สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่อลมอุตสาหกรรมมาตรฐานสากล
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ IP68 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดและป้องกันสายเคเบิลจาก น้ำ ฝุ่น ความชื้น และสารเคมี เพื่อให้แน่ใจว่าสายไฟภายในปลอดภัยและไม่มีการรั่วซึมของของเหลวหรือฝุ่นเข้าไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้า ได้รับมาตรฐาน IP68 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันฝุ่นได้ 100% และกันน้ำลึกได้ถึงระดับหนึ่งตามเงื่อนไขที่กำหนด ผลิตจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316, ทองเหลืองชุบนิกเกิล หรือพลาสติก PA66 เพื่อให้รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ทำหน้าที่ ยึดและป้องกันสายไฟ ไม่ให้ขยับหรือหลุดจากจุดเชื่อมต่อ ช่วย ป้องกันน้ำ ฝุ่น และความชื้น ไม่ให้เข้าสู่ภายในอุปกรณ์ไฟฟ้า ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร โครงสร้างแข็งแรง รองรับแรงดึงและแรงสั่นสะเทือน ทำให้สายไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น ผลิตจากวัสดุทนทาน เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316, ทองเหลืองชุบนิกเกิล หรือพลาสติก PA66 จึงทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับใช้งานใน โรงงานอุตสาหกรรม, ตู้ควบคุมไฟฟ้า, ระบบโซลาร์เซลล์ และงานติดตั้งกลางแจ้ง ทำให้ระบบไฟฟ้ามีอายุการใช้งานยาวนานและปลอดภัยขึ้น ยังช่วย ปิดผนึกจุดเชื่อมต่อสายไฟ ให้แน่นหนา ป้องกันไม่ให้สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ลดโอกาสเกิดความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง สามารถรองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มี ไอเคมี ความร้อนสูง หรือสภาวะเปียกชื้น ได้ดี โครงสร้างออกแบบให้รองรับ แรงดึง แรงกระแทก และแรงสั่นสะเทือน ช่วยให้สายไฟอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ป้องกันการหลุดหรือเสียหาย การติดตั้งทำได้ง่ายและรวดเร็ว โดยมี โอริงและซีลยาง NBR ช่วยเสริมการป้องกันการรั่วซึม ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานทั้ง ภายในอาคารและกลางแจ้ง ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก มี 2 ขนาดหลัก คือ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
ระบบโซลาร์เซลล์และงานติดตั้งกลางแจ้ง ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน เช่น แสงแดด ฝน ลม และฝุ่นละออง วัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล ทนต่อการกัดกร่อนจากไอทะเลและสารเคมี ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นเข้าสู่จุดเชื่อมต่อไฟฟ้า ลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจร โครงสร้างแข็งแรง รองรับแรงสั่นสะเทือนจากลมพายุหรือแรงดึงจากการขยายตัวของสายไฟ ติดตั้งง่ายและช่วยยืดอายุการใช้งานของ สายไฟและอุปกรณ์โซลาร์เซลล์ ให้มีความปลอดภัยและทนทานยิ่งขึ้น มีบทบาทสำคัญในการ ป้องกันความชื้นและฝุ่น ไม่ให้เข้าสู่กล่องเชื่อมต่อ (Junction Box) หรือ อินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งเป็นจุดสำคัญของระบบไฟฟ้า โครงสร้างที่แข็งแรงช่วย ยึดสายไฟให้มั่นคง ป้องกันการขยับหรือหลุดจากแรงดึงและแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากลมและอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง สามารถใช้ได้ทั้งกับ สายไฟกระแสตรง (DC) และกระแสสลับ (AC) ทำให้ระบบโซลาร์เซลล์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ทนต่อรังสี UV และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ลดโอกาสเกิดความเสียหายจากการใช้งานกลางแจ้ง ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและเพิ่มความปลอดภัย
ตู้ควบคุมไฟฟ้า (Electrical Control Panels)
ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power Systems)
ระบบไฟฟ้าในเรือและท่าเรือ (Marine Electrical Systems)
โรงงานอุตสาหกรรมหนัก (Heavy Industrial Plants)
ป้องกันความชื้นและฝุ่น ไม่ให้เข้าสู่ กล่องเชื่อมต่อ (Junction Box) หรืออินเวอร์เตอร์ (Inverter) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในระบบไฟฟ้าและโซลาร์เซลล์ การปิดผนึกอย่างแน่นหนาด้วย โอริงและซีลยาง NBR ช่วยลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรและการกัดกร่อนจากไอเคมี โครงสร้างแข็งแรงช่วยป้องกันน้ำเข้า แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เปียกชื้นหรือมีฝุ่นละอองหนาแน่น เหมาะสำหรับใช้งานกลางแจ้งและในพื้นที่อุตสาหกรรมที่ต้องการ การป้องกันระดับสูงสุด ช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์
ป้องกันการควบแน่นของไอน้ำ ซึ่งอาจเกิดจากความแตกต่างของอุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน ลดความเสี่ยงของความชื้นสะสมภายในกล่องเชื่อมต่อและอินเวอร์เตอร์ ที่อาจส่งผลให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
วัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล ทนต่อการกัดกร่อนจาก น้ำฝน ไอทะเล และสารเคมี โครงสร้างรองรับแรงดึงและแรงสั่นสะเทือนได้ดี ทำให้สายไฟอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและใช้งานได้ยาวนานขึ้น เหมาะสำหรับงานติดตั้งในพื้นที่กลางแจ้งและโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสภาพแวดล้อมรุนแรง
ส่วนประกอบของ Cable gland stainless เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และยังช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
1. Sealing Nut (ตัวน็อตซีล) หน้าที่: ทำหน้าที่ในการบีบอัดส่วนของซีลและโอริงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายใน
2. Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดจับสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น ไม่ให้หลุดออกเมื่อถูกดึงหรือสั่นสะเทือน
3. NBR Seal (ซีลยาง NBR) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีล ป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นละอองซึมผ่านเข้าไปภายในได้
4. Body (ตัวบอดี้) หน้าที่: เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ และยึดติดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
5. O-ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพิ่มเติม ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละออง
6. Lock Nut (น็อตล็อค) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ให้หลุดออก
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ IP68 ถูกออกแบบให้สามารถ รองรับแรงสั่นสะเทือนจากลมพายุ และแรงดึงที่เกิดจาก การขยายตัวของสายไฟ เนื่องจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง วัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล มีความแข็งแรง ทนต่อแรงกด แรงดึง และการบิดงอ โครงสร้างภายในมี Plastic Claw หรือ Metal Clamping Ring ที่ช่วยยึดสายไฟให้มั่นคง ไม่ให้ขยับหลุดจากตำแหน่ง ช่วยลดความเสียหายของสายไฟ ที่อาจเกิดจากแรงกระแทกหรือแรงสั่นสะเทือนสูง เหมาะสำหรับ งานติดตั้งกลางแจ้ง โรงงานอุตสาหกรรม และระบบโซลาร์เซลล์ ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ป้องกันสายไฟจากแรงดึงและแรงบิด ที่เกิดขึ้นจาก การขยายและหดตัวของสายไฟ ตามอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ลดความเสี่ยงของ ฉนวนสายไฟเสียหายหรือแตกหัก ซึ่งอาจนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจรหรือระบบขัดข้อง ในกรณีของ ลมพายุหรือแรงสั่นสะเทือนจากเครื่องจักร โครงสร้างภายในของเคเบิ้ลแกลนด์ เช่น ซีลยาง NBR และ Plastic Claw หรือ Metal Clamping Ring จะช่วยให้สายไฟ ยึดติดแน่น ไม่เคลื่อนตัว
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ IP68 เหมาะสำหรับ ตู้ควบคุมไฟฟ้า ระบบโซลาร์เซลล์ และอุตสาหกรรมหนัก ที่ต้องการความทนทานและปลอดภัยสูงสุด โครงสร้างผลิตจาก สแตนเลส SUS304/SUS316 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล ซึ่งทนต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง รองรับ แรงดึง แรงสั่นสะเทือน และอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง ได้ดี ป้องกัน ฝุ่น น้ำ และไอเคมี ไม่ให้เข้าสู่จุดเชื่อมต่อไฟฟ้า ช่วยให้ สายไฟอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ลดโอกาสเกิดความเสียหายและไฟฟ้าลัดวงจร ติดตั้งง่ายและช่วย
ถูกออกแบบให้ รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม พื้นที่กลางแจ้ง และระบบพลังงานแสงอาทิตย์ โครงสร้างแข็งแรงสามารถ ทนต่อแรงดึง การสั่นสะเทือน และแรงกระแทก ได้ดี ป้องกัน ความชื้น ฝุ่นละออง และสารเคมี ไม่ให้เข้าสู่จุดเชื่อมต่อทางไฟฟ้า
วยลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจร และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า วัสดุที่ใช้ เช่น สแตนเลส SUS316 มีคุณสมบัติทนต่อ ไอเกลือและการกัดกร่อน เหมาะสำหรับ โรงงานอุตสาหกรรมหนักและพื้นที่ชายฝั่งทะเล ที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุด
ป้องกันการรั่วไหลของน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย โอริงและซีลยาง NBR ที่ช่วยปิดผนึกแน่นสนิท เหมาะสำหรับ ตู้ควบคุมไฟฟ้าในระบบอุตสาหกรรม โรงงานผลิต ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ และสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charging Stations) ที่ต้องการความปลอดภัยสูง โครงสร้างภายในมี Plastic Claw หรือ Metal Clamping Ring ซึ่งช่วย ยึดสายไฟให้แน่น ลดโอกาสสายไฟเคลื่อนหรือหลุดออก จากแรงดึงและแรงสั่นสะเทือ
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ Cable Gland IP68 เป็นอุปกรณ์ที่ช่วย ยึดและปิดผนึกสายไฟ ให้แน่นหนา ป้องกัน น้ำ ฝุ่น และสารเคมี ไม่ให้เข้าสู่จุดเชื่อมต่อไฟฟ้า เหมาะสำหรับ งานติดตั้งทั้งในอาคารและกลางแจ้ง เช่น ตู้ควบคุมไฟฟ้า ระบบโซลาร์เซลล์ และอุตสาหกรรมหนัก ผลิตจากวัสดุที่ทนทาน เช่น สแตนเลส SUS304/SUS316 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล ซึ่งช่วยป้องกันการกัดกร่อน รองรับ แรงดึง การสั่นสะเทือน และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ โครงสร้างภายในมี Plastic Claw หรือ Metal Clamping Ring ที่ช่วย ยึดสายไฟให้มั่นคง ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน