เคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ
Cable gland
Cable gland เคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันปลายสายไฟที่เชื่อมต่อกับกล่องไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า มันช่วยให้การเชื่อมต่อมีความมั่นคงและป้องกันไม่ให้ฝุ่น, น้ำ และสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังช่วยในการบรรเทาความเครียดจากการดึงหรือแรงกดของสายไฟเพื่อป้องกันการเสียหาย มีการใช้งานในงานติดตั้งไฟฟ้าหลายประเภทและมีวัสดุหลายชนิด เช่น ทองเหลือง, สแตนเลส และพลาสติก ซึ่งเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและประเภทของสายไฟที่แตกต่างกัน
"เคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ Cable gland "
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสและทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
คุณสมบัติของเคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ Cable gland
Cable gland IP68 มีความสามารถในการป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทนทานต่อการจมอยู่ในน้ำลึกได้ในระยะเวลานาน โดยทั่วไปสามารถทนน้ำที่ลึกกว่า 1 เมตร การใช้นี้ช่วยให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสัมผัสน้ำจะได้รับการป้องกันอย่างเต็มที่ ลดความเสี่ยงจากการกัดกร่อนและความเสียหายที่เกิดจากน้ำหรือฝุ่น.
- การป้องกันการรั่วซึม: มีการออกแบบเพื่อป้องกันฝุ่น, น้ำ, และสารเคมีจากการเข้าสู่ภายในอุปกรณ์ไฟฟ้า ช่วยรักษาความปลอดภัยในการทำงานของระบบไฟฟ้า.
- ทนทานและแข็งแรง: ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น ทองเหลือง, สแตนเลส, หรือพลาสติกเสริมแรง ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อน การสึกหรอ และการสัมผัสกับสารเคมีต่างๆ.
- การป้องกันการเสื่อมสภาพของสายไฟ: ช่วยยึดสายไฟให้แน่นหนา ป้องกันการดึงหรือบีบของสายไฟที่อาจทำให้สายไฟเกิดความเสียหาย.
- ง่ายต่อการติดตั้ง: ถูกออกแบบมาให้ติดตั้งได้ง่าย โดยมีเกลียวที่ช่วยยึดสายไฟอย่างแน่นหนาและเหมาะสมกับขนาดของสายไฟ.
- การป้องกันการสั่นสะเทือน: ช่วยป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟจากการสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนที่ในสภาพแวดล้อมที่มีการสั่น.
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
เคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ Cable gland มีหน้าที่คือ
Cable gland ทำหน้าที่ในการยึดและป้องกันสายไฟที่ผ่านเข้าออกจากกล่องไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ โดยการยึดให้แน่นหนา ช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟหลุดออกจากตำแหน่ง การติดตั้งยังช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่น, น้ำ, และสารเคมีเข้าสู่ภายในอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้าได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้การเชื่อมต่อสายไฟมีความปลอดภัยจากการดึงหรือแรงบีบ ซึ่งสามารถทำให้สายไฟเสียหายได้ การติดตั้ง Cable gland ทำให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและยืดอายุการใช้งานของทั้งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังช่วยป้องกันการเคลื่อนที่ของสายไฟจากการสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนไหว ซึ่งอาจทำให้สายไฟเกิดความเสียหายหรือการหลุดออกจากการเชื่อมต่อ การใช้งานที่มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น เช่น IP68 ยังทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการกัดกร่อน ยังช่วยให้การเชื่อมต่อสายไฟมีความสะดวกและรวดเร็ว
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก มี 2 ขนาดหลัก คือ
- ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
- ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
- GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
- AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
การใช้งานเคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษร่วมกับกล่องไฟฟ้า
การใช้งานร่วมกับ กล่องไฟฟ้า สำหรับเข้าสายไฟ มีบทบาทสำคัญในการป้องกันความเสียหายของสายไฟและการป้องกันสิ่งปนเปื้อนจากภายนอก เช่น น้ำ, ฝุ่น หรือสารเคมี โดยการติดตั้งที่ด้านข้างของกล่องไฟฟ้าจะช่วยยึดสายไฟให้แน่นหนาและป้องกันไม่ให้สายไฟขยับหรือเกิดความเสียหายจากการดึงหรือแรงบีบ นอกจากนี้ยังช่วยให้การเชื่อมต่อระหว่างสายไฟกับกล่องไฟฟ้ามีความปลอดภัยและมีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นตามระดับ IP ที่กำหนด เช่น IP68 ซึ่งทำให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าจะทำงานได้อย่างปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีสิ่งสกปรก ยังช่วยให้การติดตั้งมีความสะดวกและรวดเร็ว โดยเสามารถเข้ากับหลากหลายประเภทของเกลียว เช่น NPT, PG, หรือ เมตริก ทำให้สามารถใช้กับสายไฟขนาดต่างๆ และเข้ากับกล่องไฟฟ้าที่มีขนาดหลากหลายได้อย่างมั่นคง นอกจากนี้ยังช่วยลดการเสี่ยงจากการเกิดการสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนที่ของสายไฟในระหว่างการใช้งาน การติดตั้งอย่างถูกต้องจะช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของทั้งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อย่างยาวนาน.
การเลือกใช้เกลียวเคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ
การใช้เคเบิ้ลแกลนช่วยให้การเข้าสายไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น
ความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้า
การติดตั้งไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือกล่องไฟฟ้า โดยเกลียวหลักที่นิยมใช้มีดังนี้:
- เกลียว NPT (National Pipe Thread): เป็นเกลียวที่นิยมใช้ในงานที่ต้องการความทนทานต่อการซีลที่แน่นหนา โดยเฉพาะในงานที่ต้องการป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า เหมาะสำหรับการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวหรือการสั่นสะเทือน
- เกลียว PG (Panzergewinde): เกลียวนี้ใช้ในการติดตั้งสายไฟในสภาพแวดล้อมที่มีการป้องกันการรั่วไหลของน้ำและฝุ่น เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
- เกลียว เมตริก (Metric Thread): เกลียวประเภทนี้ใช้ในการติดตั้งในระบบไฟฟ้าที่ต้องการความแม่นยำในการเชื่อมต่อ โดยมักใช้ในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กและต้องการการติดตั้งที่แม่นยำและแน่นหนา
การเลือกใช้เกลียวประเภทต่างๆ จะขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ติดตั้ง เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน.
การเลือกใช้เกลียวประเภทต่างๆ ของ Cable gland ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ความต้องการในการป้องกันน้ำและฝุ่น ความทนทานต่อการกัดกร่อน และลักษณะของสายไฟที่จะใช้ ในกรณีที่ต้องการการป้องกันอย่างเข้มงวดจากน้ำหรือฝุ่น, การเลือกเกลียว NPT จะเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากมันมีการซีลที่ดีเยี่ยม ป้องกันการรั่วซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วน เกลียว PG เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปในอุตสาหกรรมต่างๆ โดยให้ความยืดหยุ่นในการใช้งานและเหมาะสำหรับการติดตั้งที่ไม่ต้องการการซีลที่หนาแน่นเท่า NPT ขณะที่ เกลียวเมตริก มักใช้ในอุปกรณ์ที่มีขนาดเล็กและต้องการการติดตั้งที่แม่นยำและสะดวก
การเลือกใช้เกลียวที่เหมาะสมกับการติดตั้งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและอายุการใช้งานของทั้ง ระบบไฟฟ้า โดยลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ เช่น การรั่วไหลของน้ำหรือการเกิดการสึกกร่อนจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ยากลำบาก
การเลือกใช้เกลียวเคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ
การเลือกใช้เกลียวประเภทที่เหมาะสมยังช่วยให้การติดตั้ง เคเบิ้ลแกลน ทำได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น โดยการเลือกเกลียวที่ตรงกับอุปกรณ์หรือกล่องไฟฟ้าที่ใช้ สามารถลดปัญหาความไม่พอดีหรือการรั่วไหลระหว่างการติดตั้งได้ นอกจากนี้ การเลือกเกลียวที่ถูกต้องยังช่วยให้เกิดการยึดติดที่มั่นคง ลดความเสี่ยงจากการเคลื่อนที่ของสายไฟที่อาจทำให้เกิดความเสียหายได้ในระยะยาว
นอกจากนี้ การเลือกเกลียว ยังมีผลต่อความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ติดตั้ง เช่น ถ้าติดตั้งในพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนที่บ่อยๆ การใช้เกลียว NPT จะช่วยเพิ่มการยึดเกาะที่มั่นคงและป้องกันการหลุดออก ในขณะที่การเลือกเกลียว PG หรือ เมตริก อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในกรณีที่ไม่ต้องการการซีลที่รุนแรง แต่ต้องการความสะดวกในการติดตั้งและยืดหยุ่นในการใช้งาน.
ดังนั้นการเลือกเกลียวจึงควรพิจารณาทั้งจากลักษณะการใช้งานและสภาพแวดล้อมเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการใช้งาน การเลือกเกลียวที่เหมาะสมยังมีผลต่อความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเกลียวที่ไม่เหมาะสมหรือไม่พอดีกับการติดตั้งอาจทำให้เกิดการรั่วไหลของไฟฟ้าหรือความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าได้ เช่น เกลียวที่ไม่เข้ากับขนาดของอุปกรณ์หรือการติดตั้งไม่มั่นคงอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการใช้งาน การเลือกเกลียวที่ถูกต้องและมั่นคงจึงช่วยลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุจากการติดตั้งผิดพลาด
นอกจากนี้ การเลือกเกลียวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีสารเคมีในอากาศ ก็จะช่วยให้การใช้งานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย
การใช้งานช่วยให้การเข้าสายไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนประกอบของ Cable gland stainless 316 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และยังช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
1. Sealing Nut (ตัวน็อตซีล) หน้าที่: ทำหน้าที่ในการบีบอัดส่วนของซีลและโอริงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายใน
2. Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดจับสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น ไม่ให้หลุดออกเมื่อถูกดึงหรือสั่นสะเทือน
3. NBR Seal (ซีลยาง NBR) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีล ป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นละอองซึมผ่านเข้าไปภายในได้
4. Body (ตัวบอดี้) หน้าที่: เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ และยึดติดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
5. O-ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพิ่มเติม ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละออง
6. Lock Nut (น็อตล็อค) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ให้หลุดออก
การเลือกเกลียวเคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
การเลือกเกลียวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีสารเคมีในอากาศ ก็จะช่วยให้การใช้งานมีอายุการใช้งานที่ยาวนานและปลอดภัย โดย เกลียว NPT ที่มีการซีลที่แน่นหนาจะป้องกันการรั่วซึมจากน้ำหรือฝุ่นได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง ขณะที่ เกลียว PG และ เมตริก อาจเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมทั่วไปที่ไม่ต้องการการซีลที่เข้มข้นมากนัก แต่ยังคงรักษาความปลอดภัยในการติดตั้งได้อย่างมีประสิทธิภาพ.ดังนั้น การเลือกเกลียวที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและสะดวก แต่ยังช่วยให้การทำงานในระยะยาวมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าในระยะยาว เพราะหากการติดตั้ง ถูกต้องตั้งแต่แรก จะทำให้ระบบมีความเสถียรและลดความเสี่ยงจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น การขัดข้องของสายไฟหรือการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ที่อาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ นอกจากนี้ การเลือกเกลียวที่เหมาะสมยังสามารถช่วยยืดอายุการใช้งานสายไฟ เนื่องจากการยึดเกาะที่ดีและการป้องกันจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ช่วยลดการสึกหรอและการกัดกร่อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในระยะยาว
ความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้า
การเข้าสายไฟด้วยเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสมีความสำคัญในการป้องกันและจัดระเบียบระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด:
- ป้องกันการเสื่อมสภาพของสายไฟ: การใช้งานช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ฉนวนเสื่อมสภาพ เช่น ความชื้นหรือสารเคมี ซึ่งสามารถลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรได้
- ยึดสายไฟให้มั่นคง: สามารถยึดสายไฟให้แน่นหนาและมั่นคงในที่ตั้งต่างๆ เช่น ตู้ไฟฟ้า หรือพื้นที่การติดตั้งที่มีการเคลื่อนไหวหรือสั่นสะเทือน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดการเสียหายจากการดึง
- รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน: ด้วยการผลิตจากวัสดุสแตนเลสที่ทนทานต่อการกัดกร่อน จึงเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความชื้นสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือพื้นที่กลางแจ้ง
- ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร: การใช้งานสามารถช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรที่อาจเกิดขึ้นจากการสัมผัสกันระหว่างสายไฟหรือการเสื่อมสภาพของฉนวนสายไฟ โดยการยึดสายให้แน่น
- ติดตั้งง่ายและยืดหยุ่น: มีความยืดหยุ่นในการติดตั้ง รองรับการเชื่อมต่อหลายประเภทของสายไฟและสามารถใช้งานได้กับหลายชนิดของการเดินสายไฟ
- เพิ่มความทนทานของระบบไฟฟ้า: การใช้งานช่วยเพิ่มความทนทานให้กับระบบไฟฟ้า โดยลดโอกาสเกิดการชำรุดจากปัจจัยภายนอก ช่วยให้การใช้งานระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและอายุการใช้งานที่ยาวนาน
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป เคเบิ้ลแกลนภาษาอังกฤษ (Cable Gland) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อและยึดสายไฟเข้าสู่อุปกรณ์ไฟฟ้าหรือกล่องไฟฟ้า โดยมีหน้าที่หลักในการป้องกันการรั่วไหลของน้ำ, ฝุ่น, หรือสารเคมีที่อาจเข้ามาทำให้เกิดความเสียหายต่อระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ยังช่วยยึดสายไฟให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมและรักษาความปลอดภัยในการติดตั้ง โดยมีวัสดุหลายประเภท เช่น ทองเหลือง, สแตนเลส, หรือพลาสติก และมีเกลียวหลายแบบ เช่น NPT, PG, และเมตริก ซึ่งช่วยให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมของการติดตั้ง