเลสยังช่วยลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก ทำให้ทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น โรงงานอาหาร, อุตสาหกรรมยา, และโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน ตู้เก็บของสแตนเลสกันน้ำ 2-4 ชั้น จึงเหมาะสำหรับงานอุตสาหกรรมทุกประเภท ที่ต้องการ ความปลอดภัยสูง, ความทนทานต่อการกัดกร่อน, และความสามารถในการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าในสภาพแวดล้อม มาตรฐานความปลอดภัย ตู้ไฟสแตนเลสกันน้ำมักผลิตตามมาตรฐาน IEC, NEMA หรือ IP Rating ซึ่งช่วยรับรองการป้องกันฝุ่นและน้ำในระดับต่างๆ เช่น IP55 สำหรับการป้องกันน้ำแรงดันสูง หรือ IP66 สำหรับการป้องกันน้ำ
การวัดขนาดของตู้ไฟฟสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
โครงสร้างตู้สามารถออกแบบให้มีฐานยึดกับพื้น
โครงสร้างตู้สามารถออกแบบให้มี ฐานยึดกับพื้น เพื่อเพิ่มความมั่นคง หรือสามารถติดล้อเลื่อนเพื่อสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย ตู้ยังสามารถเพิ่ม ฉนวนกันไฟฟ้า (Insulation Coating) ภายใน เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ารั่วและเพิ่มความปลอดภัยให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้ง สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการ ความสะอาดสูง เช่น ห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) หรืออุตสาหกรรมอาหาร ตู้สามารถออกแบบให้มี พื้นผิวเรียบ ไม่มีรอยต่อ หรือมุมที่สะสมสิ่งสกปรก และเลือกใช้วัสดุ Food Grade Stainless Steel เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งาน
ตารางการใช้งานตู้แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์กับใส่ชั้น 2-4 ชั้น
การปรับแต่งตู้สแตนเลสเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
การใช้งานตู้แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์ กับตู้สแตนเลส 2-4 ชั้น
ตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถแบ่งเป็น แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์ และ แบบชั้นวาง 2-4 ชั้น ซึ่งแต่ละแบบมีการใช้งานที่แตกต่างกันตามลักษณะของอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้ง
1. ตู้เก็บของสแตนเลสแบบติดเพลทยึดอุปกรณ์
- มี เพลทโลหะภายใน สำหรับยึดอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์ คอนแทคเตอร์ หรือรีเลย์
- เหมาะสำหรับ งานควบคุมไฟฟ้า เช่น ตู้ควบคุมมอเตอร์ (MCC), ตู้คอนโทรล (Control Panel) หรือ ตู้ MDB
- ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบ และสะดวกต่อการเดินสายไฟภายในตู้
- สามารถเลือกเจาะช่องสำหรับอุปกรณ์เสริม เช่น จอแสดงผล, ปุ่มกด หรือช่องระบายอากาศ
2. ตู้เก็บของสแตนเลสไฟฟ้า 2-4 ชั้น
- ออกแบบให้มี ชั้นวางภายใน สำหรับเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือ หรืออุปกรณ์สำรอง
- เหมาะสำหรับ งานจัดเก็บอุปกรณ์ ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือห้องควบคุมไฟฟ้า
- มีตัวเลือกแบบ ประตูเดี่ยวหรือประตูคู่ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน
- สามารถเพิ่ม กุญแจล็อก และซีลกันน้ำ เพื่อป้องกันฝุ่นและน้ำเข้าไปภายใน
สรุปการเลือกใช้งาน
- หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและควบคุมระบบไฟ ควรเลือกตู้แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์
- หากต้องการ เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือ เพื่อให้หยิบใช้งานง่าย ควรเลือกตู้ไฟสแตนเลส 2-4 ชั้น
- ทั้งสองแบบสามารถเลือกใช้ สแตนเลส 304 หรือ 316L เพื่อความทนทานต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับ ความต้องการของระบบไฟฟ้า และการจัดเก็บอุปกรณ์ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
ตารางการใช้งานตู้แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์กับใส่ชั้น 2-4 ชั้น
คุณสมบัติ | ตู้แบบติดเพลทยึดอุปกรณ์ | ตู้เก็บของสแตนเลส 2-4 ชั้น |
---|---|---|
ลักษณะโครงสร้าง | มีเพลทยึดอุปกรณ์ภายใน | มีชั้นวางของ 2-4 ชั้น |
การใช้งานหลัก | ติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, คอนแทคเตอร์ | จัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องมือ หรืออะไหล่ |
เหมาะสำหรับ | ตู้ควบคุมไฟฟ้า (MDB, Control Panel) | ห้องควบคุมไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม |
รูปแบบประตู | ประตูเดี่ยวหรือคู่ พร้อมซีลกันน้ำ | ประตูเดี่ยวหรือคู่ พร้อมกุญแจล็อก |
ความปลอดภัย | รองรับมาตรฐาน IP55 – IP66, กันน้ำและฝุ่น | มีซีลกันฝุ่นและกันน้ำบางรุ่น |
ความสะดวกในการติดตั้ง | ต้องติดตั้งอุปกรณ์บนเพลท | พร้อมใช้งาน จัดเก็บได้ทันที |
วัสดุที่ใช้ผลิต | สแตนเลส 304 หรือ 316L | สแตนเลส 304 หรือ 316L |
ความเหมาะสมของพื้นที่ | ใช้พื้นที่มากกว่าเนื่องจากต้องเผื่อการเดินสาย | ใช้พื้นที่น้อยกว่าและวางของเป็นระเบียบ |
ตัวเลือกเสริม | ช่องเจาะสำหรับอุปกรณ์, ระบบระบายอากาศ | ชั้นวางแบบปรับระดับได้, ล้อเลื่อน |
การปรับแต่งตู้สแตนเลสเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น
สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของแต่ละงาน เช่น การเจาะช่องติดตั้งอุปกรณ์เสริม อย่าง สวิตช์ไฟ, จอแสดงผลดิจิทัล, หรือช่องเชื่อมต่อสายไฟ เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มี อุณหภูมิสูงหรือสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานผลิตโลหะ หรืออุตสาหกรรมเคมี ตู้สามารถเลือกใช้ สแตนเลส 316L ซึ่งมีความทนทานต่อสารเคมีและการกัดกร่อนสูงกว่าสแตนเลส 304 นอกจากนี้ยังสามารถเคลือบ Powder Coating เพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดสนิมและยืดอายุการใช้งาน
ระบบล็อกและความปลอดภัย เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ตู้บางรุ่นสามารถติดตั้ง กุญแจล็อกแบบพิเศษ หรือ ระบบล็อกแบบรหัส เพื่อป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าสำคัญในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
การระบายอากาศ หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สร้างความร้อนภายในตู้ อาจจำเป็นต้องติดตั้ง พัดลมระบายอากาศ, ฮีตซิงก์, หรือช่องระบายอากาศพร้อมฟิลเตอร์กันฝุ่น เพื่อช่วยควบคุมอุณหภูมิและลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจะเสียหายจากความร้อนสะสม
การเดินสายไฟภายในตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า 2-4 ชั้น
การออกแบบตู้สแตนเลสควรออกแบบให้เป็นระเบียบด้วย รางเก็บสายไฟ (Cable Trunking) หรือระบบแคลมป์ยึดสาย เพื่อลดความยุ่งเหยิงและเพิ่มความปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถติดตั้ง รางสายไฟแบบโมดูลาร์ เพื่อให้สามารถขยายหรือปรับเปลี่ยนการเชื่อมต่อได้ง่ายในอนาคตหากต้องการเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน ตู้บางรุ่นสามารถติดตั้งล้อเลื่อนแบบล็อกได้ เพื่อให้สามารถเคลื่อนย้ายและปรับตำแหน่งได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่น เช่น ห้องควบคุมชั่วคราวหรือไซต์งานก่อสร้างด้วยคุณสมบัติที่ครบถ้วน ทั้ง ความแข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศ ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับ การใช้งานในอุตสาหกรรมไฟฟ้า ระบบควบคุมเครื่องจักร และสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง โดยช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างยาวนาน
ผู้ใช้งานสามารถเลือก อุปกรณ์เสริม
การสั่งผลิตตู้สแตนเลส ตามขนาดและอุปกรณ์เสริม เป็นกระบวนการที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการเฉพาะของแต่ละลูกค้า โดยสามารถปรับรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ขนาดของตู้, วัสดุที่ใช้, และฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ ที่ต้องการ ดังนี้:
การเลือกขนาดของตู้:ลูกค้าสามารถระบุขนาดที่ต้องการสำหรับตู้ เช่น ความสูง, ความกว้าง, และความลึก เพื่อให้ตรงกับพื้นที่และการใช้งานขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายในอนาคต
วัสดุที่ใช้ในการผลิต:สามารถเลือกวัสดุที่เหมาะสมตามความต้องการของสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลส สำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการทนทานต่อการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงวัสดุอื่น ๆ เช่น เหล็กเคลือบสี หรือ อลูมิเนียม ก็สามารถใช้ได้ตามความเหมาะสม
อุปกรณ์เสริม:
- ระบบระบายอากาศ: สามารถเพิ่มช่องระบายอากาศ(ตีบานเกล็ด)หรือติดตั้งพัดลมระบายความร้อนในตู้เพื่อป้องกันการสะสมความร้อนจากอุปกรณ์ไฟฟ้า
- การออกแบบหลังคาเชื่อมและหลังคาสโลป สามารถทำได้ตามความต้องการของการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการใช้งาน ซึ่งทั้งสองประเภทมีลักษณะการออกแบบที่แตกต่างกัน
เจะารเจาะรูเข้าสายไฟการเจาะรูในตู้ไฟฟ้าช่วยให้สามารถเชื่อมต่อสายไฟจากภายนอกเข้าไปภายในตู้ได้อย่างสะดวกและปลอดภัย
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุปตู้สแตนเลสกันน้ำ 2-4 ชั้น ถูกออกแบบมาเพื่อ เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือ โดยมีโครงสร้างแข็งแรง ทนทานต่อสภาพแวดล้อม และสามารถป้องกันน้ำ ฝุ่น และการกัดกร่อนได้ดีผลิตจาก สแตนเลส 304 หรือ 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อสนิมและสารเคมี เหมาะสำหรับ โรงงานอุตสาหกรรม ศูนย์ควบคุมไฟฟ้า และพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดสูง เช่น ห้องปลอดเชื้อ (Clean Room) หรืออุตสาหกรรมอาหาร ร้อม ซีลกันน้ำ (IP55 – IP66) ป้องกันฝุ่นและความชื้น วามทนทานสูง ความปลอดภัย และการจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างเป็นระเบียบ ช่วยให้การทำงานสะดวกและมีประสิทธิภาพมากขึ้น