Cable Gland คือ
อุปกรณ์ใช้ยึดจับสายเคเบิ้ล
Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการจัดการและยึดจับสายไฟฟ้าหรือสายเคเบิล เพื่อป้องกันการดึงหรือเลื่อนหลุดของสายขณะใช้งาน อุปกรณ์นี้ยังช่วยป้องกันฝุ่นละออง ความชื้น และสิ่งสกปรกอื่นๆ จากการเข้าถึงจุดเชื่อมต่อไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือปัญหาทางไฟฟ้าได้ เคเบิ้ลแกลนทำจากวัสดุต่างๆ เช่น พลาสติก สแตนเลส หรือทองเหลือง และถูกออกแบบมาให้ใช้ได้กับสายไฟหลายประเภท
"Cable Gland คือ อุปกรณ์ใช้ยึดจับสายเคเบิ้ล"
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสและทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
คุณสมบัติของ Cable Gland คืออะไร
วัสดุต่างที่ใช้ในการผลิต เช่น พลาสติก โลหะ หรือทองเหลืองและสแตนเลส ถูกออกแบบมาให้ใช้ได้กับสายไฟหลายประเภท เช่น สายเคเบิลที่ใช้ในงานอุตสาหกรรม หรือสายไฟที่ติดตั้งกลางแจ้ง โดยจะมีหลายเกลียว เช่น NPT และ M-Type เพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
- Cable gland plastic: เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยเฉพาะความร้อนและความชื้น ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ที่ผลิตจาก PA66 สามารถป้องกันการแทรกซึมของน้ำ ฝุ่น และสารเคมีเข้าสู่ภายในสายไฟได้ดี
- Cable gland nickel plated brassล: ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือน้ำทะเล นอกจากนี้ยังมีความแข็งแรงและความคงทนต่อการสึกหรอสูง จึงมักใช้ในงานที่ต้องการอายุการใช้งานยาวนานและมีความทนทานต่อการเสื่อมสภาพจากการใช้งานหนัก
- Cable gland stainless steel: มีความทนทานสูงต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น ทำให้เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมเคมีหรือสถานที่ที่ใกล้แหล่งน้ำ ด้วยคุณสมบัติที่ไม่เป็นสนิมและแข็งแรง จึงสามารถใช้งานได้ในระยะยาว
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
การใช้งานเคเบิ้ลแกลนที่รองรับแรงดึง (Tensile Strength)
การยึดสายเคเบิลให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ป้องกันการหลุดหรือเสียหายจากแรงดึงหรือแรงกระชาก เหมาะสำหรับงานที่มีการสั่นสะเทือนหรือสายเคเบิลแนวตั้ง โดยช่วยกระจายแรงดึงเพื่อลดความเสี่ยงต่อสายไฟและฉนวน วัสดุที่ใช้ เช่น Nickel Brass หรือ PA66 ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและทนทานในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง รองรับแรงดึงยังช่วยลดการหย่อนของสายเคเบิล ทำให้การติดตั้งมีความเรียบร้อยและปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะในงานที่ต้องรับแรงดึงสูง เช่น เครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหว ตู้ควบคุมไฟฟ้า หรือกล่องเชื่อมต่อ ระบบนี้ยังช่วยป้องกันสายเคเบิลจากการเสียดสีหรือแรงกดทับที่อาจทำให้สายชำรุด นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น พื้นที่กลางแจ้งหรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการมาตรฐาน IP68 เพื่อความทนทานต่อฝุ่นและน้ำ.
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือกเมี 2 ขนาดหลัก คือ
- ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
- ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
- GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
- AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
Cable gland คืออะไร ใช้ป้องกันสายเคเบิลหลุด อย่างไร
เคเบิ้ลแกลนป้องกันสายเคเบิลหลุดด้วยการยึดสายให้แน่นหนาผ่านกลไกเกลียวและซีลยางที่กระชับรอบสาย ช่วยลดความเสี่ยงที่สายจะเคลื่อนหรือดึงออกจากจุดเชื่อมต่อ การกระจายแรงดึงที่เหมาะสมช่วยป้องกันการฉีกขาดของสายไฟหรือฉนวน การติดตั้งง่ายและรองรับแรงดึงได้ในระดับสูง เหมาะสำหรับงานที่มีการสั่นสะเทือนหรือสายเคเบิลที่ติดตั้งในแนวตั้ง ช่วยรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงของระบบสายไฟในระยะยาว ยังช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดจากการเสียดสีหรือแรงกระชากที่เกิดขึ้นระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะในเครื่องจักรที่มีการเคลื่อนไหวหรือแรงดึงอย่างต่อเนื่อง การใช้วัสดุที่ทนทาน เช่น PA66 หรือทองเหลืองชุบนิกเกิล ช่วยเพิ่มความแข็งแรงในการยึดสายและทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น พื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ที่มีสารเคมี การติดตั้งด้วยเคเบิ้ลแกลนยังช่วยจัดการสายเคเบิลให้เป็นระเบียบ ลดปัญหาการพันกัน และเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพ.
