เคเบิ้ลแกลน pg11
(สแตนเลสสตีล)
เคเบิ้ลแกลน PG11 (สแตนเลสสตีล) เป็นอุปกรณ์สำหรับยึดและป้องกันสายไฟ ขนาดรองรับสายไฟ 5 – 10 มม. ผลิตจาก สแตนเลส SUS304 ช่วยป้องกันการกัดกร่อนและสนิม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสารเคมี ผ่านมาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดี ติดตั้งง่าย แข็งแรง ทนต่ออุณหภูมิสูง เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เคมี เครื่องจักร และงานกลางแจ้งที่ต้องการความปลอดภัยสูง เกลียวมาตรฐาน PG (Panzer-Gewinde) ที่ช่วยให้การติดตั้งสายไฟมั่นคงและแน่นหนา
"เคเบิ้ลแกลน pg11 (สแตนเลสสตีล)) "
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสและทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68
เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
รายละเอียดสินค้าเคเบิ้ลแกลน pg11 (สแตนเลสสตีล)
Cable gland PG11 (สแตนเลสสตีล) มีเกลียวมาตรฐาน PG (Panzer-Gewinde) ที่ช่วยให้การติดตั้งสายไฟมั่นคงและแน่นหนา ใช้งานได้ดีในสภาพแวดล้อมที่ต้องเผชิญกับความชื้น น้ำทะเล หรือสารเคมีที่อาจทำให้วัสดุทั่วไปเสื่อมสภาพง่า
✔ วัสดุแข็งแรง – ผลิตจาก สแตนเลสสตีล SUS304 ทนต่อการกัดกร่อนและสนิม
✔ ขนาด PG11 – รองรับสายไฟขนาด 5 – 10 มม. ติดตั้งง่ายและกระชับ
✔ ป้องกันน้ำและฝุ่น – ผ่านมาตรฐาน IP68 ใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
✔ ทนต่ออุณหภูมิสูง – ใช้งานได้ในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 100°C
✔ เหมาะสำหรับอุตสาหกรรม – ใช้ในโรงงานเคมี อาหาร เครื่องจักร และงานกลางแจ้ง
✅ ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทนต่อการกัดกร่อน
✅ งานติดตั้งกลางแจ้งที่ต้องเผชิญกับฝน ความชื้น หรือสารเคมี
✅ ระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมอาหารและยา ที่ต้องการความสะอาดและความปลอดภัยสูง
✅ งานเดินสายไฟในเครื่องจักร หรือแผงควบคุมไฟฟ้าที่ต้องการความแน่นหนาและปลอดภัย
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
วัสดุสแตนเลสสตีลเคเบิ้ลแกลน PG11 เหมาะสำหรับการใช้งานอุตสาหกรรมอาหาร
เหมาะสำหรับการใช้งานใน โรงงานเคมี ที่ต้องการวัสดุทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนสูง ใน อุตสาหกรรมอาหาร ใช้ติดตั้งในระบบไฟฟ้าที่ต้องรักษาความสะอาดและปลอดภัยจากการปนเปื้อน เครื่องจักรอุตสาหกรรม จำเป็นต้องใช้ที่แข็งแรง ทนต่อแรงสั่นสะเทือน และป้องกันสายไฟจากการเสียหาย งานกลางแจ้ง เช่น ระบบไฟฟ้าในท่าเรือ โรงงานริมทะเล หรือพื้นที่ที่ต้องสัมผัสกับน้ำและฝุ่นละอองเป็นเวลานาน ช่วยให้การติดตั้งสายไฟปลอดภัย ลดการสึกหรอ และเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า ในอุตสาหกรรมต่างๆ ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง, สารเคมี, หรือการสัมผัสกับน้ำทะเล นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการเกิดปัญหาจากการกัดกร่อนหรือการเสื่อมสภาพของวัสดุ ช่วยให้การติดตั้งสายไฟในโรงงานเคมีหรือพื้นที่ที่มีการใช้งานหนักเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย และลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของการผลิตหรือการลัดวงจรที่อาจเกิดขึ้นจากสายไฟที่เสื่อมสภาพได้ การเลือกใช้ที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจในความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้า
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก มี 2 ขนาดหลัก คือ
- ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
- ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
- GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
- AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
การทำงานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ชื่นและเสียงต่อการโดนน้ำ
การทำงานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและเสี่ยงต่อการโดนน้ำต้องมีการป้องกันที่ดีจากความชื้นและน้ำ เพื่อป้องกันการลัดวงจรและการกัดกร่อนของวัสดุ โดยการใช้เงานที่มีมาตรฐาน IP68 ช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ระบบไฟฟ้าจะต้องมีการป้องกันการซึมของน้ำที่อาจทำให้เกิดการเสียหายหรืออันตรายจากไฟฟ้า การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น เคเบิ้ลแกลน pg11 สแตนเลสหรือวัสดุที่มีการเคลือบพิเศษ จะช่วยเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมที่ชื้นและเปียกน้ำ ช่วยให้การทำงานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมดังกล่าวปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ คุณสมบัติกันน้ำและทนทานต่อสารเคมีช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับน้ำ เช่น บริเวณที่มีการใช้งานในท่าเรือ โรงงานอุตสาหกรรม หรือระบบไฟฟ้าในอุปกรณ์กลางแจ้ง ระบบไฟฟ้าที่ติดตั้งในพื้นที่ดังกล่าวต้องได้รับการป้องกันจากน้ำทะเลหรือฝนที่อาจทำให้เกิดการเสียหาย การป้องกันการกัดกร่อนยังช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อยครั้
การบำรุงรักษา เคเบิ้ลแกลนด์ PG11 (สแตนเลสสตีล)
ส่วนประกอบของ Stainless cable gland
ขนาดเกลียว PG มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ PG7 ถึง PG63
การใช้งานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับน้ำ
การใช้งานในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสกับน้ำทะเลต้องการอุปกรณ์ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง นี่คือตัวอย่าง 6 การใช้งานที่ต้องใช้เคเบิ้ลแกลน pg11 ที่เหมาะสม:
- ระบบไฟฟ้าบนเรือ: ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลถูกใช้งานในระบบไฟฟ้าของเรือเพื่อป้องกันสายไฟจากการถูกน้ำทะเลและความชื้นทำลาย ช่วยให้ระบบไฟฟ้าในเรือทำงานได้อย่างเสถียรในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- ท่าเรือและโรงงานใต้น้ำ: ในท่าเรือที่มีการเดินสายไฟในพื้นที่ที่สัมผัสกับน้ำทะเลและความชื้นสูง การใช้งานช่วยป้องกันการกัดกร่อนของสายไฟและทำให้การเดินสายไฟในพื้นที่เหล่านี้มีความปลอดภัย
- อุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมัน: ในอุตสาหกรรมการขุดเจาะน้ำมันกลางทะเล จำเป็นต้องใช้งานที่ทนทานต่อการสัมผัสกับน้ำทะเลเพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพของระบบไฟฟ้าที่ใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเค็มและรุนแรง
- โครงสร้างทะเล (Offshore platforms): การใช้งานในแพลตฟอร์มกลางทะเลช่วยให้การเดินสายไฟในโครงสร้างนี้สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลและป้องกันการเสียหายจากการสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
- การติดตั้งในท่อใต้ทะเล: ในระบบท่อใต้ทะเลที่ใช้ในการขนส่งน้ำมันและก๊าซ ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลจำเป็นสำหรับการติดตั้งสายไฟเพื่อการควบคุมและการทำงานของระบบขนส่ง
- ระบบไฟฟ้าของอุปกรณ์และเรือเดินสมุทร: ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลยังใช้ในการติดตั้งสายไฟในอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เรือเดินสมุทรและอุปกรณ์ทางทะเล ที่ต้องทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีน้ำทะเลกัดกร่อนตลอดเวลา
การเลือกใช้งานที่เหมาะสมในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับน้ำทะเลช่วยให้การทำงานของระบบไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายเหล่านี้มีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น.
การบำรุงรักษา เคเบิ้ลแกลนด์ PG11 (สแตนเลสสตีล)
การบำรุงรักษา ชช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาความปลอดภัยในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการกัดกร่อนหรือความชื้น การบำรุงรักษาที่ดีประกอบด้วยขั้นตอนดังนี้:
- ตรวจสอบการติดตั้ง: ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าติดตั้งอย่างมั่นคงและแน่นหนา โดยไม่มีการหลวม หรือเคลื่อนที่ ควรตรวจสอบการขันเกลียวอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำหรือฝุ่นเข้าไปในระบบ
- ทำความสะอาด: ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอโดยใช้ผ้าสะอาดและแห้ง เพื่อลดการสะสมของฝุ่น, สารเคมี, หรือสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดการกัดกร่อน
- ตรวจสอบการกัดกร่อน: แม้ว่าจะทำจาก สแตนเลส SUS304 แต่การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือน้ำทะเลยังสามารถทำให้เกิดการกัดกร่อนได้ ดังนั้นควรตรวจสอบสัญญาณของการกัดกร่อนและดำเนินการเปลี่ยนหรือซ่อมแซมทันทีหากพบ
- หลีกเลี่ยงการใช้งานในสภาพที่รุนแรงเกินไป: หากระบบไฟฟ้าใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีหรือความรุนแรงสูง ควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการกัดกร่อนมากขึ้น
- ทดสอบความสามารถในการกันน้ำ: ควรทดสอบระบบเพื่อให้มั่นใจว่ายังคงสามารถป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากระบบต้องการทนต่อการสัมผัสกับน้ำในระยะยาว
- ตรวจสอบการสึกหรอของวัสดุ: ควรตรวจสอบการสึกหรอของวัสดุที่ใช้ในการยึด เช่น ปะเก็น หรือแหวนยาง ซึ่งอาจเสื่อมสภาพได้เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน การเปลี่ยนส่วนที่สึกหรอจะช่วยให้การป้องกันยังคงมีประสิทธิภาพสูงสุด
ส่วนประกอบของ Stainless cable gland
ส่วนประกอบของ Stainless cable gland เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และยังช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย
1. Sealing Nut (ตัวน็อตซีล) หน้าที่: ทำหน้าที่ในการบีบอัดส่วนของซีลและโอริงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายใน
2. Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดจับสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น ไม่ให้หลุดออกเมื่อถูกดึงหรือสั่นสะเทือน
3. NBR Seal (ซีลยาง NBR) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีล ป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นละอองซึมผ่านเข้าไปภายในได้
4. Body (ตัวบอดี้) หน้าที่: เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ และยึดติดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
5. O-ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพิ่มเติม ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละออง
6. Lock Nut (น็อตล็อค) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ให้หลุดออก
การป้องกันการลัดวงจรในเคเบิ้ลแกลน pg11
ความสำคัญเพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานอย่างปลอดภัย โดยการใช้งานที่มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น (เช่น IP68) จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือฝุ่นเข้าสู่ระบบไฟฟ้า ซึ่งสามารถทำให้เกิดการลัดวงจรได้ การติดตั้งที่มั่นคงและไม่หลวมสามารถลดความเสี่ยงของการสัมผัสผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นระหว่างสายไฟและตัว การเลือกใช้วัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น สแตนเลสสตีลหรือวัสดุที่เคลือบป้องกันช่วยเพิ่มความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง การใช้งานที่มีความทนทานต่อแรงดันไฟฟ้าและกระแสสูงช่วยลดโอกาสการลัดวงจรจากการเกิดความเสียหายจากการติดตั้งหรือการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยง การตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าปลอดภัยจากการลัดวงจร
ขนาดเกลียว PG มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ PG7 ถึง PG63
ขนาดเกลียว PG (Power-Gland) มีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ PG7 ถึง PG63 โดยแต่ละขนาดเหมาะสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกัน ขนาดที่ใช้บ่อยใน Cable gland ได้แก่:
- PG7: ใช้สำหรับสายไฟขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องมือที่มีขนาดเล็ก เช่น ระบบไฟฟ้าในเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์พกพา
- PG9-PG11: นิยมใช้ในงานที่ต้องการการป้องกันไฟฟ้าและความชื้นในพื้นที่กลางๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็กถึงกลาง
- PG13.5: เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าที่ต้องการการป้องกันสูงและสายไฟขนาดกลาง เช่น ในระบบเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่มีขนาดกลาง
- PG16-PG21: ใช้กับสายไฟขนาดใหญ่และการติดตั้งในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมี
- PG29, PG36, PG42, PG48, PG63: ใช้กับสายไฟขนาดใหญ่หรือการติดตั้งในระบบไฟฟ้าที่มีความต้องการป้องกันระดับสูง เช่น ในอุตสาหกรรมหนักหรือโครงสร้างที่ต้องทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป เคเบิ้ลแกลนด์ PG11 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดและป้องกันสายไฟจากการเคลื่อนที่หรือการสัมผัสกับสิ่งแวดล้อมภายนอก โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี มีการออกแบบเพื่อให้การติดตั้งสายไฟมีความปลอดภัยและสะดวก การใช้งานในวัสดุ สแตนเลสสตีล ช่วยให้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำทะเลหรือสารเคมี เคเบิ้ลแกลนด์ PG11 มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่นที่ดี (IP66, IP68) ช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือสิ่งสกปรกเข้าไปในระบบไฟฟ้า การใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจากความชื้น เช่น โรงงานอุตสาหกรรม ท่าเรือ หรือระบบไฟฟ้าบนเรือ จะช่วยให้การทำงานของระบบไฟฟ้ามีความเสถียรและปลอดภัย