เคเบิ้ลแกลนราคา
(สแตนเลสสตีล)
เคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล) มีราคาหลายระดับขึ้นอยู่กับขนาดและวัสดุที่ใช้ ขนาดเล็กอย่าง 1/2 นิ้ว หรือ 3/4 นิ้ว จะมีราคาประมาณ 300 - 500 บาท ขณะที่ขนาดใหญ่ขึ้น เช่น 1 นิ้ว หรือ 2 นิ้ว ราคาจะสูงขึ้นอยู่ที่ 1000 - 1500 บาท ขึ้นอยู่กับประเภทของสแตนเลส เช่น สแตนเลส 304 ที่มีราคาไม่สูงมาก แต่ สแตนเลส 316 ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจะมีราคาสูงกว่า 20-30% การเลือกซื้อควรพิจารณาจากสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น ความชื้นหรือการสัมผัสกับสารเคมีเพื่อให้ได้สินค้าที่ทนทานและเหมาะสมที่สุด
"เคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล)"
จำหน่ายเคเบิ้ลแกลนสแตนเลสและทองเหลืองชุบนิกเกิ้ล IP68
Cable gland stainless steel
✅ ผลิตจากสแตนเลสเกรดคุณภาพ แข็งแรง ทนต่อการกัดกร่อน
✅ ทนต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นสูง หรือสารเคมี
✅ มาตรฐาน IP68 ป้องกันน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
💡 เหมาะสำหรับ: ระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม และงานกลางแจ้ง
Cable gland nickel plated brass
✅ โครงสร้างทำจากทองเหลืองชุบด้วยนิกเกิ้ล ทนต่อสนิมและการกัดกร่อน
✅ ใช้งานง่าย รองรับเกลียวหลายประเภท เช่น PG, NPT, และ M-Thread
✅ มาตรฐาน IP68 ให้การปกป้องสูงสุดในทุกสภาพแวดล้อม
💡 เหมาะสำหรับ: งานติดตั้งสายไฟในอาคาร โรงงาน และพื้นที่ที่ต้องการความทนทาน
สั่งซื้อวันนี้! พร้อมจัดส่งทั่วประเทศในราคาพิเศษ!
คุณสมบัติของเคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล)
คุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ, สารเคมี, และความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น โรงงานเคมีหรือพื้นที่ใกล้น้ำทะเล นอกจากนี้ยังทนต่ออุณหภูมิสูงและแรงกดดันได้ดี ช่วยยึดสายไฟให้แน่นและป้องกันการรั่วซึมของน้ำหรือสารเคมีจากภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ทนทานต่อการกัดกร่อน: ทำจากสแตนเลสที่มีคุณสมบัติในการทนต่อการกัดกร่อนจากสารเคมี น้ำ และความชื้น ทำให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความท้าทายสูง เช่น ในโรงงานเคมี หรือพื้นที่ใกล้น้ำทะเล
- ทนต่ออุณหภูมิสูง: สแตนเลสสตีลสามารถทนต่ออุณหภูมิที่สูงกว่าหรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่รุนแรงได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีอุณหภูมิสูงหรือการติดตั้งในพื้นที่ที่มีความร้อน
- ความแข็งแรงสูง: สแตนเลสสตีลมีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดดัน การบีบ หรือการเสียดสี ช่วยให้มั่นใจได้ว่าสายไฟจะถูกยึดแน่นและไม่หลุดออกจากระบบ
- ป้องกันการรั่วซึม: สามารถป้องกันน้ำ, ฝุ่นละออง, หรือสารเคมีจากภายนอกเข้าสู่ระบบไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีซีลยางหรือโอริงที่ทำงานร่วมกัน
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง: เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงทางเคมีหรือในพื้นที่กลางแจ้งที่มีการสัมผัสกับสภาพอากาศ เช่น ฝนหรือแสงแดด
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
การเลือกซื้อเคเบิ้ลแกลนราคา สแตนเลสสตีล
ควรพิจารณาวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน เช่น สแตนเลส 307 สำหรับพื้นที่ที่มีการกัดกร่อน, ขนาดที่ตรงกับสายไฟ และมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น เช่น IP68 เพื่อป้องกันการรั่วซึม ทำความสะอาดและตรวจสอบสภาพการใช้งานอย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งตรวจสอบความเสียหายและเปลี่ยนอะไหล่ทันทีหากพบปัญหา เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความปลอดภัยและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม: เลือกวัสดุที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น สแตนเลส 304 หรือ สแตนเลส 316 ซึ่งมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีและความชื้น ขนาดที่ตรงกับสายไฟ: ตรวจสอบขนาดให้เหมาะสมกับขนาดของสายไฟที่ใช้งาน เพื่อให้การยึดสายทำได้อย่างแน่นหนาและปลอดภัย
การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)
โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก มี 2 ขนาดหลัก คือ
- ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
- ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
- GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
- AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
ขั้นตอนการติดตั้งเคเบิ้ลแกลน (Cable Gland)
ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้
ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ
ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม
ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายเคเบิ้ลเข้าไปในเคเบิลแกลนอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย
การดูแลรักษาเคเบิ้ลแกลนราคา สแตนเลสสตีล
การดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญเพื่อรักษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้า ควรตรวจสอบการติดตั้งและความสมบูรณ์ของ Cable gland อย่างสม่ำเสมอ เช่น การตรวจสอบซีลยางที่ใช้ป้องกันการรั่วซึม และตรวจสอบให้มั่นใจว่าไม่มีการกัดกร่อนหรือเสียหายที่อาจทำให้เกิดปัญหาในระยะยาว ในกรณีที่พบความเสียหาย ควรทำการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอันตรายหรือการทำงานที่ไม่เต็มประสิทธิภาพ นอกจากนี้ควรให้ความสำคัญกับการเลือกที่มีคุณสมบัติการทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่หลากหลาย เช่น ความชื้นสูง, การสัมผัสกับสารเคมี, หรืออุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงมากๆ เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยในระยะยาว การติดตั้งควรให้แน่ใจว่ายึดสายไฟแน่นหนาและไม่มีการเคลื่อนที่ ซึ่งจะช่วยป้องกันการชำรุดของสายไฟหรืออุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบว่ามีการป้องกันการรั่วซึมที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น ระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมหรือในที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมี.
ขนาดของเคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล)
การใช้เคเบิ้ลแกลนช่วยให้การเข้าสายไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น
คุณสมบัติยึดสายไฟให้มั่นคง Cable gland stainless steel
ขนาดของเคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล)
ขนาดที่แตกต่างกันเหมาะกับประเภทและขนาดของสายไฟที่แตกต่างกัน การเลือกขนาดที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งมีความมั่นคงและปลอดภัย โดยขนาดเล็ก เช่น 1/2 นิ้ว เหมาะสำหรับสายไฟขนาดเล็กในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก ขนาดกลาง เช่น 3/4 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้งานในอาคารหรือเครื่องจักร ขนาดใหญ่ เช่น 1 นิ้ว ถึง 2 นิ้ว เหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานหรือระบบไฟฟ้าที่มีพลังงานสูง ขนาดใหญ่สุด เช่น 3 นิ้ว ใช้กับสายไฟขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมหรือสถานีไฟฟ้า
- ขนาด 1/2 นิ้ว (12.7 มม.): ใช้สำหรับติดตั้งสายไฟขนาดเล็ก 2.5mm² ถึง 6mm² ในตู้สแตนเลส สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น ระบบไฟฟ้าในบ้าน หรืออุปกรณ์สำนักงาน
- ขนาด 3/4 นิ้ว (19 มม.): ใช้สำหรับสายไฟขนาดกลาง 6mm² ถึง 10mm² ใน ตู้ไฟฟ้าที่ใช้ในเครื่องจักรขนาดเล็กหรือระบบไฟฟ้าในอาคาร
- ขนาด 1 นิ้ว (25.4 มม.): ใช้สำหรับสายไฟขนาด 10mm² ถึง 16mm² ในตู้ไฟสแตนเลส สำหรับเครื่องจักรในโรงงานหรือการติดตั้งในพื้นที่ที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูง
- ขนาด 1 1/2 นิ้ว (38 มม.): ใช้กับสายไฟขนาดใหญ่ 16mm² ถึง 25mm² ในตู้สแตนเลส สำหรับระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมหรือการติดตั้งในพื้นที่ที่มีการใช้งานหนัก
- ขนาด 2 นิ้ว (50.8 มม.): ใช้กับสายไฟขนาดใหญ่ 25mm² หรือหลายเส้น ในตู้ไฟฟ้า สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการใช้งานหนักในโรงงานขนาดใหญ่หรือระบบไฟฟ้าในอาคารสูง
- ขนาด 3 นิ้ว (76.2 มม.): ใช้สำหรับการติดตั้งสายไฟขนาดใหญ่ 35mm² ขึ้นไป ในตู้ไฟสำหรับสถานีไฟฟ้า หรืออุตสาหกรรมที่ต้องการพลังงานไฟฟ้าสูงและการป้องกันที่ดีเยี่ยมจากน้ำและฝุ่น
การเลือกขนาดของ Cable gland ที่เหมาะสมในการติดตั้งใน ตู้ไฟฟ้าสแตนเลส จะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย โดยการเลือกขนาดที่ตรงกับสายไฟจะทำให้การยึดจับสายไฟแน่นหนา ป้องกันการเคลื่อนที่หรือการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายหรืออันตราย การเลือกขนาดที่ถูกต้องยังช่วยให้สามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นในตู้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรักษามาตรฐานการป้องกัน IP เช่น IP68 ช่วยเพิ่มความทนทานและอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าใ
ขนาดของเคเบิ้ลแกลนราคา (สแตนเลสสตีล)
ขนาดให้เลือกหลากหลายเพื่อรองรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยขนาดต่างๆ จะเหมาะสมกับขนาดของสายไฟที่ต้องการใช้งาน เช่น ขนาด 1/2 นิ้ว สำหรับสายไฟขนาดเล็ก และขนาด 2 นิ้ว สำหรับสายไฟขนาดใหญ่ การเลือกขนาดที่เหมาะสมช่วยให้การติดตั้งมีความแน่นหนาและปลอดภัย ป้องกันการเคลื่อนที่หรือการหลุดของสายไฟ และยังช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง การมีขนาดหลากหลายทำให้สามารถใช้งานได้ในหลายประเภทของอุปกรณ์และสภาพแวดล้อม
ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของระบบไฟฟ้า เพราะขนาดที่ตรงกับสายไฟช่วยให้การติดตั้งไม่เกิดการบีบหรือดึงสายไฟเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียหายหรือความร้อนสะสม
การเลือกขนาดที่เหมาะสมยังช่วยในการป้องกันการกัดกร่อนหรือการชำรุดจากสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เช่น ความชื้นหรือสารเคมี การเลือกขนาดที่ถูกต้องไม่เพียงแค่เพิ่มความปลอดภัย แต่ยังทำให้การใช้งานในระยะยาวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตและลดต้นทุนในการบำรุงรักษา
ยังช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดตั้งและลดเวลาในการทำงาน เนื่องจากการเลือกขนาดที่ตรงกับสายไฟจะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีความแม่นยำ ลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดหรือความเสียหายจากการเลือกขนาดไม่เหมาะสม การเลือกขนาดที่ถูกต้องยังช่วยให้การป้องกันน้ำและฝุ่นในระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูงหรือในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น โรงงานหรือพื้นที่กลางแจ้ง
การใช้งานช่วยให้การเข้าสายไฟมีความปลอดภัยมากขึ้น
ส่วนประกอบของ Cable Gland Stainless 304 มีฟังก์ชันในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลให้แข็งแรง ไม่หลุดลุ่ย และช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ โดยมีส่วนประกอบหลักดังนี้:
- Sealing Nut (ตัวน็อตซีล): ทำหน้าที่บีบอัดซีลและโอริงให้แน่น เพื่อป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายในอุปกรณ์ไฟฟ้า
- Plastic Claw (กรงเล็บพลาสติก): ยึดสายไฟหรือสายเคเบิลให้แน่น เพื่อไม่ให้สายหลุดเมื่อถูกดึงหรือมีการสั่นสะเทือน
- NBR Seal (ซีลยาง NBR): ทำหน้าที่เป็นตัวซีลเพื่อป้องกันน้ำและฝุ่นละอองไม่ให้ซึมผ่านเข้าไปภายใน
- Body (ตัวบอดี้): เป็นส่วนประกอบหลักที่รองรับและยึดติดส่วนประกอบอื่นๆ พร้อมเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ไฟฟ้า
- O-ring (โอริง): ช่วยเสริมประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นละอองจากการรั่วซึม
- Lock Nut (น็อตล็อค): ทำหน้าที่ยึดตัว Cable Gland ให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อป้องกันการหลุดออกจากการติดตั้ง
การออกแบบที่มีส่วนประกอบเหล่านี้ช่วยให้ Cable Gland Stainless 304 มีความทนทานและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย.
