สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา PE รุ่นมาตรฐาน คือ ท่ออ่อนที่ผลิตจากวัสดุโพลีเอทิลีน (Polyethylene - PE) ซึ่งมีความแข็งแรง ทนทาน และมีโครงสร้างที่แน่น ไม่สามารถเปิดหรือผ่าออกได้ง่าย ใช้สำหรับป้องกันและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในงานระบบไฟฟ้าแบบติดตั้งถาวร โดยท่อรุ่นมาตรฐานนี้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการความมั่นคงและทนทานสูง เช่น อาคาร โรงงาน และงานระบบไฟฟ้าภายในที่ไม่ต้องการปรับเปลี่ยนสายไฟบ่อยครั้ง

การเลือกใช้ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา PE รุ่นมาตรฐาน

การเลือกใช้ท่ออ่อน PE รุ่นมาตรฐานเหมาะกับงานที่สายไฟไม่จำเป็นต้องถูกถอดหรือเปลี่ยนบ่อยครั้ง เพราะโครงสร้างท่อแข็งแรงและติดตั้งถาวร ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคง ไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟหลุดหรือเคลื่อนที่ผิดตำแหน่ง การใช้งานในระบบไฟฟ้าที่เน้นความปลอดภัยและความทนทานสูง เช่น อาคารสำนักงาน โรงงานอุตสาหกรรม หรือบ้านเรือนทั่วไป จึงนิยมใช้ท่อชนิดนี้เป็นหลัก

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.
  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ ท่อเฟล็กซ์ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.
  • การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
    เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.
  • การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
    หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้

เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape): ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper): เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา (Standard Flexible Conduit)

ท่ออ่อนที่ผลิตจากโพลีเอทิลีน (PE) ซึ่งมีโครงสร้างแข็งแรงและแน่น ท่อชนิดนี้ไม่มีรอยผ่ากลาง จึงไม่สามารถเปิดหรือแกะสายไฟออกมาได้โดยง่าย จึงเหมาะกับการติดตั้งแบบถาวรในระบบไฟฟ้า เช่น ภายในอาคาร โรงงาน หรือระบบที่ต้องการความมั่นคงและปลอดภัยสูง เนื่องจากท่อจะช่วยปกป้องสายไฟจากแรงกระแทก การเสียดสี หรือสารเคมีที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าได้ดี

ท่อร้อยสายไฟชนิดอ่อนที่ผลิตจากวัสดุ โพลีเอทิลีน (Polyethylene หรือ PE) ซึ่งเป็นพลาสติกชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และความทนทานต่อสารเคมี รวมถึงความสามารถในการต้านทานแรงเสียดสีและแรงกระแทกได้ในระดับที่ดี โดยลักษณะของท่อรุ่นมาตรฐานนี้จะมีโครงสร้างต่อเนื่อง ไม่มีรอยผ่ากลาง ทำให้การใช้งานมีความปลอดภัยมากขึ้นในระบบไฟฟ้าแบบถาวร

โครงสร้างเป็นลอน (Corrugated) ทำให้สามารถโค้งงอได้ดีในระดับหนึ่งแม้จะไม่มีรอยผ่า แต่ยังคงรักษารูปทรงและความแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่อชนิดนี้จึงมักถูกนำไปใช้ในการร้อยสายไฟหรือสายเคเบิลในงานติดตั้งที่ต้องการความมั่นคง เช่น การเดินสายไฟในผนัง พื้น ฝ้าเพดาน หรือในเครื่องจักรที่ไม่มีการเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนแปลงสายไฟบ่อย

คุณสมบัติเด่นอีกประการของท่อร้อยสายไฟ PE รุ่นมาตรฐานคือความสามารถในการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดกับสายไฟ เช่น การเสียดสีจากพื้นผิวคม การกระแทกจากสิ่งของ หรือการสัมผัสกับน้ำมันหรือสารเคมีบางประเภท จึงช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและลดความเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟไหม้ที่เกิดจากสายไฟชำรุด

ตารางเปรียบเทียบระหว่าง ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา PE รุ่นมาตรฐาน และ รุ่นผ่ากลาง

คุณสมบัติ / รายละเอียดรุ่นมาตรฐาน (Standard)รุ่นผ่ากลาง (Slit)
โครงสร้างท่อไม่มีรอยผ่า โครงสร้างปิดแน่นหนามีรอยผ่าตลอดแนวท่อ
การติดตั้งสายไฟต้องร้อยสายจากปลายท่อเท่านั้นสามารถเปิดข้างท่อเพื่อใส่/ถอดสายไฟได้สะดวก
ความแข็งแรงของท่อแข็งแรง ทนแรงกระแทกและเสียดสีได้ดียืดหยุ่นสูง แต่แข็งแรงน้อยกว่ารุ่นมาตรฐาน
เหมาะกับงานประเภทใดงานติดตั้งถาวร ไม่ต้องเปลี่ยนสายไฟบ่อยงานที่ต้องปรับปรุง เปลี่ยน หรือบำรุงรักษาบ่อย
พื้นที่ติดตั้งเหมาะกับพื้นที่กว้างหรือไม่ต้องปรับเปลี่ยนบ่อยเหมาะกับพื้นที่แคบ ซับซ้อน หรือพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
การป้องกันฝุ่น/น้ำ/สารเคมีป้องกันได้ดีกว่า เพราะไม่มีรอยเปิดป้องกันได้น้อยกว่า เพราะมีรอยผ่ากลาง
ความเหมาะสมในการใช้งานระยะยาวดีเยี่ยม เหมาะกับงานที่ไม่เปลี่ยนแปลงระบบดี สำหรับงานที่เปลี่ยนแปลงระบบบ่อย
ตัวอย่างการใช้งานเดินสายภายในอาคาร, โรงงาน, เครื่องจักรนิ่งตู้ควบคุมไฟฟ้า, เครื่องจักรที่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย

การเลือกใช้ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา PE ทั้ง 2 ชนิด

ควรพิจารณาจากลักษณะของงานและความต้องการใช้งาน หากงานต้องการความมั่นคง แข็งแรง และติดตั้งถาวร ให้เลือกท่อมาตรฐาน แต่ถ้าต้องการความสะดวกในการซ่อมแซมหรือปรับเปลี่ยนสายไฟบ่อยครั้ง ท่อแบบผ่ากลางจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า ทั้งนี้ การเลือกใช้ท่อให้เหมาะสมกับงานจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าใน ท่อแบบผ่ากลางยังเหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่ที่มีขนาดจำกัดหรือพื้นที่แคบ เช่น ภายในตู้ควบคุมเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการจัดสายไฟ การมีรอยผ่ากลางทำให้การจัดการสายไฟหลากหลายขนาดและประเภทง่ายขึ้น เพิ่มความสะดวกในการติดตั้งและบำรุงรักษาโดยรวม

การติดตั้งท่อรุ่นมาตรฐานมักใช้ร่วมกับข้อต่อ (Fittings)

การติดตั้งท่อรุ่นมาตรฐานมักใช้ร่วมกับข้อต่อ (Fittings) หรือคลิปยึดกับผนังและโครงสร้างต่าง ๆ เพื่อยึดท่อให้อยู่กับที่อย่างมั่นคง เหมาะอย่างยิ่งกับงานระบบไฟฟ้าที่ต้องการความเรียบร้อย ความปลอดภัย และการใช้งานระยะยาว โดยเฉพาะในงานภายในอาคารสำนักงาน อาคารพาณิชย์ โรงงาน หรือพื้นที่ที่ไม่มีการปรับเปลี่ยนระบบไฟฟ้าบ่อยครั้ง

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากท่อไม่มีรอยผ่ากลาง จึงไม่เหมาะกับงานที่ต้องเปลี่ยนสายไฟหรือแก้ไขระบบไฟฟ้าเป็นประจำ เพราะต้องถอดสายออกจากปลายท่อเท่านั้น ทำให้การซ่อมบำรุงหรืออัปเกรดระบบในภายหลังใช้เวลานานกว่าท่อแบบผ่ากลาง ดังนั้นผู้ใช้งานจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับลักษณะของโปรเจกต์หรือพื้นที่ใช้งาน

ท่ออ่อน PE รุ่นมาตรฐานเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานติดตั้งถาวรที่ต้องการความแข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยต่อระบบสายไฟ ช่วยป้องกันความเสียหายและเพิ่มความเป็นระเบียบให้กับระบบเดินสายได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในระยะยาว

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟราคา (PE: รุ่นผ่ากลาง)

Slit Flexible Conduit เป็นท่ออ่อนสำหรับร้อยสายไฟที่ออกแบบมาให้มี รอยผ่าตลอดแนวความยาวของท่อ เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง ถอด หรือเปลี่ยนสายไฟได้โดยไม่จำเป็นต้องถอดสายออกจากปลายท่อ เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนหรือบำรุงรักษาบ่อยครั้ง เช่น ระบบไฟฟ้าในเครื่องจักร อุปกรณ์ควบคุม หรือสายสัญญาณภายในตู้คอนโทรลต่าง ๆ วัสดุที่ใช้ผลิตยังคงเป็น โพลีเอทิลีน (Polyethylene – PE) เช่นเดียวกับรุ่นมาตรฐาน จึงมีคุณสมบัติด้านความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา ทนต่อแรงดึง แรงเสียดสี และสารเคมีทั่วไปได้ดี ท่อรุ่นนี้มีโครงสร้างแบบลอน (Corrugated) ที่สามารถโค้งงอได้ง่าย รองรับการติดตั้งในพื้นที่แคบหรือซับซ้อนได้เป็นอย่างดี ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงในการเดินสาย

หนึ่งในจุดเด่นของท่อรุ่นผ่ากลางคือ

ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ ความสามารถในการเข้าถึงสายไฟได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบ ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนสายใหม่ ช่วยลดระยะเวลาในการทำงานและเพิ่มความคล่องตัวให้กับทีมงานติดตั้งหรือช่างเทคนิค โดยเฉพาะในระบบที่ต้องบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น เครื่องจักรอัตโนมัติหรือระบบควบคุมที่มีการใช้งานตลอดเวลา

ท่อผ่ากลางยังสามารถรองรับสายไฟหลากหลายขนาดและจำนวน เนื่องจากสามารถเปิดรอยผ่าและบีบท่อให้รองรับกับปริมาณสายที่ต้องการได้โดยไม่ต้องถอดสายทั้งหมด ทำให้การจัดระเบียบสายไฟในระบบซับซ้อนมีความยืดหยุ่นและสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเหมาะกับงานชั่วคราว หรืองานที่อาจมีการขยับ เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มสายไฟในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ท่อรุ่นผ่ากลางอาจมีข้อจำกัดด้านการป้องกันสายไฟจากน้ำหรือฝุ่น เมื่อเทียบกับรุ่นมาตรฐานที่ไม่มีรอยผ่า ดังนั้นจึงควรใช้ในพื้นที่แห้งหรือในอุปกรณ์ที่มีการป้องกันภายนอกอยู่แล้ว เช่น ภายในตู้ควบคุม หรืองานติดตั้งภายในอาคาร ที่ไม่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

สรุปแล้ว ท่ออ่อน PE รุ่นผ่ากลางเป็นทางเลือกที่เหมาะกับงานติดตั้งที่ต้องการความสะดวกในการดูแลรักษาระบบสายไฟ ความยืดหยุ่นในการเดินสาย และความสามารถในการเปลี่ยนแปลงระบบได้ตลอดเวลา โดยไม่กระทบต่อการใช้งานของระบบโดยรวม