ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE
Flex กันน้ำ
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE คือ ท่อที่ทำจากวัสดุโพลีเอไมด์ (PA) และโพลีเอทิลีน (PE) ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหมาะสมในการป้องกันสายไฟจากการสัมผัสกับอันตรายต่างๆ เช่น การขูดขีด การเสียดสี หรือการกัดกร่อนจากสารเคมีและสิ่งแวดล้อม ท่อชนิดนี้มีลักษณะเป็นลูกฟูก ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถดัดโค้งได้ง่าย และช่วยให้การติดตั้งในพื้นที่จำกัดหรือสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวเป็นไปได้สะดวก ใช้สำหรับการปกป้องสายไฟจากอันตรายภายนอกและช่วยจัดระเบียบการเดินสายไฟในสภาพแวดล้อมต่างๆ
" ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE | Fex กันน้ำ "
จำหน่ายท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE
ท่อร้อยสายไฟ PA/PE คุณภาพสูงที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการของงานติดตั้งสายไฟในโครงการอุตสาหกรรมและงานก่อสร้าง โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้ ผลิตจากวัสดุ PA/PE คุณภาพสูง ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนออกแบบให้มีความยืดหยุ่นสูงสำหรับงานร้อยสายไฟในพื้นที่ที่เข้าถึงยากมีคุณสมบัติกันน้ำและกัน UV เหมาะสำหรับการติดตั้งทั้งในร่มและกลางแจ้ง ท่อเหล่านี้เหมาะสำหรับการร้อยสายไฟในอาคารหรือโรงงานที่ต้องการการป้องกันจากการถูกบีบอัด, การขูดขีด, หรือแรงกระแท เรามุ่งเน้นให้บริการด้วยสินค้าคุณภาพ ติดต่อเราเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและรับข้อเสนอพิเศษสำหรับโครงการของคุณได้ทันที!
คุณสมบัติท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA/PE Flexible Conduit
เป็นท่อที่มีคุณสมบัติทนทานและเหมาะสำหรับการใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อม โดยเฉพาะในการปกป้องสายไฟจากการเสื่อมสภาพจากแรงกระแทก, ความร้อน, และสารเคมีต่างๆ
คุณสมบัติเด่นของท่อเฟล็กซ์ PA-PE:
- วัสดุทนทาน: ผลิตจากโพลีเอไมด์ (PA) และโพลีเอทิลีน (PE) ซึ่งมีความทนทานต่อแรงดึง, แรงกระแทก, และการกัดกร่อนจากสารเคมี
- ยืดหยุ่นสูง: สามารถดัดโค้งงอได้ง่าย ทำให้ติดตั้งในพื้นที่จำกัดสะดวกและรวดเร็ว
- ทนทานต่ออุณหภูมิ: รองรับอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำได้อย่างดี เหมาะสำหรับงานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ
- การป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร: ช่วยลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน
- เหมาะสำหรับงานหลายประเภท: สามารถใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, ระบบไฟฟ้าในโรงงาน, งานติดตั้งภายในอาคาร, และการใช้งานภายนอกอาคาร
การใช้งานและประโยชน์ของท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE
- อุตสาหกรรมไฟฟ้า: ใช้ร้อยสายไฟในระบบไฟฟ้าภายในอาคาร โรงงาน หรือระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร ช่วยให้การติดตั้งสายไฟปลอดภัยจากแรงกระแทก, ความร้อน และสารเคมีต่างๆ
- ระบบเครื่องจักรและอุตสาหกรรมหนัก: แรงดึงและการกระแทก ทำให้มันเหมาะสมในการใช้งานกับเครื่องจักรที่ต้องการท่อที่แข็งแรงและทนทาน
- อุตสาหกรรมยานยนต์: ใช้ในระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ เช่น สายไฟในระบบไฟฟ้าและระบบสัญญาณต่างๆ
- การใช้งานภายในอาคาร: ใช้ร้อยสายไฟในพื้นที่จำกัด เช่น ห้องที่มีการจัดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า หรือระบบไฟฟ้าในอาคารที่มีรูปทรงซับซ้อน
- การใช้งานภายนอกอาคาร: มีคุณสมบัติทนต่ออุณหภูมิและความชื้น ซึ่งทำให้มันสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร เช่น งานอุตสาหกรรมที่สัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
- งานดูแลรักษา: ช่วยให้การติดตั้ง, การซ่อมแซม และการบำรุงรักษาง่ายขึ้น โดยการเปิดหรือปิดท่อสามารถทำได้ง่ายโดยไม่ต้องตัดหรือต่อสายไฟใหม่
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
คุณสมบัติทนความร้อนได้ดีของท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE
คุณสมบัติทนความร้อนได้ดี สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ถึง 90°C หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับชนิดและการใช้งาน ซึ่งเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีการเกิดความร้อนจากการใช้งานไฟฟ้า ท่อชนิดนี้ช่วยป้องกันไม่ให้สายไฟได้รับความเสียหายจากอุณหภูมิที่สูงเกินไป อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นในการติดตั้งที่ช่วยให้การใช้งานในพื้นที่จำกัดเป็นไปได้สะดวก ทนทานต่อความร้อนจากเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่อาจทำให้เกิดความร้อนสูงภายในระบบไฟฟ้า เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมหรือเครื่องจักรที่ทำงานหนัก ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีการหลอมละลายหรือเสื่อมสภาพของท่อในขณะใช้งาน อีกทั้งยังสามารถทนความร้อนได้โดยไม่สูญเสียคุณสมบัติความยืดหยุ่นและความแข็งแรง ซึ่งช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยสูงขึ้นและยืดอายุการใช้งานของทั้งท่อและสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA ที่ผสมสารกัน UV
ท่ออ่อนลูกฟูก PA เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง เพราะสารกัน UV จะช่วยป้องกันไม่ให้ท่อเกิดการเสื่อมสภาพจากการสัมผัสกับแสงแดดและรังสี UV ซึ่งมักจะทำให้ท่อพลาสติกประเภทอื่นๆ เช่น PE เสื่อมสภาพและแตกหักได้ง่าย ท่อ PA ที่มีคุณสมบัติกัน UV จึงสามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมกลางแจ้งได้ดี และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าท่อ PE ที่ไม่มีการเคลือบสารกัน UV ช่วยเพิ่มความมั่นใจในความทนทานของท่อในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนและแสงแดดตลอดเวลา เนื่องจากท่อไม่เสื่อมสภาพเร็วจากแสงแดดและความร้อน การใช้งานในพื้นที่กลางแจ้งจึงสามารถวางใจได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการเปลี่ยนท่อบ่อยครั้ง นอกจากนี้ ท่อ PA ยังมีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนที่หรือการสั่นสะเทือนสูง เช่น ในการใช้งานในโรงงานหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการปกป้องสายไฟทั้งภายในและภายนอกอาคาร
การใช้งานภายในและภายนอกอาคารของท่อเฟล็กซืร้อยสายไฟ
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟยังช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาง่ายขึ้น
อุปกรณ์เชื่อมต่อท่ออ่อนร้อยสายไฟ
คุณสมบัติท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟที่ทำจาก PA (Polyamide) และ PE (Polyethylene)
1. ความทนทานต่ออุณหภูมิ
PA (Polyamide): ท่อ PA สามารถทนทานต่ออุณหภูมิที่สูงกว่า PE โดยมีช่วงอุณหภูมิการใช้งานประมาณ -40°C ถึง 120°C และทนได้ถึง 150°C ในระยะเวลาสั้นๆ ซึ่งเหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูงหรือต้องการทนต่ออุณหภูมิสูงในระยะสั้น
- PE (Polyethylene): ท่อ PE มีความทนทานต่ออุณหภูมิในช่วง -50°C ถึง 80°C โดยไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้มากนัก แต่จะมีความทนทานดีในอุณหภูมิที่ไม่สูงเกินไป
2. ความยืดหยุ่นและความแข็งแรง
- PA (Polyamide): ท่อ PA มีความยืดหยุ่นสูงมากและสามารถคืนรูปได้ดีเมื่อถูกกดทับหรือโค้งงอ ทำให้ท่อสามารถรองรับแรงกระแทกและแรงดึงได้ดี
- PE (Polyethylene): ท่อ PE มีความยืดหยุ่นสูง แต่จะค่อนข้างนิ่มกว่าท่อ PA ซึ่งทำให้ท่อ PE เหมาะกับงานที่ไม่ต้องการความแข็งแรงสูงมากนัก
3. การต้านทานการกัดกร่อน
- PA (Polyamide): ท่อ PA ทนทานต่อสารเคมีหลายชนิด เช่น กรดและด่างบางประเภท รวมถึงการกัดกร่อนจากสารเคมีในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม
- PE (Polyethylene): ท่อ PE ทนทานต่อสารเคมีบางชนิด แต่ไม่ทนเท่ากับ PA โดยมักใช้ในพื้นที่ที่ไม่ได้สัมผัสสารเคมีรุนแรง
4. คุณสมบัติการป้องกันไฟลาม
- PA (Polyamide): ท่อ PA มีคุณสมบัติการป้องกันไฟลามที่ดี โดยสามารถทนไฟได้ตามมาตรฐาน UL 94 V-0 หรือ V-2 ซึ่งทำให้ท่อ PA ปลอดภัยต่อการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้
- PE (Polyethylene): ท่อ PE มักจะไม่มีคุณสมบัติการป้องกันไฟลามที่ดีเท่าท่อ PA ซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อไฟ
5. ความทนทานต่อรังสียูวี
- PA (Polyamide): ท่อ PA สามารถผสมสารกัน UV เพื่อให้สามารถใช้งานกลางแจ้งได้ดี ทนทานต่อรังสียูวี และยาวนานกว่า PE ในการใช้งานกลางแจ้ง
- PE (Polyethylene): ท่อ PE จะเสื่อมสภาพจากการได้รับรังสียูวี หากใช้งานกลางแจ้งโดยไม่มีกระบวนการเคลือบสารกัน UV ทำให้เสี่ยงต่อการเปราะแตกและการเสื่อมสภาพเร็ว
6. การใช้งานในสภาพแวดล้อม
- PA (Polyamide): ท่อ PA มักใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวหรือการสั่นสะเทือนสูง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากมีความทนทานและสามารถรองรับแรงกระแทกได้ดี
- PE (Polyethylene): ท่อ PE มักใช้ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ต้องรับแรงกระแทกหรือแรงดึงสูง เช่น งานสายไฟภายในอาคารหรือระบบน้ำในพื้นที่ทั่วไป
การใช้งานภายในและภายนอกอาคารของท่อเฟล็กซืร้อยสายไฟ
ด้วยคุณสมบัติที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น การทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี และความสามารถในการทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับการเดินสายไฟที่ต้องการการปกป้องสายไฟจากฝุ่น ความชื้น และการทำลายจากแรงภายนอก
- ภายในอาคาร: ท่อ PA-PE ใช้ในการร้อยสายไฟในระบบไฟฟ้าภายในอาคาร เช่น สายไฟในเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือการเดินสายไฟที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงเพื่อรองรับการติดตั้งในพื้นที่จำกัดหรือมีการเคลื่อนที่
- ภายนอกอาคาร: ท่อ PA สามารถทนทานต่อสภาพอากาศที่รุนแรงและทนต่อรังสียูวี ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร เช่น การเดินสายไฟในสวน อาคารนอกบ้าน หรือโครงสร้างภายนอกที่ต้องเผชิญกับสภาพอากาศและแสงแดด
ท่อร้อยสายไฟ PA ผสมสารกัน UV ทำให้ท่อมีความทนทานต่อแสงแดดและการเสื่อมสภาพจากรังสี UV ได้ดีขึ้น จึงเหมาะสำหรับการใช้งานภายนอกอาคาร โดยสามารถป้องกันการแตกหักหรือเสื่อมสภาพที่เกิดจากแสงแดดและสภาพอากาศที่รุนแรง การผสมสารกัน UV ในท่อ PA ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของท่อให้ยาวนานขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับแสงแดดโดยตรงหรือลมที่แรง
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟยังช่วยให้การติดตั้งและบำรุงรักษาง่ายขึ้น
เนื่องจากท่อเฟล็กซ์กันน้ำความยืดหยุ่น สามารถดัดโค้งตามพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ยังช่วยให้การจัดการสายไฟภายในเครื่องจักรเป็นระเบียบ ไม่เกะกะ ซึ่งลดโอกาสที่สายไฟจะถูกทำลายจากการถูกกระทบกระแทกหรือติดขัดในระหว่างการทำงาน ท่อ PA-PE ยังทนทานต่ออุณหภูมิสูงและแรงดึง ทำให้มั่นใจได้ว่าสายไฟภายในท่อจะได้รับการปกป้องจากการเสื่อมสภาพและอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งาน
คุณสมบัติในการทนต่อสารเคมีและความชื้น ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้สารเคมีหรือความชื้นซึมเข้ามาทำลายสายไฟภายในท่อ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับสารเคมีหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เช่น ในอุตสาหกรรมการผลิตหรือการใช้งานในพื้นที่กลางแจ้ง ท่อชนิดนี้จึงเหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการการปกป้องสูงและมีความทนทานในการรับแรงกระแทกและการเสียดสีในระหว่างการใช้งาน
ท่อเฟล็กซ์โดยรวม: โดยทั่วไปแล้ว ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟจะสามารถ บิดคืนรูป ได้ในระดับที่ดีตามชนิดของวัสดุที่ใช้ผลิต ท่อที่ทำจากวัสดุ PA จะมีความสามารถในการบิดคืนรูปดีกว่า PE ซึ่งจะเหมาะสมสำหรับงานที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงและการคืนรูปที่รวดเร็วหลังจากการดัดหรือบิดท่อ
ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE ท่อเฟล็กซ์กันน้ำ(Flexible Duct)
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบมาให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอและปรับเปลี่ยนรูปทรงได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายอากาศ การส่งลมร้อน-เย็น และการดูดควันในโรงงานอุตสาหกรรม วัสดุที่ใช้ผลิตมีหลายประเภท เช่น อลูมิเนียม, โพลีเอสเตอร์, PVC, และ PU โดยแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน เช่น ทนความร้อน, ทนไฟ, ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟฟ้าสถิต ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม มีให้เลือกทั้งแบบเสริมลวดสปริงเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและแบบไม่มีลวดเพื่อความเบาและยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ในระบบระบายอากาศของอาคาร, โรงงานอุตสาหกรรม, ระบบดูดควัน, ระบบปรับอากาศ (HVAC) และระบบส่งลมในเครื่องจักร ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ผลิต ท่อบางชนิดสามารถทนความร้อนได้สูงถึง 250°C และบางประเภทสามารถกันไฟลาม (Flame Retardant) ได้ตามมาตรฐาน UL94 ความยืดหยุ่นของท่อช่วยให้ติดตั้งง่ายในพื้นที่แคบหรือมีการโค้งงอของแนวท่อได้ดี
อุปกรณ์เชื่อมต่อท่ออ่อนร้อยสายไฟ
อุปกรณ์เชื่อมต่อท่อพลาสติกแบบยืดหยุ่น ที่ใช้สำหรับติดตั้งระบบท่อต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบท่อที่ต้องการความยืดหยุ่นในการติดตั้ง เช่น ระบบท่อสำหรับเดินสายไฟ สายเคเบิล หรือท่อน้ำเล็กๆ
Plastic Pipe Mounting Flexible Bracket: เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดท่อพลาสติกให้ติดกับพื้นผิวต่างๆ โดยมีลักษณะเป็นแผ่นยึดที่สามารถยืดหยุ่นได้ ทำให้สามารถปรับทิศทางหรือองศาของท่อได้ตามต้องการ
Quick Connector: เป็นข้อต่อที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกเข้าด้วยกันอย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติม ทำให้การติดตั้งท่อเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว
90° Elbow Quick Connector: เป็นข้อต่อที่มีลักษณะโค้ง 90 องศา ใช้สำหรับเปลี่ยนทิศทางของท่อพลาสติก ช่วยให้การเดินท่อในมุมต่างๆ เป็นไปได้สะดวก
Waterproof Corrugated Tubing Fittings: เป็นข้อต่อที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกชนิดร่อง (Corrugated) ซึ่งมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือมีน้ำ
90° Watertight Corrugated Tubing Fittings: เป็นข้อต่อแบบโค้ง 90 องศา ที่ใช้เชื่อมต่อท่อพลาสติกชนิดร่อง โดยมีคุณสมบัติกันน้ำได้ดี ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือความเปียกได้อย่างปลอดภัย.
Flexible Duct Hose หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)
อธิบายสรุป ท่อเฟล็กซ์ร้อยสายไฟ PA-PE เป็นท่อที่ประกอบด้วยวัสดุ Polyamide (PA) และ Polyethylene (PE) ซึ่งมีคุณสมบัติการใช้งานที่หลากหลาย โดยท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในการปกป้องสายไฟในสภาพแวดล้อมต่างๆ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ด้วยความยืดหยุ่นสูง ทนทานต่อการกัดกร่อนและสารเคมี รวมถึงทนต่ออุณหภูมิสูงและการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติในการป้องกันไฟลามและการเสื่อมสภาพจากรังสียูวี ทำให้ท่อ PA-PE เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความทนทานในระยะยาวและสามารถรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทาย เช่น การใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ยานยนต์ และการเดินสายไฟภายนอกอาคาร