การป้องกันการเกิดความเสี่ยงจากการขยับของสายไฟ
การป้องกันการเกิดความเสี่ยงจากการขยับของสายไฟใน อุปกรณ์ไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดอันตรายจากการเกิดความเสียหายหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น เช่น การเสียดสีของสายไฟที่อาจทำให้ฉนวนหุ้มสายไฟเสียหายหรือเกิดลัดวงจรได้ โดยการใช้ เคเบิ้ลแกลนราคา สแตนเลสสตีล ช่วยยึดสายไฟให้มั่นคงและป้องกันไม่ให้สายไฟขยับหรือหลุดออกจากตำแหน่ง โดยมีการออกแบบที่ช่วยลดแรงดึงและการสั่นสะเทือน การติดตั้งที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการเสียดสีหรือการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้สายไฟเกิดความเสียหายหรือมีความเสี่ยงในการทำงานของระบบไฟฟ้า ช่วยลดความเสี่ยงจากการเสียดสีหรือการลัดวงจร แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า การเลือกใช้ที่เหมาะสมและยึดจับสายไฟอย่างแน่นหนาจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการขยับจากแรงดึงหรือแรงสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหว เช่น การติดตั้งในเครื่องจักรหรือพื้นที่ที่มีการสั่นสะเทือน จะช่วยให้การติดตั้งในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวสูงมีความปลอดภัยมากขึ้น และทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่เกิดปัญหา
คุณสมบัติยึดสายไฟให้มั่นคง Cable gland stainless steel
เคเบิ้ลแกลนราคา สแตนเลสสตีล ช่วยยึดสายไฟให้มั่นคงโดยการออกแบบให้มีการยึดจับสายไฟแน่นหนา ป้องกันการเคลื่อนที่หรือการหลุดจากตำแหน่งที่ติดตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่นสะเทือนหรือแรงดึงจากภายนอก คุณสมบัตินี้สำคัญในการรักษาความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า เนื่องจากการที่สายไฟเคลื่อนที่อาจทำให้เกิดการเสียดสีหรือเสียหาย ส่งผลให้เกิดอันตรายหรือการหยุดทำงานของระบบไฟฟ้า การยึดสายไฟให้มั่นคงช่วยยืดอายุการใช้งานและลดความเสี่ยงจากปัญหาต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น ยังช่วยป้องกันการเกิดความร้อนสะสมจากการเสียดสีหรือการขยับของสายไฟ ซึ่งอาจทำให้การทำงานของระบบไฟฟ้าลดประสิทธิภาพหรือเกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการลัดวงจรเนื่องจากการสัมผัสกันของสายไฟหรือส่วนอื่นๆ
ที่อาจทำให้เกิดการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า การติดตั้ง ที่มั่นคงจึงช่วยให้มั่นใจได้ว่า สายไฟจะได้รับการป้องกันจากการเสียหายต่างๆ ทั้งจากการดึงหรือการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมในอนาคต
วยให้การติดตั้งในพื้นที่จำกัดหรือที่มีการเคลื่อนไหวมาก เช่น โรงงานหรือระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรม มีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยการป้องกันการเกิดความเสี่ยงจากการขยับของสายไฟที่อาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพหรือการเสียหายจากการสัมผัสกับพื้นผิวที่แข็งหรือส่วนอื่น ๆ ของระบบไฟฟ้า ความมั่นคงในการยึดสายไฟนี้ยังช่วยให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน ลดโอกาสเกิดความผิดพลาดหรืออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นจากการเคลื่อนที่ของสายไฟ
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป เคเบิ้ลแกลนราคา สแตนเลสสตีล เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดและป้องกันสายไฟจากการเคลื่อนที่หรือการเสียหาย โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานสูง เช่น การใช้งานในพื้นที่ที่มีการกัดกร่อนสูงหรือมีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงมาก มีคุณสมบัติที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพจากสารเคมีหรือสภาพแวดล้อมที่รุนแรง มักถูกใช้ในอุตสาหกรรม โรงงาน หรือการติดตั้งที่มีมาตรฐานการป้องกันสูง เช่น IP68 เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่น การเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสายไฟและสภาพการใช้งานจะช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีประสิทธิภาพและปลอดภัย