สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

กระดูกงู Cable Carrier
รางร้อยสายไฟ

กระดูกงู (Cable Carrier) หรือ รางกระดูกงูร้อยสายไฟ คือระบบที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในการจัดระเบียบและปกป้องสายไฟในระบบที่มีการเคลื่อนไหวหรือการขนส่งสายไฟอย่างต่อเนื่อง เช่น ในเครื่องจักร, หุ่นยนต์อุตสาหกรรม, หรือระบบการผลิตที่มีการเคลื่อนที่บ่อยครั้ง โดยท่อหรือรางihvplkpwaจะช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟเกิดการขัดข่วน, การบิดงอ, หรือการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้สายไฟเสื่อมสภาพหรือเสียหาย

" กระดูกงู Cable Carrier รางร้อยสายไฟ "

แคตตาล็อกสินค้า🖱️

จำหน่ายกรางกระดูกงูพลาสติก PA6 และเหล็กชุบกัลวาไนซ์

สำหรับการจัดการสายไฟในอุตสาหกรรมและระบบต่างๆ มีทั้งแบบพลาสติก PA6 และเหล็กชุบกัลวาไนซ์ที่ให้ความทนทานและความแข็งแรงสูง พร้อมบริการจัดส่งรวดเร็วและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ!

Cable Drag Chain Plastic PA6

ทนทานต่อการเสียดสี: ผลิตจากพลาสติก PA6 คุณภาพสูง ทนทานต่อการขัดถูและการเสียดสี
น้ำหนักเบาและยืดหยุ่น: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีข้อจำกัดและการเคลื่อนไหวของสายไฟ
ติดตั้งง่าย: ดีไซน์ที่สะดวกต่อการติดตั้งและใช้งาน
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในพื้นที่จำกัด หรือการใช้งานในอุตสาหกรรม และเครื่องจกัร

Cable Drag Chain Steel

ทนทานต่อการกัดกร่อน: ชุบกัลวาไนซ์เพื่อป้องกันการกัดกร่อน เหมาะสำหรับงานในความร้อนสูงและสารเคมี
แข็งแรงรองรับงานหนัก: รองรับการใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงสูงในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง และสายไฟขนาดใหญ่
ทนทานและปลอดภัย: ช่วยปกป้องสายไฟจากการบิดงอหรือความเสียหาย
💡 เหมาะสำหรับ: การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่ต้องการการปกป้องสายไฟจากสภาพแวดล้อมที่หนัก

คุณสมบัติของกระดูกงู Cable Carrier (PA6)

Cable Drag Chain Plastic PA6  (Polyamide 6) มีคุณสมบัติที่โดดเด่นมากมาย ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมในงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะในระบบการจัดระเบียบสายไฟและสายเคเบิลในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวบ่อยครั้ง. หนึ่งในคุณสมบัติหลักคือ ความทนทาน ซึ่งทำให้รางร้อยสายไฟสามารถรับมือกับการใช้งานที่หนักหน่วงและการเคลื่อนไหวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • ทนทานและแข็งแรง: รางพลาสติก PA6 (Polyamide 6) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานหนัก สามารถรองรับการเคลื่อนไหวและการขนส่งสายไฟในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายได้ดี
  • ทนทานต่อการกัดกร่อน: พลาสติก PA6 มีคุณสมบัติทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด ซึ่งช่วยให้ราง Cable Carrier สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง
  • ยืดหยุ่นสูง: รมีความยืดหยุ่นสูง ทำให้สามารถใช้งานได้ในพื้นที่ที่ต้องการการเคลื่อนไหวหรือบิดงอ ซึ่งเหมาะสมกับงานที่มีการเคลื่อนไหวหรือการเปลี่ยนทิศทางของสายไฟบ่อยครั้ง
  • น้ำหนักเบา: พลาสติก PA6 มีน้ำหนักเบากว่าโลหะ ทำให้รางชนิดนี้สะดวกในการติดตั้งและลดภาระการใช้งานในระบบที่ต้องการความคล่องตัวสูง
  • ทนความร้อน: พลาสติก PA6 สามารถทนความร้อนได้ดี ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้โดยไม่เสื่อมสภาพหรือหลอมละลาย
  • เสียงรบกวนต่ำ: ช่วยลดเสียงรบกวนเมื่อเคลื่อนที่ของสายไฟ ซึ่งช่วยให้การทำงานในพื้นที่ที่มีเครื่องจักร
หมวด สินค้าใกล้เคียง

รางร้อยสายไฟใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบง่ายต่อการบำรุงรักษา

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบด้วยโครงสร้างที่มีความยืดหยุ่นสูง ช่วยปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้า โดยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่ต้องการความเคลื่อนไหว เช่น การติดตั้งในพื้นที่ที่มีการขยับหรือการหมุนของอุปกรณ์ 

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

การเลือกขนาดและรูปแบบของกระดูกงูสำหรับงานที่มีการเคลื่อนที่

การเลือกขนาดและรูปแบบของราง Cable Carrier  สำหรับงานที่มีการเคลื่อนที่อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การจัดระเบียบสายไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ก่อนที่จะเลือกขนาดและรูปแบบที่เหมาะสม ควรพิจารณาหลายปัจจัย เช่น ความยาวของการเคลื่อนที่, น้ำหนักของสายไฟ, และชนิดของการเคลื่อนที่ที่เกิดขึ้นในระบบ. สำหรับงานที่มีการเคลื่อนที่เป็นระยะทางยาวหรือมีการบิดงอของสายไฟ การเลือกขนาดของราง ที่ใหญ่และมีความยืดหยุ่นสูงจะช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟเกิดการขัดขวางหรือการเสียดสี ในกรณีที่มีการเคลื่อนที่ในทิศทางที่ซับซ้อน ควรเลือกรางที่มีโครงสร้างที่สามารถรองรับการบิดงอได้ดี เช่น แบบรางที่มีการเชื่อมต่อแบบยืดหยุ่น. รูปแบบของรางกที่มีช่องว่างภายในที่สามารถจัดระเบียบสายไฟให้พอดีและไม่บีบอัดมากเกินไป จะช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายไฟเป็นไปอย่างราบรื่น

การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ

การวัดความขนาด (Cable Chain Measurement)

การเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในด้านความกว้างและความสูงภายในรางเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญมากในการติดตั้งและใช้งานเพื่อป้องกันการสึกหรอและลดโอกาสเกิดความเสียหายกับสายเคเบิลหรือสายพาน โดยการทำตามแนวทางนี้ จะช่วยให้การติดตั้งและใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้ตามแนวทางดังนี้:

  • 1. การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement) ทำการวัดความกว้างของ  โดยให้ความสนใจว่าความกว้างนี้ต้องพอเพียงสำหรับการติดตั้งสายเคเบิลหรือสายพานหลายเส้นในแนวขนาน ซึ่งหากมีสายหลายเส้นในรางเดียว ควรมีช่องว่างระหว่างแต่ละเส้นอย่างน้อย 10% ของความกว้างสาย
  • 2. การคำนวณค่า 10% ของความกว้างสายเคเบิล (Calculate 10% of Cable Width) เมื่อทราบความกว้างของสายเคเบิลหรือสายพานที่ต้องการติดตั้งในรางแล้ว ให้คำนวณค่า 10% ของความกว้างนี้เพื่อเป็นช่องว่างเพิ่มเติม โดยการเพิ่ม 10% นี้จะช่วยป้องกันการเสียดสีและช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายทำได้อย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดของสายขณะเคลื่อนที่
  • 3. เว้นช่องว่างความสูงอย่างน้อย 10% ไม่เพียงแค่ความกว้าง ช่องว่างในแนวสูงภายในรางก็ควรมีอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลหรือสายพานเช่นกัน เพื่อให้สายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะการทำงาน
  • 4. ประโยชน์จากการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม การเว้นช่องว่างทั้งด้านกว้างและสูงอย่างน้อย 10% จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสายภายในราง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและสายพานได้ ทำให้ระบบการเคลื่อนที่ภายในเครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องที่อาจส่งผลต่อการผลิตหรือการทำงานของระบบ

รัศมีการดัดโค้ง (Bending Radius) ของ Cable Drag Chain มีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้

  • หลักการเว้นพื้นที่ 15%: ควรเว้นพื้นที่ในรางอย่างน้อย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สายไฟหรือท่อสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดแรงกดหรือแรงตึงที่อาจทำให้สายเสียหาย
  • การรองรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ: พื้นที่ว่างช่วยให้สายไฟหรือท่อโค้งงอได้โดยไม่มีแรงกระทำมากเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายจากการเสียดสี
  • ผลกระทบต่ออายุการใช้งาน: หากเว้นพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายไฟหรือท่อขาดความยืดหยุ่นและเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ
  • ความสำคัญของรัศมีโค้ง: รัศมีโค้งที่เหมาะสมช่วยลดแรงกระทำต่อสายไฟและราง ทำให้ระบบเคลื่อนไหวได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน

ขนาดของรางกระดูกงูต้องสอดคล้องกับขนาดของสายไฟ

การเลือกขนาดให้เหมาะสมกับขนาดของสายไฟเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการสายไฟและป้องกันการเกิดปัญหาต่างๆ เช่น การบีบอัดหรือการเสียดสีที่อาจทำให้สายไฟเสียหายได้. เมื่อขนาดของราง cable chain ไม่พอดีกับขนาดของสายไฟ จะทำให้เกิดการบีบอัดของสายไฟ ซึ่งอาจทำให้สายไฟมีอายุการใช้งานสั้นลง หรือเกิดการลัดวงจรจากการเสียดสีกับราง Cable Carrier ได้ ในการเลือกขนาดของราง ควรคำนึงถึง ความกว้างและความสูง ของรางให้เหมาะสมกับจำนวนและขนาดของสายไฟที่ต้องการร้อย. หากมีการใช้งานสายไฟหลายเส้น ควรเลือกขนาดรางที่สามารถรองรับสายไฟได้โดยไม่ทำให้เกิดการบีบอัดหรือการขัดขวางการเคลื่อนที่ของสายไฟ. นอกจากนี้ การคำนวณขนาดที่เหมาะสมยังต้องคำนึงถึง การขยายตัวของสายไฟ ในระหว่างการเคลื่อนที่ โดยควรให้มีช่องว่างพอสมควรเพื่อให้สายไฟสามารถขยายตัวได้โดยไม่เสียหาย

การเลือกรางกระดูกงูให้เหมาะสมกับขนาดของสายไฟและเครื่องจักร

Cable Carrier ที่มีการระบุ เลขขนาดความกว้างและสูง

วิธีการติดตั้งให้เหมาะสมกับระบบเคเบิล

วิธีการบำรุงรักษารางกระดูกงูเพื่อยืดอายุการใช้งาน

การบำรุงรักษา Cable Carrier เป็นสิ่งสำคัญในการยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบสายไฟในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ต่างๆ โดยมีวิธีการบำรุงรักษาดังนี้:

  • ตรวจสอบสภาพภายนอกอย่างสม่ำเสมอ ควรตรวจสอบสภาพภายนอกของรางเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีการเสียหายจากการเสียดสีหรือการกระแทก เช่น การแตกหักหรือรอยขีดข่วน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเคลื่อนที่ของสายไฟได้.

  • ทำความสะอาดราง ควรทำความสะอาดรางกฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจเข้าไปสะสมภายในช่องของราง โดยสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นหรือแปรงทำความสะอาด เพื่อลดการเสียดสีกับสายไฟ.

  • ตรวจสอบความยืดหยุ่นของราง ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารางยังคงมีความยืดหยุ่นและการเคลื่อนที่ได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดหรืองอผิดรูปจากการใช้งาน เพื่อป้องกันการทำลายสายไฟและการเคลื่อนที่ที่ผิดพลาด.

-

  • ตรวจสอบการยึดติดของราง ควรตรวจสอบสกรูและข้อต่อของระดูกงูเพื่อให้แน่ใจว่าไม่หลวม โดยการขันให้แน่นเพื่อป้องกันการหลุดออกจากตำแหน่งเมื่อรางเคลื่อนที่.

  • ตรวจสอบการขยายตัวของสายไฟ ควรตรวจสอบให้มั่นใจว่ามีพื้นที่ว่างเพียงพอในรางเพื่อรองรับการขยายตัวของสายไฟขณะเคลื่อนที่ โดยต้องมีการเว้นระยะให้เหมาะสมตามขนาดของสายไฟ.

  • หลีกเลี่ยงการใช้สายไฟที่มีขนาดใหญ่เกินไปเลือกขนาดของรางที่พอเหมาะกับขนาดของสายไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงการบีบอัดหรือการขัดขวางการเคลื่อนที่ของสายไฟ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหาย.

  • ใช้รางในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงการใช้งานรางในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปหรือมีความชื้นสูง เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของวัสดุราง cable chain

การเลือกรางกระดุูกงูให้เหมาะสมกับขนาดของสายไฟ

การเลือก Cable drag chain ที่เหมาะสมกับขนาดของ สายไฟ และ เครื่องจักร เป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาประสิทธิภาพของระบบสายไฟและความปลอดภัยในระยะยาว สำหรับ เครื่องจักรใหญ่ หรือระบบที่ต้องรองรับ สายไฟขนาดใหญ่ ควรเลือก รางร้อยสายไฟ รุ่น Heavy Duty ซึ่งออกแบบมาให้รองรับการเคลื่อนที่ของสายไฟที่มีขนาดใหญ่และการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวสูง.

คุณสมบัติของ รุ่น Heavy Duty

  • วัสดุทนทาน: ผลิตจากพลาสติกคุณภาพสูงที่ทนทานต่อการใช้งานหนักและการเสียดสี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่ของเครื่องจักรใหญ่.
  • ความแข็งแรงรองรับสายไฟขนาดใหญ่: รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรองรับ สายไฟขนาดใหญ่ โดยสามารถรองรับได้หลายเส้นโดยไม่เกิดการบีบอัดหรือการเสียดสี.
  • รองรับการขยายตัว: รุ่นนี้มีการออกแบบให้มีพื้นที่สำหรับการขยายตัวของสายไฟ ช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายไฟเป็นไปอย่างราบรื่นและลดความเสี่ยงจากการเกิดความเสียหาย.
  • การเคลื่อนที่ที่สะดวก: ด้วยการออกแบบที่ยืดหยุ่นและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถติดตั้งและเคลื่อนย้ายได้ง่าย เหมาะกับเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนที่หรือการขยับตัว.

การเลือก รางร้อยสายไฟรุ่น Heavy Duty สำหรับเครื่องจักรใหญ่และสายไฟขนาดใหญ่จะช่วยให้การจัดระเบียบสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย ลดการเสียดสีของสายไฟและเพิ่มอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ. นอกจากนี้ยังสามารถปรับขนาดของรางให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละประเภทของเครื่องจักรได้ง่าย.

Cable Carrierที่มีการระบุ เลขขนาดความกว้างและสูง

การระบุ เลขขนาดความกว้างและสูง เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานได้ง่ายและแม่นยำ โดยทั่วไปแล้ว ขนาดของรางจะถูกกำหนดในรูปแบบของตัวเลขที่แสดงถึง ความกว้าง (Width) และ ความสูง (Height) ของราง ซึ่งช่วยในการระบุพื้นที่ภายในของรางที่สามารถจัดเก็บและรองรับสายไฟได้อย่างพอดี

การระบุขนาดเหล่านี้ช่วยให้การเลือกขนาดรางสามารถคำนึงถึงการขยายตัวของสายไฟ, ความหนาของสายไฟ, และจำนวนสายที่ต้องการจัดระเบียบได้อย่างถูกต้อง. โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่ระบุในรา cable chain จะมีการแสดงค่าในหน่วยมิลลิเมตร (mm) ซึ่งสะดวกต่อการคำนวณและการติดตั้งในงานต่างๆ.

ตัวอย่างเช่น หากราง cable chain มีการระบุขนาดความกว้าง 50 มิลลิเมตร และความสูง 60 มิลลิเมตร ผู้ใช้งานสามารถทราบได้ทันทีว่า ขนาดของรางนี้เหมาะสมสำหรับการร้อยสายไฟที่มีขนาดกว้างและสูงไม่เกินค่าที่ระบุในรางนั้นๆ ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาการบีบอัดสายไฟและทำให้การติดตั้งและบำรุงรักษาง่ายขึ้น.

การเลือกขนาดของรางกระดูกงูสำหรับระบบสายไฟ

การเลือกขนาดของ Cable Drag Chain สำหรับระบบสายไฟนั้นไม่เพียงแต่ต้องคำนึงถึงขนาดของสายไฟที่ใช้งานเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึง การขยายตัวของสายไฟ ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน. สายไฟบางประเภทจะมีการขยายขนาดเมื่อมีการใช้งานหรือเมื่อผ่านการเคลื่อนที่หรือการบิดงอ การคำนึงถึงปัจจัยนี้เป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันไม่ให้สายไฟถูกบีบอัดมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้สายไฟเสียหายหรือเกิดการลัดวงจรได้. การเพิ่ม ช่องว่าง 10% ในขนาดของรางช่วยให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับการขยายตัวของสายไฟ และลดความเสี่ยงจากการเกิดการบีบอัด โดยการคำนวณขนาดของรางที่เหมาะสมควรเพิ่มขนาดที่จำเป็นจากการคำนวณขนาดของสายไฟประมาณ 10% เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวได้โดยไม่ทำให้สายไฟถูกบีบอัดเกินไป.

วิธีการติดตั้ง Cable Chain ให้เหมาะสมกับระบบเคเบิล

การติดตั้ง Cable Drag Chain ให้เหมาะสมกับระบบเคเบิลเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้การใช้งานระบบสายไฟเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยมีขั้นตอนการติดตั้งและถอดที่สำคัญดังนี้:

  • กดสกรู: ใช้ไขควงกดที่สกรูรูปตัว “I” ที่อยู่บนตัวสายพาน ตามภาพประกอบ เพื่อคลายการยึดตัวสายพานให้หลวม.
  • แงะแผ่นปิด: หลังจากที่กดสกรูแล้ว ให้ใช้ไขควงแงะแผ่นปิดที่อยู่ด้านล่างของตัวสายพานออก เพื่อให้สามารถเข้าถึงตัวล็อคได้.
  • ดึงตัวล็อค: ใช้ไขควงสอดเข้าไปในรูที่เกิดจากการดึงแผ่นปิดออก แล้วค่อยๆ บิดเพื่อดึงตัวล็อคออกอย่างระมัดระวัง.

หมายเหตุ: ชิ้นส่วนที่ถอดออกได้ ได้แก่ แผ่นปิดและตัวล็อค ซึ่งสามารถนำกลับมาใช้งานใหม่ได้ในขั้นตอนการประกอบ.ความระมัดระวัง: ควรใช้เครื่องมืออย่างระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการทำให้ชิ้นส่วนเสียหายหรือล็อคไม่แน่น.

การประกอบกลับ: เมื่อถอดชิ้นส่วนเสร็จสิ้นแล้ว การประกอบกลับให้ทำตามขั้นตอนย้อนกลับ เริ่มจากการใส่ตัวล็อคและแผ่นปิดกลับเข้าไปในตำแหน่งเดิม และทำการขันสกรูให้แน่น เพื่อให้รางพร้อมใช้งานในระบบเคเบิล.

การติดตั้งรางร้อยสายไฟที่ถูกต้องช่วยให้การจัดระเบียบและการเคลื่อนที่ของสายไฟเป็นไปอย่างราบรื่น โดยไม่มีการบิดงอหรือเสียดสีที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย

หมวด สินค้าประจำหมวด

รางกระดูกงู Cable Drag Chain คือ รางที่ใช้ในการจัดระเบียบและป้องกันสายเคเบิลหรือท่อ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงและสารเคมีต่าง ๆ โดยช่วยป้องกันการเสียดสี การพันกัน และการเสียหายของสายไฟ ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟหรือท่อในระยะยาว มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง เช่น โรงงาน, เครื่องจักร, และระบบไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่.

อธิบายสรุป กระดูกงู (Cable Carrier) คือ รางร้อยสายไฟระบบที่ออกแบบมาเพื่อ จัดระเบียบและจัดเก็บสายไฟ อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีการป้องกันสายไฟจากการเสียดสี, การบิดงอ, และการขัดขวางในระหว่างการเคลื่อนที่ ทำจากวัสดุที่มีความทนทาน เช่น พลาสติก PA6 หรือโลหะ ซึ่งสามารถรองรับการเคลื่อนที่ของสายไฟในระยะทางยาวและการเคลื่อนที่ที่มีความยืดหยุ่นสูงได้ดี. การใช้การจัดระเบียบสายไฟเป็นระเบียบเรียบร้อย ลดปัญหาของการพันกันหรือสายไฟหลุดจากตำแหน่ง. ระบบนี้มีความสามารถในการ จัดเก็บสายไฟ ได้อย่างเหมาะสม และลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรจากการเสียดสี. นอกจากนี้ยังช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายไฟในระบบเป็นไปอย่างราบรื่น ปลอดภัย และง่ายต่อการบำรุงรักษา

Scroll to Top