สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

Stainless cable gland
(สแตนเลส 304)

Stainless Cable Gland (สแตนเลส 304) คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดและป้องกันสายไฟในการเดินสายไฟฟ้าและระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม ผลิตจาก สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งมีคุณสมบัติทนต่อการกัดกร่อนสูง ไม่เป็นสนิมง่าย และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น โรงงานอาหาร, โรงงานเคมี, อุตสาหกรรมหนัก, พื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือสภาพแวดล้อมที่ต้องการความปลอดภัยสูง ป้องกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐาน IP68 รองรับการใช้งานในพื้นที่เปียกหรือกลางแจ้ง

"Stainless cable gland (สแตนเลส 304) "

แคตตาล็อกสินค้า🖱️

จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสและทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68

เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง

เคเบิ้ลแกลนทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน

สั่งซื้อวันนี้!  พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!

คุณสมบัติเด่นของ Stainless Cable Gland (สแตนเลส 304)

เคเบิลแกลนสแตนเลส คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดสายไฟหรือสายเคเบิลเข้ากับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือกล่องควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำ ฝุ่นละออง หรือสิ่งแปลกปลอมเข้าไปภายใน และป้องกันไม่ให้สายไฟหลุดออกจากจุดเชื่อมต่อ ทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

  • ทนทานต่อการกัดกร่อน: วัสดุสแตนเลส 304 ป้องกันสนิมและสารเคมี ผลิตจาก สแตนเลสเกรด 304 ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติโดดเด่นด้าน ความทนทานต่อการกัดกร่อนและสนิม ทำให้สามารถใช้งานได้ใน สภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมีได้โดยไม่เสื่อมสภาพง่าย จึงเหมาะสำหรับ โรงงานอาหาร, โรงงานยา, โรงงานเคมี และพื้นที่กลางแจ้ง ที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่หลากหลาย
  • กันน้ำและฝุ่นมาตรฐาน IP68: ป้องกันความเสียหายของสายไฟจากความชื้น รุ่นนี้ ผ่านมาตรฐาน IP68 ซึ่งหมายถึง สามารถป้องกันฝุ่นและน้ำได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยสามารถ กันน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร เป็นระยะเวลานาน และยังช่วยป้องกันความชื้นที่อาจส่งผลต่อสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า เหมาะสำหรับ 
  • รองรับแรงดันและอุณหภูมิสูง: ใช้งานได้ในช่วง -40°C ถึง 100°C วัสดุ สแตนเลส 304 มีความแข็งแรงสูง และสามารถทนต่ออุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด ได้ดี
หมวด สินค้าใกล้เคียง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว

การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง

Stainless cable gland การติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่กลางแจ้งหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูงควรเลือกใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานกันน้ำและฝุ่น เช่น IP68 เพื่อป้องกันความเสียหายจากน้ำและฝุ่นละออง ควรใช้ สายไฟและท่อร้อยสายที่ทนต่อสภาพอากาศ เช่น PVC หรือ EMT พร้อมซีลกันน้ำที่จุดเชื่อมต่อเพื่อลดความเสี่ยงจากความชื้น ติดตั้ง เบรกเกอร์กันไฟดูด (RCD/GFCI) เพื่อป้องกันไฟฟ้ารั่วไหล ควรวางอุปกรณ์บนตำแหน่งที่สูงกว่าพื้นดินเพื่อป้องกันน้ำขัง และหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์เป็นประจำเพื่อให้ระบบไฟฟ้าปลอดภัยและใช้งาน ทนต่อความชื้นและการกัดกร่อน เพื่อป้องกันสายไฟจากสภาพอากาศที่รุนแรง ใช้ ซิลิโคนกันน้ำหรือเทปพันสายไฟกันน้ำ บริเวณจุดเชื่อมต่อเพื่อป้องกันน้ำซึมเข้าไปในระบบ หลีกเลี่ยงการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในที่ลุ่มหรือพื้นที่ที่มีโอกาสเกิดน้ำขังสูง หากต้องติดตั้งกลางแจ้ง ควรใช้ กล่องกันน้ำ (Junction Box) พร้อมซีลยาง เพื่อเพิ่มการป้องกัน ควรตรวจสอบและทำความสะอาดอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดการสะสมของฝุ่นและความชื้น

ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole)

การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)

โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก มี 2 ขนาดหลัก คือ

  1. ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
  2. ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
  • GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
  • AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
 

ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้

ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม

ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย

Stainless Cable Gland มีความสำคัญในการติดตั้งระบบไฟฟ้า

ช่วยให้การติดตั้งระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและทนทานยาวนานขึ้น ด้วยการป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือฝุ่นที่อาจทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานผิดปกติหรือเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากวัสดุสแตนเลส 304 ไม่เพียงแค่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำหรือสารเคมีเท่านั้น แต่ยังมีความแข็งแรงและทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับความร้อนสูงหรือสภาวะที่มีการสั่นสะเทือน ช่วยให้การติดตั้งในพื้นที่กลางแจ้งหรือในอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรงเช่นโรงงานหรือภาคการผลิตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย การเลือกใช้งานในระบบไฟฟ้ายังช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือการช็อตจากน้ำหรือความชื้น ด้วยมาตรฐาน IP68 ที่ให้การป้องกันสูงสุดจากการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละออง นอกจากนี้ยังง่ายต่อการติดตั้งและสามารถปรับให้เข้ากับขนาดและประเภทของสายไฟได้อย่างเหมาะสม

Stainless Cable Gland มีหลายขนาดหลากหลาย

ส่วนประกอบของ Stainless cable gland

การใช้งานร่วมกับกล่องกันน้ำ (Junction Box)

วิธีการติดตั้งเคเบิลแกลนสแตนเลส (Stainless Cable Gland)

การติดตั้ง เคเบิ้ลแกลนสแตนเลส จำเป็นต้องดำเนินการอย่างรอบคอบเพื่อให้มั่นใจว่าสายไฟถูกยึดแน่นหนา ป้องกันน้ำและฝุ่นละออง รวมถึงป้องกันการสั่นสะเทือนและความเสียหายจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ดังนี้คือขั้นตอนการติดตั้งอย่างละเอียด:

  • 1. เลือกขนาดของเคเบิลแกลนด์ ตรวจสอบขนาดของ สายไฟ ที่ใช้และเลือกขนาด ที่เหมาะสมกับเส้นผ่าศูนย์กลางของสายไฟ โดยทั่วไปจะมีการระบุขนาดที่ตรงกับ M Thread, NPT Thread หรือ PG Thread ที่ใช้งาน
  • 2. เตรียมพื้นที่ติดตั้ง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าพื้นที่ติดตั้งและการเชื่อมต่อสายไฟสะอาด ไม่มีฝุ่นหรือสิ่งสกปรก
    หากติดตั้งในกล่องไฟหรือ Junction Box, ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกกล่องที่มีขนาดและมาตรฐาน IP68 ที่สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้
  • 3. การเตรียมสายไฟ ตัดสายไฟ ตามความยาวที่ต้องการและ ปลอกสายไฟ ให้เหลือเฉพาะส่วนที่จำเป็นต้องใช้
    หากมีการใช้สายไฟชนิดมีฉนวน ต้อง ถอดฉนวนออก เฉพาะบริเวณที่เชื่อมต่อกับปลายสายไฟควร สะอาดและเรียบ เพื่อการติดตั้งที่มีประสิทธิภาพ
  • 4. การติดตั้งเคเบิลแกลนด์ ใส่สายไฟ โดยเริ่มจากปลายท่อและให้แน่ใจว่าสายไฟเดินเข้าไปในตัวแกลนด์ได้พอดีขันแหวนบีบ (Compression Ring) ให้แน่นเพื่อยึดสายไฟในตำแหน่งที่ถูกต้อง โดยไม่หลวมเกินไปเพื่อหลีกเลี่ยงการสั่นสะเทือน แต่ก็ไม่ควรขันแน่นเกินไปจนทำให้สายไฟเสียหาย ถ้ามี ซีลยางกันน้ำ อยู่ในตัวแกลนด์ (โดยเฉพาะในมาตรฐาน IP68) ให้ ยึดซีล อย่างถูกต้องเพื่อป้องกันน้ำหรือความชื้นจากการเข้าสู่สายไฟ
  • 5. การยึดติดเคเบิลแกลนด์ในตำแหน่ง หากติดตั้ง ในกล่องไฟ (Junction Box) หรือในอุปกรณ์ไฟฟ้า ให้ ยึดให้แน่น โดยการขันน็อตหรือสกรูที่มาพร้อมกับตัวแกลนด์เพื่อให้มันมั่นคงและไม่หลุดออกจากจุดติดตั้ง
    ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ถูกยึดแน่นและมีการป้องกันความชื้นตามมาตรฐาน IP68 หรือที่คุณต้องการ