การเลือกใช้ Cable Gland ควรพิจารณาจากประเภทของกล่องไฟฟ้า
ส่วนประกอบแต่ละชิ้นของเคเบิ้ลแกลนพลาสติกและหน้าที่
การเลือกเคเบิ้ลแกลนให้เหมาะสมกับขนาดและเกลียว
เคเบิ้ลแกลนใช้งานร่วมกับกล่องไฟฟ้า
กล่องไฟฟ้าพลาสติก:
- ป้องกันน้ำและฝุ่น: เคเบิ้ลแกลนช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นจากการรั่วซึมเข้าสู่กล่องไฟฟ้าพลาสติก ซึ่งสำคัญในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่นละออง
- น้ำหนักเบา: ใช้ได้ในงานที่ต้องการน้ำหนักเบาและไม่ต้องการวัสดุที่มีความแข็งแรงสูงมาก
- ความทนทาน: เคเบิ้ลแกลนที่ใช้กับกล่องไฟฟ้าพลาสติกมักผลิตจากวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพจากรังสียูวี
-
กล่องไฟฟ้าสแตนเลส:
- ความแข็งแรงสูง: เคเบิ้ลแกลนที่ใช้กับกล่องไฟฟ้าสแตนเลสเหมาะสำหรับงานที่ต้องรับแรงดึงสูง หรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อนจากสารเคมีหรือความร้อน
- ทนทานต่อสภาพแวดล้อมรุนแรง: สามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง หรือในอุตสาหกรรมที่มีสารเคมีที่กัดกร่อน
- ป้องกันการระเบิด: ในบางรุ่นของเคเบิ้ลแกลนที่ใช้กับกล่องไฟฟ้าสแตนเลส มีคุณสมบัติในการป้องกันการเกิดประกายไฟ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการระเบิด
การเลือกใช้ชควรพิจารณาจากประเภทของกล่องไฟฟ้า
การเลือกใช้ ควรพิจารณาจากประเภทของกล่องไฟฟ้าและสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการความทนทานสูงในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ควรเลือกเคเบิ้ลแกลนสำหรับกล่องไฟฟ้าสแตนเลส แต่ถ้าความคุ้มค่าและการใช้งานในสภาพแวดล้อมทั่วไป กล่องไฟฟ้าพลาสติกก็เหมาะสม
Cable Gland คือ ควรพิจารณาจากประเภทของ กล่องไฟฟ้า เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อม โดยหากใช้ กล่องไฟฟ้าพลาสติก ควรเลือกเคเบิ้ลแกลนที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนจากรังสียูวีและการเสื่อมสภาพจากอุณหภูมิ เช่น วัสดุ PA66 หรือพลาสติกที่มีความทนทานสูง สำหรับ กล่องไฟฟ้าสแตนเลส ควรเลือกเคเบิ้ลแกลนที่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น วัสดุทองเหลืองชุบนิกเกิลหรือสแตนเลส เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า.
ส่วนประกอบแต่ละชิ้นของเคเบิ้ลแกลนพลาสติกและหน้าที่
ส่วนประกอบสำคัญในเคเบิ้ลแกลนด์พลาสติกที่ช่วยยึดติดอุปกรณ์กับอึปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง โดยเมื่อใช้ Lock Nut ร่วมกับ Body cable gland จะช่วยให้การติดตั้งมีความมั่นคงและปลอดภัยขึ้น Lock Nut ช่วยป้องกันการคลายตัวของ cable gland ในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกสูง ทำให้สายไฟที่ติดตั้งอยู่มีความมั่นคงและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการหลุดของสายไฟ
- A. Lock Nut: ตัวล็อค ใช้สำหรับยึดเคเบิ้ลแกลนกับผนังหรือพื้นผิวที่ติดตั้ง ช่วยให้ด์ยึดติดแน่น ไม่หลวมเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนหรือแรงกด
- B. Washer: แหวนรอง ทำหน้าที่กระจายแรงเมื่อขัน Lock Nut ช่วยเพิ่มความมั่นคงและป้องกันการเสียดสีที่อาจทำให้ผิวเสียหาย หรือเพื่อเสริมความแน่นหนาของการติดตั้ง
- C. Body: ตัวฐาน เป็นส่วนหลักที่รองรับสายไฟและเชื่อมต่อกับส่วนประกอบอื่น ๆ โดย Body จะเป็นส่วนที่มีเกลียวสำหรับติดตั้งและทำหน้าโครงสร้าง
- D. Seal: ซีล ใช้สำหรับป้องกันน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้าสู่ด้านใน ซีลจะอยู่บริเวณที่สัมผัสกับสายไฟและฝาครอบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการป้องกันการรั่วซึม
- E. Claw: ตัวจับหรือขาคลาย ทำหน้าที่ล็อคสายไฟให้มั่นคง โดยจะกดเข้ากับสายไฟเมื่อฝาครอบถูกขันลงมา ช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟเลื่อนหรือขยับจากการสั่นสะเทือน
- F. Thread-lock Sealing Nut: น็อตซีลกันคลาย ทำหน้าที่เสริมการล็อคให้แน่น และป้องกันการคลายตัวของเกลียว โดยเฉพาะเมื่อมีการสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการหลุดคลาย
ซีล (Seal) ครับ มีหน้าที่สำคัญในการป้องกันไม่ให้น้ำ ฝุ่น
ซีล (Seal) ในเคเบิลแกลนมีบทบาทสำคัญในการป้องกันไม่ให้น้ำ ฝุ่น หรือสิ่งสกปรกอื่นๆ เข้ามาภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านช่องที่ใส่สายไฟ โดยทำงานร่วมกับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น น็อตและตัวเรือน เพื่อสร้างความแน่นสนิท ลักษณะเด่นของซีล:วัสดุ NBR: ซีลทำจาก NBR (Nitrile Butadiene Rubber) ซึ่งเป็นยางสังเคราะห์ที่มีความยืดหยุ่นสูง ทนต่อน้ำมันและสารเคมีได้ดี รวมถึงทนทานต่อสภาพอากาศร้อนหรือเย็น ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลายการออกแบบพิเศษ: การออกแบบซีลมีลักษณะพิเศษเพื่อป้องกันการเลื่อนของซีลเมื่อขันน็อต ทำให้ซีลสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความแน่นสนิทยิ่งขึ้น ความหนาของซีล: ซีลมีความหนาพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละอองได้ดีขึ้น โดยสามารถป้องกันการรั่วซึมได้ในระยะยาว
การเลือกเคเบิ้ลแกลนให้เหมาะสมกับขนาดและเกลียว
ส่วนประกอบสำคัญใน เคเบิ้ลแกลนพลาสติกที่ช่วยยึดติดอุปกรณ์กับอึปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง โดยเมื่อใช้ Lock Nut ร่วมกับ Body จะช่วยให้การติดตั้งมีความมั่นคงและปลอดภัยขึ้น Lock Nut ช่วยป้องกันการคลายตัวของ cable gland ในระหว่างการใช้งาน โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทกสูง ทำให้สายไฟที่ติดตั้งอยู่มีความมั่นคงและลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุจากการหลุดของสายไฟ
- A. Lock Nut: ตัวล็อค ใช้สำหรับยึดเคเบิ้ลแกลนกับผนังหรือพื้นผิวที่ติดตั้ง ช่วยให้ด์ยึดติดแน่น ไม่หลวมเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือนหรือแรงกด
- B. Washer: แหวนรอง ทำหน้าที่กระจายแรงเมื่อขัน Lock Nut ช่วยเพิ่มความมั่นคงและป้องกันการเสียดสีที่อาจทำให้ผิวเสียหาย หรือเพื่อเสริมความแน่นหนาของการติดตั้ง
- C. Body: ตัวฐาน เป็นส่วนหลักที่รองรับสายไฟและเชื่อมต่อกับส่วนประกอบอื่น ๆ โดย Body จะเป็นส่วนที่มีเกลียวสำหรับติดตั้งและทำหน้าที่เป็นโครงสร้าง
- D. Seal: ซีล ใช้สำหรับป้องกันน้ำและฝุ่นไม่ให้เข้าสู่ด้านใน ซีลจะอยู่บริเวณที่สัมผัสกับสายไฟและฝาครอบ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการป้องกันการรั่วซึม
- E. Claw: ตัวจับหรือขาคลาย ทำหน้าที่ล็อคสายไฟให้มั่นคง โดยจะกดเข้ากับสายไฟเมื่อฝาครอบถูกขันลงมา ช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟเลื่อนหรือขยับจากการสั่นสะเทือน
- F. Thread-lock Sealing Nut: น็อตซีลกันคลาย ทำหน้าที่เสริมการล็อคให้แน่น และป้องกันการคลายตัวของเกลียว โดยเฉพาะเมื่อมีการสั่นสะเทือนหรือแรงกระแทก ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและป้องกันการหลุดคลาย
เคเบิ้ลแกลน ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป Cable Gland คืออุปกรณ์ที่ใช้ยึดสายเคเบิลให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคงและป้องกันความเสียหาย โดยเฉพาะจากแรงดึงหรือแรงกระชาก การออกแบบของเคเบิ้ลแกลนมีการล็อคสายอย่างแน่นหนาด้วยกลไกเกลียวและซีลยาง ช่วยลดความเสี่ยงที่สายจะหลุดหรือเคลื่อนออกจากจุดเชื่อมต่อ นอกจากนี้ยังช่วยกระจายแรงดึงเพื่อลดการฉีกขาดของฉนวนสาย ใช้งานได้ทั้งในระบบไฟฟ้า ตู้ควบคุม และเครื่องจักรที่มีการสั่นสะเทือน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุสายเคเบิล.