สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

เคเบิลแกลนด์
ขนาดเกลียว PG7-PG63

เคเบิลแกลนด์ขนาดเกลียว PG7-PG63 เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดและป้องกันสายไฟหรือสายเคเบิลในอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยการใช้เกลียว PG เพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งสายไฟมีความปลอดภัยและมั่นคง9k,ขนาดของเกลียว ถูกเลือกตามขนาดของสายไฟที่ใช้ เพื่อให้การติดตั้งตรงตามมาตรฐานและเหมาะสมกับการใช้งาน PG7: เหมาะสำหรับการใช้งานกับสายไฟขนาดเล็ก (สายไฟเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-6 มม.) PG16-PG21: ใช้กับสายไฟที่มีขนาดกลางถึงใหญ่

"เคเบิลแกลนด์ ขนาดเกลียว PG7-PG63 "

การเลือกซื้อเคเบิลแกลนด์กัน้ำ IP68

า การเลือกซื้อเคเบิลแกลนด์ควรพิจารณาตามขนาดของสายไฟที่ใช้งานและวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เช่น ทองเหลือง, สแตนเลส, หรือพลาสติก เพื่อความทนทานและปลอดภัยในการใช้งานติดตั้งสายไฟให้มั่นคงกับอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยสามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าไปภายในได้ ด้วยการยึดสายไฟให้แน่นและปลอดภัยจากการขยับหรือการเสียดสีง ใช้ในงานติดตั้งระบบไฟฟ้าทั้งในอุตสาหกรรมและในบ้านที่ต้องการความปลอดภัยสูง โดยจะใช้ติดตั้งในตู้ไฟฟ้า, กล่องเชื่อมต่อสายไฟ, หรืออุปกรณ์ที่ต้องการป้องกันการรั่วซึมและการขยับของสายไฟอย่างมั่นคง เพื่อให้การติดตั้งมีความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของสายไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้า ในการติดตั้งผู้ใช้งานต้องเลือกขนาดและวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี ทนทานต่อการกัดกร่อนหรือสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันระบบไฟฟ้า ติดต่อเราได้ทันทีค่ะ!

แคตตาล็อกสินค้า 🖱️

Datasheet Details: cable catalog

Material cable gland IP68

เคเบิลแกลนด์ขนาดเกลียว PG7-PG63 ผลิตจากวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานและเหมาะสมกับการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ โดยวัสดุที่นิยมใช้ผลิต ได้แก่:

  1. ทองเหลือง (Brass): เป็นวัสดุที่มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและการสึกกร่อน ใช้สำหรับการใช้งานทั่วไปในสภาพแวดล้อมที่ไม่รุนแรง
  2. สแตนเลส (Stainless Steel): เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง หรือพื้นที่ที่ต้องการความต้านทานต่อการกัดกร่อน เช่น ในอุตสาหกรรมเคมี หรือพื้นที่กลางแจ้ง
  3. พลาสติก (Plastic/PA66): เช่น PA66, Nylon ที่มีความทนทานและสามารถทนต่อแรงดึงและการสั่นสะเทือนได้ดี เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่ต้องเจอกับสภาพแวดล้อมที่กัดกร่อนหรือมีความชื้นสูง

การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่ต้องการติดตั้งเคเบิลแกลนด์เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันและยึดสายไฟให้มั่นคง.

Features Cable gland IP68

การเลือกขนาดเกลียวที่ถูกต้องสำคัญเพื่อให้สามารถยึดจับสายไฟได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย ป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองเข้าสู่ระบบไฟฟ้า อีกทั้งยังช่วยให้การติดตั้งง่ายและมีความทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมต่างๆ.

  • PG7: เหมาะสำหรับการใช้งานกับสายไฟขนาดเล็ก (สายไฟเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-6 มม.)
  • PG9-PG11: เหมาะสำหรับสายไฟขนาดกลาง
  • PG13.5: ใช้กับสายไฟที่มีขนาดใหญ่กว่าขนาด PG9-PG11 เล็กน้อย
  • PG16-PG21: ใช้กับสายไฟที่มีขนาดกลางถึงใหญ่
  • PG29-PG36: สำหรับสายไฟขนาดใหญ่
  • PG40-PG63: ใช้สำหรับสายไฟขนาดใหญ่ที่สุดที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางสูงสุดถึง 63 มม.
หมวด สินค้าใกล้เคียง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

Waterproof Cable Gland คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว

การติดตั้งในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวหรือการสั่นสะเทือนสูง

เพื่อให้สามารถยึดจับสายไฟได้อย่างมั่นคง การเลือกวัสดุที่เหมาะสม เช่น สแตนเลสหรือทองเหลือง จะช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือสารเคมี การใช้เคเบิลแกลนด์ที่มีมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น IP68 ยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำและสิ่งสกปรกเข้าไปในอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของทั้งระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องได้ การเลือกขนาดที่เหมาะสมจึงมีความสำคัญในการสร้างความมั่นคงและประสิทธิภาพที่มีคุณภาพดีและเหมาะสมกับประเภทของการใช้งาน จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการติดตั้งและการป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าในระยะยาว เช่น การใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีที่กัดกร่อน การตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สามารถทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอะไหล่ได้ทันทีหากพบความเสียหาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาที่อาจนำไปสู่การหยุดชะงักของระบบไฟฟ้าหรือความเสี่ยงจากการเกิดอุบัติเหตุ

ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole)

การวัดขนาดของเคเบิ้ลแกลน (Diameter)

โดยทั่วไปแล้ว ขนาดที่เราต้องพิจารณาในการเลือก Cable gland มี 2 ขนาดหลัก คือ

  1. ขนาดของรูสำหรับใส่สายไฟ (Cable Range or Entry hole): คือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของรูที่เจาะไว้สำหรับสอดสายไฟเข้าไป ซึ่งขนาดนี้จะต้องใหญ่กว่าขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของสายไฟเล็กน้อย เพื่อให้สามารถสอดสายไฟเข้าไปได้อย่างสะดวกและแน่นหนา
  2. ขนาดของเกลียว (Thread Size): คือขนาดของเกลียวที่ใช้ยึดเข้ากับตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม ซึ่งขนาดนี้จะต้องตรงกับขนาดของเกลียวที่เจาะไว้บนตัวเครื่องหรือกล่องควบคุม
  • GL (Thread Rang): ขนาดความยาวของเกลียว
  • AG (Thread Size): ขนาดของเกลียวที่เข้ากับอุปกรณ์หรือรูเจาะ
 

ขั้นตอนการติดตั้ง (Cable Gland)

ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบเกลียวของอุปกรณ์ เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบว่าอุปกรณ์ที่จะติดตั้งมีการ ต๊าปเกลียว หรือยัง หากมี ควรตรวจสอบประเภทและขนาดของเกลียว เช่น PG (PG7, PG9, PG21), M (M20, M25, M40) หรือ NPT (NPT1/2”, NPT3/4”) เพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับที่จะใช้

ขั้นตอนที่ 2: วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลาง ใช้เครื่องมือวัด เช่น เวอร์เนียร์หรือไม้บรรทัด วัดขนาดรูเส้นผ่านศูนย์กลางของอุปกรณ์ที่ต้องการติดตั้ง ตรวจสอบว่าขนาดของรูตรงกับที่กำหนดไว้ในเอกสารคู่มือ

ขั้นตอนที่ 3: ตรวจสอบขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ล พิจารณาขนาดสายไฟหรือสายเคเบิ้ลที่ต้องการเข้าสาย โดยเปรียบเทียบกับช่วงขนาดที่รองรับ (Cable Range) หากสายเล็กหรือใหญ่เกินไป อาจทำให้ติดตั้งไม่แน่นหนา หรือมีโอกาสเกิดการรั่วซึม

ขั้นตอนที่ 4: ติดตั้งสายเคเบิ้ลและขันเกลียว ใส่สายอย่างระมัดระวัง ป้องกันการฉีกขาดหรือเสียหาย จากนั้นทำการ ขันเกลียวให้แน่น จนรู้สึกว่าสายเคเบิ้ลอยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง แต่ระวังอย่าขันแน่นจนเกินไป เพราะอาจทำให้สายเสียหาย

การรองรับขนาดสายไฟที่หลากหลายของ Cable gland IP68

เคเบิ้ลแกลนด์ขนาดเกลียว PG7-PG63 เนื่องจากสามารถรองรับสายไฟที่มีขนาดแตกต่างกันไปจากขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งช่วยให้การใช้งานสะดวกและหลากหลายขึ้น ขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งานและลักษณะการติดตั้งในสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน เช่น:PG7 รองรับสายไฟขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-6 มม. มักใช้ในงานที่ต้องการการยึดติดของสายไฟที่มีขนาดเล็ก เช่น การติดตั้งในอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดเล็ก หรือเครื่องมือที่มีสายไฟบาง PG11 รองรับสายไฟขนาดกลางที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 6-9 มม. ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าที่มีความทนทานปานกลางPG16 รองรับสายไฟขนาด 9-13 มม. มักใช้ในอุปกรณ์ที่ต้องการการติดตั้งที่มีความแข็งแรงกว่า เช่น ตู้ไฟฟ้า หรือเครื่องจักรที่ต้องการการป้องกันที่ดี PG21, PG36, PG63 รองรับสายไฟที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาดใหญ่ เช่น 12-18 มม., 18-24 มม., และ 24-40 มม. ใช้ในการติดตั้งสายไฟขนาดใหญ่ในเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการใช้งานหนัก

ตารางเปรียบเทียบวัสดุ Cable gland สแตนเลส

การรองรับขนาดสายไฟที่หลากหลายของเคเบิ้ลแกลนด์

การติดตั้งช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและปลอดภัย

คุณสมบัติของเคเบิลแกลนกันน้ำ IP68 ขนาดเกลียว PG

  • การป้องกันน้ำและฝุ่นละออง (IP68) สามารถป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกจากการเข้าไปภายในได้ 100% (ตามมาตรฐาน IP6X) และสามารถทนน้ำได้ที่ความลึกไม่เกิน 1.5 เมตร (ตามมาตรฐาน IPX8) เป็นคุณสมบัติที่สำคัญในการใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือที่มีน้ำท่วมขัง โดยช่วยป้องกันไม่ให้น้ำหรือของเหลวซึมเข้าไปในระบบไฟฟ้าและทำให้เกิดการลัดวงจรหรือการเสื่อมสภาพของอุปกรณ์.
  • ขนาดเกลียว PG ขนาดเกลียว PG (Protection Grade) มีหลากหลายขนาด เช่น PG7, PG9, PG11, PG13.5, PG16, PG21, PG29, PG36, PG48, PG63 ซึ่งแต่ละขนาดจะเหมาะสมกับสายไฟที่มีขนาดต่างกัน ขนาดเกลียว PG จะช่วยให้การติดตั้งและการยึดสายไฟในอุปกรณ์ไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ มีความแน่นหนา และป้องกันการขยับหรือการหลุดลุ่ยของสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
  • วัสดุทนทาน ทำจากวัสดุที่ทนทาน เช่น ทองเหลืองชุบนิกเกิล, สแตนเลสสตีล, หรือ พลาสติกที่ทนทาน เช่น ไนลอน ซึ่งวัสดุเหล่านี้ช่วยให้เคเบิลแกลนทนทานต่อการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี และช่วยให้ยึดสายไฟได้อย่างมั่นคงและปลอดภัย.
  • การติดตั้งง่ายและสะดวก Cable gland PG มีการออกแบบให้การติดตั้งเป็นเรื่องง่าย โดยมักจะมีชิ้นส่วนที่ช่วยให้การขันน็อตและการยึดสายไฟได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือซับซ้อนและสามารถติดตั้งได้ในหลายสภาพแวดล้อม.
  • ความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ มีความสามารถในการทนต่ออุณหภูมิสูงและต่ำ ซึ่งทำให้เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงรุนแรง เช่น ในโรงงานอุตสาหกรรม หรือการใช้งานกลางแจ้งที่อาจต้องเผชิญกับทั้งความร้อนและความหนาวเย็น.
  • รองรับการใช้งานในหลายประเภท สามารถใช้งานได้หลากหลายประเภทของการติดตั้ง รวมถึงการใช้งานในอุปกรณ์ไฟฟ้า, ระบบควบคุม, ตู้ไฟฟ้า, เครื่องจักรต่างๆ และสถานที่ที่ต้องการการป้องกันน้ำและฝุ่นละอองเข้ามาภายใน เพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด.

ตารางเปรียบเทียบวัสดุ Cable gland สแตนเลส

วัสดุคุณสมบัติข้อดีข้อเสียการใช้งานที่เหมาะสม
สแตนเลสสตีล (Stainless Steel)ทนต่อการกัดกร่อนสูง, ทนความร้อน, แข็งแรง, ไม่เป็นสนิมทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีการกัดกร่อน, อายุการใช้งานยาวนาน, แข็งแรงราคาสูง, ต้องการการติดตั้งที่มีความแม่นยำสูงใช้งานในอุตสาหกรรมเคมี, พื้นที่ที่มีการกัดกร่อน, พื้นที่กลางแจ้ง
ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel-Plated Brass)ทนทานต่อการกัดกร่อน, ราคาประหยัดกว่า, ทนความร้อนพอสมควร, ความต้านทานทางไฟฟ้าดีทนทานและทนการกัดกร่อนได้ดี, ราคาสมเหตุสมผลอาจไม่ทนทานในบางสภาพแวดล้อมที่มีความรุนแรงสูงใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน
ไนลอน (Nylon)วัสดุพลาสติก, น้ำหนักเบา, ติดตั้งง่าย, ทนต่อการขีดข่วน, ทนรังสี UV และสารเคมีบางชนิดราคาถูก, น้ำหนักเบา, ทนทานต่อการกัดกร่อนบางประเภทอาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับอุณหภูมิสูงหรือสารเคมีบางประเภทใช้ในสถานที่ที่ไม่ต้องการความทนทานสูงหรือที่มีอุณหภูมิไม่สูง

การรองรับขนาดสายไฟที่หลากหลายของเคเบิ้ลแกลนด์

มีความสามารถในการรองรับขนาดสายไฟที่หลากหลาย ตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถใช้งานได้กับประเภทสายไฟที่แตกต่างกันในหลายสถานการณ์และการใช้งานที่หลากหลาย ตัวอย่างเช่น:

  • ขนาดเกลียว PG: ขนาดเกลียว PG )เช่น PG7, PG11, PG16, PG21, PG36 เป็นต้น ซึ่งใช้ในการติดตั้งสายไฟขนาดเล็กถึงกลาง โดยที่ PG7 รองรับสายไฟขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3-6 มม. และ PG21 รองรับสายไฟขนาดประมาณ 12-18 มม.
  • ขนาดเกลียว NPT:  เช่น NPT1/2, NPT3/4, NPT1 ขนาดเหล่านี้รองรับสายไฟที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแข็งแรงและการยึดเกาะที่มั่นคง
  • ขนาดเกลียว M (Metric):เช่น M16, M20, M25 รองรับการใช้งานที่มีขนาดสายไฟหลากหลายตั้งแต่ขนาดเล็กจนถึงกลาง โดยจะเลือกขนาดเกลียวที่เหมาะสมกับขนาดสายไฟเพื่อการยึดเกาะที่แน่นหนาและมีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่น

รองรับการใช้งานในหลายประเภทของเคเบิ้ลแกลนด์

การออกแบบเพื่อรองรับการใช้งานในหลากหลายประเภทและสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกัน รวมถึงการใช้งานในอุปกรณ์ไฟฟ้า, ระบบควบคุม, ตู้ไฟฟ้า, และเครื่องจักรต่างๆ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ อุปกรณ์ไฟฟ้าใช้ในการยึดสายไฟและป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละอองในอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงที่จะได้รับผลกระทบจากสภาพแวดล้อมภายนอก ระบบควบคุม: ในการติดตั้งสายไฟในระบบควบคุมต่างๆ เช่น ระบบควบคุมเครื่องจักรหรือระบบอัตโนมัติ ช่วยให้สายไฟยึดติดแน่นและป้องกันการเสียหายจากการขยับหรือการเคลื่อนไหวของสายไฟ ตู้ไฟฟ้า: ใช้ในตู้ไฟฟ้าที่มีการติดตั้งระบบไฟฟ้าหรือวงจรควบคุมที่ต้องการการป้องกันการรั่วซึมจากน้ำและฝุ่นละออง มีคุณสมบัติ IP68 จึงเหมาะสำหรับใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือฝุ่น

การติดตั้งช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความมั่นคงและปลอดภัย

ช่วยให้ระบบไฟฟ้ามีความ มั่นคงและปลอดภัย ในการใช้งานระยะยาว โดยการป้องกันการเข้าของน้ำ ฝุ่น หรือสารเคมีภายนอกที่อาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของระบบไฟฟ้าได้ ซึ่งมีความสำคัญในงานที่ต้องการความเชื่อถือได้สูง เช่น ระบบโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งกลางแจ้ง, ระบบไฟฟ้าในสถานที่อุตสาหกรรมหนัก, และการติดตั้งอุปกรณ์ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือมีสารเคมี การเลือกใช้งานไม่เพียงแต่ช่วยให้การติดตั้งมีความปลอดภัย แต่ยังลดการเสี่ยงจากปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต รวมทั้งช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหมด

ยังช่วยลดการ บำรุงรักษาและค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม เนื่องจากการออกแบบที่ป้องกันน้ำและฝุ่นละอองได้ดี ซึ่งช่วยป้องกันการเกิดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี โดยเฉพาะใน การใช้งานในภาคอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานหนัก

การป้องกันเหล่านี้ช่วยให้ระบบไฟฟ้ายังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องหยุดการทำงานบ่อยครั้ง สำหรับการตรวจสอบหรือซ่อมแซม ทำให้ผู้ใช้งานสามารถมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของระบบไฟฟ้าในระยะยาว

ยังสามารถ ปรับใช้ในโครงการต่างๆ ที่มีลักษณะเฉพาะ เช่น การติดตั้งในแหล่งน้ำหรือพื้นที่ที่มีการสัมผัสกับน้ำเป็นประจำ เช่น ท่าเรือ, บริเวณใกล้เคียงกับน้ำ, หรือสถานที่ที่มีการระบายน้ำ การป้องกันที่มีประสิทธิภาพจากน้ำและฝุ่นช่วยให้ระบบไฟฟ้ายังคงปลอดภัยและทำงานได้โดยไม่เกิดปัญหาจากการกัดกร่อนหรือการสัมผัสกับสิ่งแปลกปลอม อีกทั้งยังช่วยให้การบำรุงรักษาในภายหลังมีความง่ายและไม่ต้องดำเนินการบ่อยครั้ง

หมวด สินค้าประจำหมวด

Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ 

อธิบายสรุป เคเบิลแกลนด์ ขนาดเกลียว PG7-PG63 คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดสายไฟหรือสายเคเบิลให้ติดแน่นกับอุปกรณ์ไฟฟ้า พร้อมป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นละออง โดยมีขนาดเกลียวตั้งแต่ PG7 ถึง PG63 ซึ่งรองรับการใช้งานในหลากหลายขนาดสายไฟ ขนาดเกลียว PG7 มักใช้สำหรับสายไฟขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-6 มม. ขณะที่ PG63 รองรับสายไฟที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ขึ้น เช่น 36-40 มม. เหมาะสำหรับการติดตั้งในอุปกรณ์ไฟฟ้า, ระบบควบคุม, ตู้ไฟฟ้า และเครื่องจักรต่างๆ โดยมักจะทำจากวัสดุที่มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อน เช่น สแตนเลสสตีล หรือพลาสติกคุณภาพสูง

Scroll to Top