Stainless Cable Gland มีหลายขนาดหลากหลาย

ขนาดและรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย โดยท่อเหล่านี้ได้รับการออกแบบเพื่อให้รองรับการติดตั้งใน งานกลางแจ้ง, พื้นที่ที่มีความชื้น, หรือสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานสูง รวมถึงมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในหลายการใช้งาน เช่น:

  • ขนาดตั้งแต่ ½ นิ้วถึง 4 นิ้ว และสามารถรองรับทั้ง M Thread, NPT Thread, และ PG Thread ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทนทานต่อการกัดกร่อนจาก สารเคมี, น้ำ, หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากวัสดุ สแตนเลส 304 มีคุณสมบัติป้องกันการเกิดสนิมได้ดี
  • กันน้ำและฝุ่นได้ตามมาตรฐาน IP68 ช่วยป้องกันความเสียหายของสายไฟจากความชื้นและฝุ่น
  • รองรับ อุณหภูมิ -40°C ถึง 100°C ทำให้สามารถใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำ
  • ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว พร้อมฟังก์ชันการจับสายที่แน่นหนา ช่วยลดการสั่นสะเทือนของสายไฟ

การเลือกขนาดของ Stainless Cable Gland จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เหมาะสมกับขนาดสายไฟและการติดตั้งในพื้นที่ต่างๆ ทั้งในงาน อุตสาหกรรม, ระบบไฟฟ้า, และการใช้งานในอาคาร

ส่วนประกอบของ Stainless cable gland

ส่วนประกอบของ Stainless cable gland เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และยังช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้อีกด้วย 

1. Sealing Nut (ตัวน็อตซีล) หน้าที่: ทำหน้าที่ในการบีบอัดส่วนของซีลและโอริงให้แน่นสนิท เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายใน
2. Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดจับสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น ไม่ให้หลุดออกเมื่อถูกดึงหรือสั่นสะเทือน
3. NBR Seal (ซีลยาง NBR) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีล ป้องกันไม่ให้น้ำและฝุ่นละอองซึมผ่านเข้าไปภายในได้
4. Body (ตัวบอดี้) หน้าที่: เป็นส่วนประกอบหลักที่ทำหน้าที่รองรับส่วนประกอบอื่น ๆ และยึดติดกับอุปกรณ์ไฟฟ้า

5. O-ring (โอริง) หน้าที่: ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพิ่มเติม ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละออง 
6. Lock Nut (น็อตล็อค) หน้าที่: ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า ไม่ให้หลุดออก

การตรวจสอบความสะอาดของ ซีลยาง และ ตัวอุปกรณ์ทั้งหมด

ก่อนการติดตั้ง Stainless cable gland (สแตนเลส 304) เป็นขั้นตอนสำคัญในการป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือความชื้น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือในระบบที่ต้องการความทนทานต่อการรั่วซึม เช่น กล่องไฟ (Junction Box) หรือ ท่อไฟฟ้า หากมีฝุ่น สกปรก หรือสารตกค้างที่ซีลหรืออุปกรณ์ จะทำให้การซีลไม่แน่นพอและเสี่ยงต่อการรั่วซึม การทำความสะอาดซีลยางด้วยผ้าสะอาดหรือแอลกอฮอล์ช่วยให้มั่นใจว่าไม่มีสิ่งปนเปื้อนที่จะขัดขวางการทำงานของซีล นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่าซีลยางไม่มีรอยแตกหรือล้าสมัยเพื่อให้สามารถป้องกันน้ำและฝุ่นได้เต็มประสิทธิภาพ การตรวจสอบซีลยางและอุปกรณ์ก่อนการติดตั้งไม่เพียงแค่ช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำ แต่ยังช่วยเพิ่มความทนทานของระบบไฟฟ้าในระยะยาว การทำความสะอาดซีลยางอย่างระมัดระวังจะช่วยให้มันทำงานได้ตามมาตรฐาน IP68 หรือมาตรฐานกันน้ำที่ต้องการ นอกจากนี้การตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีการบิดงอหรือเสียหายของซีลยางในระหว่างการติดตั้งช่วยลดโอกาสที่น้ำจะเข้าไปในระบบ

การใช้งานร่วมกับกล่องกันน้ำ (Junction Box)

การใช้งานร่วมกับกล่องกันน้ำ (Junction Box) ที่มีมาตรฐาน IP68 ช่วยป้องกันน้ำ ฝุ่น และความชื้นจากสภาพแวดล้อมภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการใช้ Cable Gland ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เช่น สแตนเลส 304 หรือพลาสติก PA66 ช่วยปกป้องจุดเชื่อมต่อสายไฟจากน้ำและความชื้น กล่องกันน้ำช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งหรือที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือโครงสร้างกลางแจ้งที่ต้องการการป้องกันที่ดีจากน้ำและความชื้น รวมถึงช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าและลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

  • ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างสมบูรณ์ – กล่องกันน้ำที่มีมาตรฐาน IP68 สามารถป้องกันน้ำ ฝุ่น และความชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ติดตั้งในพื้นที่กลางแจ้งที่เจอกับฝนหรือสภาพอากาศเปียกชื้น
  • ปกป้องสายไฟและจุดเชื่อมต่อ – การใช้ Stainless cable gland (สแตนเลส 304)หรือพลาสติก PA66 IP68 ร่วมกับ Junction Box ช่วยป้องกันสายไฟจากน้ำ ความชื้น และการสึกกร่อน ทำให้ระบบไฟฟ้าปลอดภัย
  • รองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง – กล่องกันน้ำ IP68 สามารถติดตั้งในพื้นที่ที่มี ฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง หรือแม้แต่จุ่มน้ำลึกชั่วคราว ได้โดยไม่ทำให้ระบบไฟฟ้าเสียหาย
  • ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า – Junction Box IP68 ช่วยลดโอกาสที่ความชื้นจะเข้าสู่จุดเชื่อมต่อสายไฟ ทำให้ระบบมีความเสถียร ลดการซ่อมบำรุง และช่วยให้อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้งานได้นานขึ้น
หมวด สินค้าประจำหมวด

Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ

อธิบายสรุป Stainless Cable Gland (สแตนเลส 304) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อยึดและปกป้องสายไฟจากสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือสัมผัสกับสารเคมี ผลิตจาก สแตนเลส 304 ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและการเกิดสนิม ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานในระยะยาว มีความสามารถในการรองรับแรงดันและอุณหภูมิสูง โดยสามารถใช้งานในช่วงอุณหภูมิ -40°C ถึง 100°C นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติป้องกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP68 ซึ่งทำให้การติดตั้งปลอดภัยในพื้นที่ที่มีการสัมผัสน้ำหรือสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่น อีกทั้งมีหลากหลายขนาดและเกลียว เช่น M Thread, PG Thread และ NPT Thread เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในทุกประเภทของการติดตั้งระบบไฟฟ้า

Scroll to Top