เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส Cable gland Stainless 304
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส Cable Gland Stainless 304 คือ อุปกรณ์ยึดสายเคเบิลที่ผลิตจากสแตนเลสเกรด 304 ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับความชื้น สารเคมี หรือการสัมผัสกับน้ำบ่อยครั้ง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การเดินสายไฟฟ้าในพื้นที่กลางแจ้ง หรือพื้นที่ที่มีสภาวะแวดล้อมที่ท้าทาย นอกจากนี้ยังทนทานต่ออุณหภูมิสูง ทำให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยในระบบไฟฟ้าและเครื่องจักรกล
สารบัญหน้าสินค้า
ตัวอย่างสินค้า : เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68
คุณสมบัติของเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส 304 กันน้ำ IP68
เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดสายเคเบิลเข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อป้องกันการเคลื่อนที่และลดความเสี่ยงจากการเสียหาย โดยวัสดุสแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อนและความชื้น เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น การติดตั้งระบบไฟฟ้าในที่โล่งแจ้ง หรือในโรงงานที่มีสารเคมี นอกจากจะเพิ่มความปลอดภัยแล้วยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟอีกด้วย
- ทนต่อการกัดกร่อนสูง: สแตนเลสเกรด 304 มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ ความชื้น และสารเคมีต่าง ๆ ที่ผลิตจากวัสดุนี้สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม สถานที่ใกล้ชายฝั่งทะเล หรือสถานที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำบ่อยครั้ง โดยไม่เกิดสนิมหรือเสื่อมสภาพ
- ความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกระแทก: มีความแข็งแรงสูง สามารถทนต่อแรงกระแทก การสั่นสะเทือน และการเสียดสีได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่หรือการสั่นของเครื่องจักร ทำให้สายเคเบิลคงที่และป้องกันการเสียหายจากการเคลื่อนที่
- ทนต่ออุณหภูมิสูง: วัสดุสแตนเลส 304 สามารถทนต่ออุณหภูมิที่หลากหลาย ตั้งแต่ -40°C ถึง 100°C (หรือสูงกว่านั้นในระยะเวลาสั้น ๆ) ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูง เช่น โรงไฟฟ้า หรือเครื่องจักรที่มีการทำงานภายใต้อุณหภูมิที่ร้อนจัด
- การป้องกันน้ำและฝุ่นระดับสูง (IP68): ถูกออกแบบให้มีคุณสมบัติกันน้ำและกันฝุ่นในระดับ IP68 ซึ่งหมายความว่าสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมกลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำและฝุ่นบ่อยครั้ง เช่น งานติดตั้งระบบไฟฟ้าในที่โล่งแจ้ง
การใช้งานเคเบิ้ลแกลนสแตนเลส 304 (Cable gland IP68)
คุณสมบัติหลายอย่างที่ทำให้เป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น สแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 เป็นวัสดุที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเนื่องจากความแข็งแรงและทนต่อการสึกหรอ ทำให้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง ทั้งยังทนต่ออุณหภูมิที่หลากหลายได้ดี จึงเป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบสำหรับงานติดตั้งสายไฟที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานในระยะยาว
- งานติดตั้งระบบไฟฟ้ากลางแจ้ง: ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้ากลางแจ้ง เช่น ระบบไฟถนนหรือสถานีไฟฟ้า เนื่องจากคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝนตกบ่อย วัสดุสแตนเลส 304 มีความทนทานต่อสนิมและสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้ ทำให้สายเคเบิลในระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัย และช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของสายไฟในระยะยาว
- งานในอุตสาหกรรมเคมีและโรงงาน: ในอุตสาหกรรมที่ต้องเผชิญกับสารเคมี เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส 304 เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากวัสดุนี้มีความต้านทานต่อสารเคมีหลายประเภท เช่น กรดและด่าง วัสดุสแตนเลส 304 ไม่เพียงแต่ทนต่อการกัดกร่อน แต่ยังมีความแข็งแรงทนทาน ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีหลากหลายชนิด
- การติดตั้งในโรงไฟฟ้าและระบบเครื่องจักรขนาดใหญ่: มีความแข็งแรงทนต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงไฟฟ้าหรือระบบเครื่องจักรขนาดใหญ่ วัสดุสแตนเลส 304 สามารถรองรับแรงดันและการเคลื่อนที่ของสายไฟที่เกิดจากการทำงานของเครื่องจักร ช่วยป้องกันการหลุดออกหรือสายไฟเกิดความเสียหายจากการสั่นสะเทือนของเครื่องจักร
- การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำ: ด้วยความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิได้ตั้งแต่ -40°C ถึง 100°C สามารถใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงสูง เช่น ระบบท่อส่งก๊าซ โรงงานเหล็ก หรือพื้นที่ที่มีความร้อนจัดหรือต้องใช้งานในพื้นที่ที่อุณหภูมิต่ำจัด สแตนเลส 304 ช่วยให้การยึดสายเคเบิลเป็นไปอย่างมั่นคงและไม่เกิดการเสียหายจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
ข้อดีของการใช้ Cable Gland Stainless ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
ในอุตสาหกรรมที่ต้องทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมี ความชื้น หรือน้ำเค็ม Cable Gland Stainless เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยวัสดุสแตนเลสที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนและไม่เกิดสนิม การใช้ประเภทนี้ยังช่วยลดการบำรุงรักษาและป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการเสื่อมสภาพของสายไฟที่อาจเกิดจากการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีในระยะยาว
การใช้งานในอุตสาหกรรมไฟฟ้า
นงานติดตั้งระบบไฟฟ้า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น สถานีไฟฟ้า โรงงานอุตสาหกรรม หรือพื้นที่กลางแจ้ง เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การติดตั้งสายไฟมีความปลอดภัยและมั่นคง วัสดุสแตนเลสช่วยป้องกันสายไฟจากความเสียหายที่อาจเกิดจากการเคลื่อนที่ การสั่นสะเทือน หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย และยังทำให้การติดตั้งสายเคเบิลในตู้ไฟฟ้าหรือกล่องเชื่อมต่อเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การติดตั้งให้ถูกต้องมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า ผู้ติดตั้งควรเลือกขนาดของ Cable gland ให้เหมาะสมกับสายเคเบิล และขันล็อคให้แน่นหนาเพื่อป้องกันไม่ให้สายเคเบิลเคลื่อนที่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าวัสดุซีลกันน้ำและกันฝุ่น (IP68) ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการรั่วซึมและความเสียหายจากสภาพแวดล้อม
การเลือกขนาดเคเบิ้ลแกลนให้เหมาะกับสายไฟชนิดต่างๆ
การเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสายไฟทั่วไปมีความสำคัญต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการติดตั้ง ดังนี้คือวิธีเลือกขนาดที่เหมาะสม โดยการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟให้ถูกต้อง ข้อมูลนี้จำเป็นสำหรับการเลือกขนาดที่พอดีกับสายไฟ ซึ่งขนาดที่ใช้บ่อยกับสายไฟทั่วไป เช่น สายไฟฟ้าบ้านหรืออุตสาหกรรม จะมีขนาดเริ่มต้นที่ M16, M20, M25, M32 หรือเกลียว NPT 1/2” ขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดของสายไฟ
สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (Low Voltage Cable): สำหรับสายไฟฟ้าแรงดันต่ำ เช่น สายไฟฟ้าที่ใช้ในบ้านหรืออาคารสำนักงาน ควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟ โดยทั่วไปแล้วขนาดที่นิยมใช้จะเป็น M16, M20, หรือ NPT 1/2” ซึ่งจะสามารถยึดสายเคเบิลได้อย่างแน่นหนาและป้องกันการเคลื่อนที่หรือการสึกหรอได้ดี
สายเคเบิลโคแอกเชียล (Coaxial Cable): สำหรับสายเคเบิลโคแอกเชียลที่ใช้ในการส่งสัญญาณโทรคมนาคมหรือโทรทัศน์ ขนาดควรเหมาะกับขนาดของสายเคเบิล เช่น สาย RG6, RG11 หรือ RG59 การเลือกที่พอดีกับเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญเพื่อป้องกันความเสียหายต่อฉนวนและตัวนำภายใน ควรเลือกที่มีซีลกันน้ำเพื่อเพิ่มการป้องกันในงานกลางแจ้ง
สายไฟฟ้ากำลัง (Power Cable): สำหรับสายไฟฟ้ากำลังที่ใช้ในอุตสาหกรรมหรือโรงงาน ขนาดของสายมักจะใหญ่กว่าสายทั่วไป จึงจำเป็นต้องใช้มีขนาดใหญ่ เช่น M32, M40 หรือใหญ่กว่านั้น เพื่อรองรับเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่มากกว่า รวมทั้งต้องเลือกที่ทนทานต่อแรงกระแทกและการสั่นสะเทือน เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของสายไฟ
สายเคเบิลใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable): สำหรับสายใยแก้วนำแสงที่มีความละเอียดอ่อน ควรเลือกที่มีขนาดพอดีและไม่แน่นจนเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้สายเคเบิลเสียหายหรือหักงอ เเลือกควรมีซีลกันฝุ่นและกันน้ำที่ดี เพื่อป้องกันสัญญาณใยแก้วนำแสงจากการถูกขัดขวางโดยสิ่งแปลกปลอม
◀ หมวดก่อนหน้า หมวดใกล้เคียง ▶
อธิบายสรุป
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส ใช้ในการยึดสายเคเบิลให้มั่นคง ป้องกันการเคลื่อนที่และการเสียหายของสายไฟในระหว่างการติดตั้งหรือใช้งาน โดยทำจากวัสดุสแตนเลสเกรด 304 หรือ 316 ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน สนิม และสารเคมีต่างๆ รวมถึงทนทานต่อความชื้น น้ำ ฝุ่น และการสั่นสะเทือน เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, โรงไฟฟ้า, สถานีไฟฟ้ากลางแจ้ง, รวมถึงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากสารเคมีและความชื้น ด้วยความแข็งแรงของวัสดุและคุณสมบัติการซีลระดับสูง (IP68) ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันและเพิ่มอายุการใช้งานของระบบสายไฟ
เราต้องการให้สินค้าถึงมือผู้ใช้งานมากขึ้นโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย สามารส่งสเปกเพื่อเลือกสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุดติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่มเติมได้ที่ฝ่ายขายค่ะ
ตัวอย่างผลงานและโครงการต่างๆ ที่ใช้งานสินค้ากับเรา
บทความที่อเกี่ยวข้อง
การเลือกซื้อเคเบิ้ลแกลนและการดูแลรักษา
การเลือกซื้อควรพิจารณาปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น วัสดุที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลสที่ทนทานต่อความชื้นและสารเคมีได้ดี หรือทองแดงที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนของสารเคมี นอกจากนี้ยังควรพิจารณาขนาดของ Cable glandที่เหมาะสมกับขนาดของสายไฟหรือสายสัญญาณที่ต้องการใช้งาน รวมถึงการเชื่อมต่อเกลียวที่ตรงกับอุปกรณ์ที่จะติดตั้ง อ่านบทความ
การใช้เคเบิ้ลแกลนด์ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟหรือการระเบิด
การใช้ในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดประกายไฟหรือการระเบิดต้องมีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น ที่มีการกันน้ำและกันระเบิด (Ex-rated) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการระเบิดในสภาพแวดล้อมที่อาจมีแก๊สเสี่ยงได้ การติดตั้งในพื้นที่เหล่านี้ควรจะเป็นไปตามมาตรฐานการป้องกันต่าง ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าการใช้งานจะปลอดภัยไม่เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรง อ่านบทความ
การติดตั้งท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟและการเลือกขนาด
การเลือกขนาดท่อ Flex ที่เหมาะสมมีความสำคัญเพื่อให้สามารถรองรับสายไฟได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ขนาดท่อควรพิจารณาจากจำนวนและขนาดของสายไฟที่จะเดินภายในท่อ ควรเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่พอที่จะให้สายไฟผ่านได้อย่างสะดวกและมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการระบายความร้อน นอกจากนี้ควรพิจารณาสภาพแวดล้อมที่ท่อจะติดตั้ง อ่านบทความ