เทอร์มินอลบล็อกต่อสายไฟ 3-60 ช่อง

เทอร์มินอลบล็อกต่อสายไฟ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อและจ่ายไฟฟ้าหรือสัญญาณให้กับอุปกรณ์อื่นๆ (Terminal Block) โดยมักใช้ในงานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มีหลายแบบและขนาดต่างๆ สามารถรองรับการเชื่อมต่อได้หลายชนิด เช่น การเชื่อมต่อด้วยสายไฟหรือเทอร์มินอลสำหรับสายสัญญาณ การใช้กล่องต่อสายไฟช่วยให้ง่ายต่อการเชื่อมต่อและบำรุงรักษา เช่น ในระบบควบคุมอุตสาหกรรมหรือระบบไฟฟ้าในอาคารและโรงงานชนิดต่างๆ

คุณสมบัติของ เทอร์มินอลบล็อกต่อสายไฟ Terminal block

กล่องเทอร์มินอลบล็อกมักมีคุณสมบัติที่ช่วยในการต่อสายไฟอย่างง่ายดายและปลอดภัย โดยมักมีโครงสร้างที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น ความต้านทานต่อการชนของวัสดุที่ทำจากพลาสติกหรือโลหะ และระบบการเชื่อมต่อที่เข้ากันได้สะดวกและป้องกันการสั่นสะเทือนของสายไฟในขณะใช้งาน Terminal Block เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติต่างๆ ที่มีผลต่อการใช้งานและการเชื่อมต่อสายไฟ โดยมีคุณสมบัติหลักต่อไปนี้:

  • วัสดุผลิตกล่องต่อสายไฟ พลาสติก ABS, โพลีคาร์บอเนต ที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมและแรงดันไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งาน

  • แรงดันไฟฟ้าทนได้: มีความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าตามมาตรฐานที่กำหนด เช่น 400V สำหรับการใช้งานปกติ

  • ความจุของสายไฟ: มีความสามารถในการรองรับความจุของสายไฟที่ต่ออยู่ โดยมักจะระบุให้ทราบเป็นมิลลิเมตรเต็มๆ เช่น 0.75mm sq. – 15mm sq.

  • ช่วงอุณหภูมิทนได้: มีความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ เช่น จาก -40 องศาเซลเซียส ถึง +120 องศาเซลเซียส โดยไม่เสียความสามารถในการทำงาน

  • การติดตั้งและการใช้งานง่าย: มีการออกแบบให้ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน เช่น มีตัวช่วยในการติดตั้งสายไฟเข้ากับกล่องต่อสายไฟอย่างง่าย

  • ความปลอดภัย: มีระบบป้องกันการไหลกระแสไฟฟ้าที่ไม่ปกติ เช่น ระบบป้องกันการช็อตวงจรหรือการเกิดสัญญาณรบกวน

  • ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การสั่นสะเทือน หรือสภาวะอุณหภูมิสูงหรือต่ำ

  • ความคงทนและทนทาน: มีความทนทานต่อการใช้งานเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการเสื่อมสภาพหรือสึกหรอในสภาวะการใช้งานปกติ

ราคาเทอร์มินอลบล็อก
ราคา Plastic Terminal ABS

   *ราคาดังกล่าวเป็นราคาตั้ง สอบถามส่วนลดพิเศษได้ที่ผ่ายขายค่ะ  

การใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ

สำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ มีความสำคัญเนื่องจากวัสดุที่ใช้ในการผลิตกล่องต่อสายไฟจะมีคุณสมบัติและความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ดังนั้นการเลือกวัสดุที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานมีความสำคัญอย่างมาก ต่อไปนี้คือการเลือกกล่องต่อสายไฟตามวัสดุที่ใช้ในการผลิต:

ABS Plastic (พลาสติก ABS) คุณสมบัติ:

  • ABS เป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและการชนของต่างๆ ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง
  • มีความต้านทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานหรือสถานที่ที่มีการใช้งานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
  • มีราคาที่เหมาะสมและมีความพอใจในเรื่องคุณภาพต่อราคา

การใช้งาน: เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานหรือสถานที่ที่มีการใช้งานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพราะ ABS สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงได้ดี

ตัวอย่าง: ที่ใช้วัสดุ ABS เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานผลิตอาหารหรือโรงงานที่มีการใช้งานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

Aluminum (อลูมิเนียม): คุณสมบัติ:

  • อลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาและมีความทนทานต่อการกัดกร่อน ซึ่งทำให้มีความเหมาะสมในการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการน้ำหนักเบาและความทนทาน
  • มีความทนทานต่อการอุณหภูมิสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น โรงงานหรืออาคารอุตสาหกรรม

การใช้งาน: เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความทนทานต่ออุณหภูมิสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่าง: ที่ใช้วัสดุอลูมิเนียม เหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานที่มีอุณหภูมิสูง เช่น โรงงานผลิตเหล็กหรือโรงงานที่มีการใช้งานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

สภาพแวดล้อมและวัสดุที่ใช้ผลิต

สภาพแวดล้อมและวัสดุที่ใช้ผลิตมีความสำคัญสำหรับการให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากกล่องต่อสายไฟมีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อสายไฟฟ้า ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบไฟฟ้าทั้งในการส่งและการรับสัญญาณไฟฟ้า ดังนั้นการเลือกที่เหมาะสมต้องพิจารณา
สภาพแวดล้อม: ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมที่จะถูกติดตั้ง เช่น อุณหภูมิสูงหรือต่ำ การสั่นสะเทือน ความชื้น และความเครียดต่างๆ ซึ่งจะมีผลต่อวัสดุที่เลือกใช้ วัสดุ: วัสดุที่ใช้ผลิตจะมีผลต่อความทนทานต่อสภาพแวดล้อม โดยพลาสติก ABS เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ในขณะที่อลูมิเนียมเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงและต้องการความทนทานต่อการกัดกร่อน

ตัวอย่างการใช้งานในอุตสาหกรรม

การใช้งานแต่ละอุตสาหกรรมมีความหลากหลาย เช่น ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม กล่องต่อสายไฟมีความทนทานต่อความชื้นสูงที่เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอาหาร ในอุตสาหกรรมอุปกรณ์แพทย์ เต้องมีระบบป้องกันการช็อตวงจรเพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัย ในอุตสาหกรรมโรงงานอุตสาหกรรม มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและความเครียดต่างๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ในอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง

  • อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม:

    • การใช้งาน: ในการเชื่อมต่อสายไฟฟ้าที่ใช้ในการประมวลผลอาหารและเครื่องดื่ม เช่น เครื่องผสมอาหาร โรงงานขนมปัง หรือโรงงานน้ำดื่ม
    • อธิบาย: มีความทนทานต่อความชื้นสูงเหมาะสำหรับสถานที่ที่มีการใช้งานอาหารและเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง ที่มีการบำรุงรักษาสุขอนามัยและความสะอาดอย่างสูง
  • อุตสาหกรรมอุปกรณ์แพทย์:

    • การใช้งาน: ในการเชื่อมต่อและจ่ายไฟฟ้าในอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องช่วยหายใจ อุปกรณ์การวินิจฉัย หรือเครื่องกำจัดเชื้อโรค
    • อธิบาย: การใช้งานในอุตสาหกรรมอุปกรณ์แพทย์ต้องมีความปลอดภัยและความเชื่อถือสูง มีระบบป้องกันการช็อตวงจรเหมาะสำหรับใช้ในงานนี้
  • อุตสาหกรรมโรงงานอุตสาหกรรม:

    • การใช้งาน: ใช้ในการเชื่อมต่อและจ่ายไฟฟ้าในเครื่องจักรและอุปกรณ์ในโรงงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่องจักรผลิต ระบบควบคุมการผลิต หรือระบบสารเคมี
    • อธิบาย: มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและความเครียดต่างๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม
  • อุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง:

    • การใช้งาน: ช้ในระบบไฟฟ้าในยานยนต์และอุปกรณ์การขนส่ง เช่น รถยนต์ รถไฟ หรือเครื่องบิน
    • อธิบาย: มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนและการเคลื่อนไหวเป็นอย่างมาก เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมยานยนต์และการขนส่ง

สรุป

เทอร์มินอลบล็อก (Terminal Block) เป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในระบบไฟฟ้า เนื่องจากมีหน้าที่เชื่อมต่อและจ่ายไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์หรือเครื่องจักรต่างๆ อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเลือกกล่องต่อสายไฟที่เหมาะสมต้องพิจารณาสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น อุณหภูมิสภาพแวดล้อม ความชื้น และความเครียด เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและปลอดภัยสูงสุด

เราต้องการให้สินค้าถึงมือผู้ใช้งานมากขึ้นโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย สามารส่งสเปกเพื่อเลือกสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุดติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่มเติมได้ที่ฝ่ายขายค่ะ

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

การเลือกขนาดตู้สแตนเลส

การเลือกขนาดตู้สแตนเลสและขนาดความหนา

การเลือกขนาดความหนาของตู้ (Stainless Steel Enclosure) จะขึ้นอยู่กับการใช้งานและเงื่อนไขการทำงานที่ต้องการประกอบอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในตู้ โดยพิจารณาความต้องการในการต้านทานต่อแรงกระแทกจากภายนอก เช่น การใช้งานในโรงงานที่มีการเคลื่อนไหวของอุปกรณ์หนัก หรือที่มีการเคลื่อนที่ของบุคคลและอุปกรณ์สูง เลือกเกรดของแสตนเลส   อ่านบทความ

การดูแลรักษาตู้สแตนเลสไฟฟ้า

การดูแลรักษาตู้สแตนเลสไฟฟ้า 304 และ 316  

การใช้งานและเพื่อให้รักษาความทนทานและการใช้งานที่ยาวนานของตู้การเลือกเกรดที่เหมาะสม: 304: เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีการติดต่อกับสารเคมีเป็นจำนวนมาก มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสึกกร่อนในสภาพทั่วไป 316: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อนและสึกกร่อนที่ดีกว่า 304 โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อม   อ่านบทความ

การติดตั้งท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ

การติดตั้งท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟและการเลือกขนาด

การเลือกขนาดท่อ Flex ที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้สามารถรองรับสายไฟได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขนาดท่อควรพิจารณาจากจำนวนและขนาดของสายไฟที่จะเดินภายในท่อ ควรเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่พอที่จะให้สายไฟผ่านได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อน นอกจากนี้ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมที่ท่อจะติดตั้ง   อ่านบทความ

Scroll to Top