สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

หมวด ตู้ไฟฟ้า IP55-IP66

ตู้ไฟฟ้า คือ ตู้ที่มีความสามารถในการป้องกันสูงสุดต่อการเข้าถึงของวัตถุขนาดเล็กและน้ำหรือฝุ่น ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูง หรือต้องการระบบไฟฟ้าที่มีความปลอดภัยและคงทนในสภาพแวดล้อมที่กว้างขวางเหมาะสำหรับการใช้งานในโรงงานหรือสถานที่ที่มีการใช้น้ำหรือความชื้นสูงอยู่ตลอดเวลาโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความสูญเสียหรือการเสื่อมของตู้ อีกทั้งยังมีความทนทานต่อการสัมผัสกับสารเคมี 

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

คุณสมบัติของตู้ไฟฟ้าแต่ละวัสดุ

คุณสมบัติและความเหมาะสมของวัสดุต่าง ๆ กับความต้องการของการใช้งาน การเลือกวัสดุที่เหมาะสมจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุดในการใช้งานของตู้การเลือกวัสดุในการผลิตตู้โลหะ ความแข็งแรงสูง ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและสารเคมี มีความสามารถในการป้องกันการเข้าถึงของฝุ่น น้ำ และสารเคมีได้ดี การเลือก: เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความคงทนและความปลอดภัยสูง ต้องการตู้ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการสกปรก พลาสติก (Plastic): มีความยืดหยุ่น ทนทานต่อความชื้นและสารเคมี บางวัสดุอาจมีความบาง และมีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความยืดหยุ่นและความหนักเบา เช่น ต้องการตู้ที่ง่ายต่อการติดตั้งและการเคลื่อนย้าย

โลหะ (Steel/เหล็ก, Stainless Steel/สแตนเลส):

  • ความแข็งแรง: โลหะมักมีความแข็งแรงสูง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความคงทนและการป้องกันการเข้าถึง
  • การทนทานต่อสภาพแวดล้อม: สามารถทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง และมีการสูญเสียจากสภาพอากาศได้ดี
  • ความสามารถในการป้องกัน: มีความสามารถในการป้องกันการเข้าถึงของฝุ่น น้ำ และสารเคมี
  • ความทนทานต่อการกัดกร่อน: สแตนเลสมีความทนทานต่อการกัดกร่อนดีกว่าเหล็ก

พลาสติก (เช่น Polyester, ABS Plastic, Fiberglass):

  • ความแข็งแรง: ขึ้นอยู่กับวัสดุแต่ละชนิด แต่มักมีความแข็งแรงใกล้เคียงกับโลหะหรือมากกว่า
  • การทนทานต่อสภาพแวดล้อม: มีความสามารถในการทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง และสารเคมีบางประเภท
  • ความสามารถในการป้องกัน: มีความสามารถในการป้องกันการเข้าถึงของฝุ่น น้ำ และสารเคมีได้ในระดับที่พอประมาณ
  • น้ำหนัก: อาจมีน้ำหนักเบากว่าโลหะ และมีความสามารถในการทนแสงแดด

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

การใช้ในงานแต่ละวัสดุ

การเลือกใช้งานวัสดุที่ใช้ในการผลิตมีความสำคัญต่อประสิทธิภาพและความทนทานของตู้ในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมต่างๆ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: กล่องพักสายไฟมักมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม เช่น การทนทานต่อฝุ่น น้ำ และสารเคมี การใช้งานเทอร์มินอลบล็อกและกล่องพักสายไฟช่วยให้การต่อสายไฟเป็นไปอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และมีความเป็นระเบียบในระบบไฟฟ้าในทุกๆ อุตสาหกรรมและการใช้งานต่างๆ

ตู้พลาสติก ABS:

  •  การใช้งานทั่วไปในอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือการสัมผัสกับสารเคมีเป็นประจำ เช่น กล่องตัวถังไฟฟ้าในบ้านหรือออฟฟิศที่ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมมาก

ตู้โพลีเอสเตอร์ผสมใยแก้ว (Fiberglass-reinforced Polyester):

  •  การใช้งานในสถานที่ที่มีความชื้นสูงหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น ในโรงงานหรือโรงงานผลิตที่มีการใช้งานตลอดเวลาและต้องการความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้

ตู้ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass):

  •  การใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทก และความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น ในสถานที่ที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง

ตู้โลหะ (เช่น เหล็ก และสแตนเลส):

  •  การใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทกมาก เช่น ในสถานที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูงในอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่มีการใช้งานที่หนักและอุณหภูมิสูง

ข้อควรรู้ในการเลือกใช้งาน

เมื่อเลือกใช้ตู้สำหรับการใช้งาน นี่คือบางข้อควรรู้ที่สำคัญที่ควรพิจารณา ต้องกำหนดว่าจะใช้งานในสภาพแวดล้อมใด เช่น  ป้องกันฝุ่น, ป้องกันน้ำ หรือป้องกันการกระตุ้นไฟฟ้า ขนาดและพื้นที่: ต้องคำนึงถึงขนาดและพื้นที่ที่ต้องการในการติดตั้ง เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ในสถานที่ที่ต้องการติดตั้ง
วัสดุของตู้: สำหรับการใช้งานทั่วไป ตู้ที่ผลิตจากพลาสติก ABS หรือโพลีเอสเตอร์ผสมใยแก้วไฟเบอร์กลาส เป็นที่นิยม เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่ดี คำนึงถึงค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง เช่น ราคาตู้, ค่าบำรุงรักษา เพื่อให้ได้ตู้ที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับงบประมาณ

ตัวอย่างการใช้งานแต่ละชนิดได้แก่:

การใช้งานเต้าไฟฟ้าแต่ละวัสดุจะขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละอุตสาหกรรม โดยปกติแล้ว การใช้งานในอุตสาหกรรมหรือโรงงานที่มีการกระทำกระแทกหรือมีความเสี่ยงทางกายภาพจะต้องใช้ตู้ที่มีวัสดุที่มีความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทกมาก เช่น ตู้ไฟเบอร์กลาสหรือโลหะ เพื่อให้ได้ความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดในสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม

 

ตู้พลาสติก ABS:

  •  การใช้งาน: ตู้ ABS เหมาะสำหรับใช้ในโรงงานผลิตหรือโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง โดยทั่วไปจะใช้เพื่อเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กถึงกลาง เช่น สวิตช์, โฟล์ด, และเครื่องมือต่อเชื่อม
  • ตัวอย่างการใช้งาน: ตู้ ABS สามารถใช้ในการติดตั้งในโรงงานผลิตอาหารเพื่อความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าที่ใช้ในการผลิตอาหารได้ เนื่องจากมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง.

ตู้โพลีเอสเตอร์ผสมใยแก้ว (Fiberglass-reinforced Polyester):

  • การใช้งาน: ตู้โพลีเอสเตอร์ผสมใยแก้วเหมาะสำหรับใช้ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง หรือสถานที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมบ่อย เช่น โรงงานผลิตที่มีการใช้งานตลอดเวลา.
  • ตัวอย่างการใช้งาน: ตู้โพลีเอสเตอร์ผสมใยแก้วสามารถใช้ในโรงงานผลิตที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง เช่น การใช้ในการจัดเก็บระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมหรือโรงงานผลิต.

ตู้ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass):

  •  การใช้งาน: ตู้ไฟเบอร์กลาสเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทกมาก เช่น สถานที่ที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง.
  •  ตัวอย่างการใช้งาน: ตู้ไฟเบอร์กลาสสามารถใช้ในการติดตั้งในโรงงานผลิตหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูง เช่น การใช้ในการจัดเก็บระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมหรือโรงงานผลิต.

ตู้โลหะ (เช่น เหล็ก และสแตนเลส):

  •  การใช้งาน: ตู้โลหะเหมาะสำหรับใช้งานที่ต้องการความแข็งแรงและความทนทานต่อแรงกระแทกมาก เช่น การใช้งานในสถานที่ที่มีการกระทำกระแทกหรือการใช้งานที่มีความเสี่ยงทางกายภาพสูงในอุตสาหกรรมหรือสถานที่ที่มีการใช้งานที่หนักและอุณหภูมิสูง.
  •  ตัวอย่างการใช้งาน: ตู้โลหะ เช่น เหล็กหรือสแตนเลสสามารถใช้ในการติดตั้งในโรงงานผลิตหรือโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานที่หนักและอุณหภูมิสูง เช่น โรงงานที่มีการใช้งานเป็นระบบตลอดเวลา โดยมักจะใช้ในการจัดเก็บระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่.
 

สรุป

การตู้ไฟฟ้าที่เหมาะสมและมีคุณค่าที่สูงสุดควรพิจารณาความต้องการของการใช้งานอย่างชัดเจน การทดสอบคุณภาพของอุปกรณ์ การเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน การพิจารณาค่าใช้จ่าย การศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพในการใช้งานในระยะยาว ดังนั้น การทำความเข้าใจและการพิจารณาข้อดีและข้อเสียของแต่ละปัจจัยจะช่วยให้เลือกอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เหมาะสมและมีคุณค่าที่สูงสุดสำหรับการใช้งานของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

เราต้องการให้สินค้าถึงมือผู้ใช้งานมากขึ้นโดยการเพิ่มช่องทางการจำหน่าย สามารส่งสเปกเพื่อเลือกสินค้าให้เหมาะกับการใช้งานเพื่อประโยชน์ในการใช้งานมากที่สุดติดต่อสอบถามข้อมูลเพื่มเติมได้ที่ฝ่ายขายค่ะ

ตัวอย่างโครงการ

ตัวอย่างโครงการ ที่เลือกใช้ตู้ไฟฟ้า พร้อมคุณสมบัติป้องกันการกันฝุ่นกันน้ำ มาตรฐาน IPP66

IP68 cable gland
ท่อดักเฟล็กซ์
ตู้สแตนเลสไฟฟ้า

สอบถามข้อมูล สั่งซื้อ ขอใบเสนอราคา

Scroll to Top