สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร
ท่อฟอยด์หนาเท่าไหร?

อลูมิเนียมฟอยล์เป็นแผ่นโลหะที่ทำจากอะลูมิเนียมบริสุทธิ์ ถูกรีดให้มีความบางระดับไมครอน มีคุณสมบัติเด่นด้าน การสะท้อนความร้อน ป้องกันความชื้น และทนต่อการกัดกร่อน จึงได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น บรรจุภัณฑ์ อาหาร งานก่อสร้าง และระบบระบายอากาศ ถูกนำมาใช้ทำ ท่อฟอยล์อลูมิเนียม เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมกับ การลำเลียงอากาศ ดูดควัน และระบายความร้อน ความหนา 150 ไมครอน เพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการฉีกขาด

"อลูมิเนียมฟอยล์ คืออะไร ท่อฟอยด์หนาเท่าไหร? "

อลูมิเนียมฟอยล์ ใช้ทําอะไร ทนความร้อนกี่องศา

การใช้งานสำหรับระบบระบายอากาศ การดูดควัน และลำเลียงลมร้อนในอุตสาหกรรมและที่พักอาศัย สามารถติดตั้งในห้องครัว โรงงาน หรือระบบปรับอากาศได้ง่าย มีความยืดหยุ่นสูง ปรับความยาวหรือดัดโค้งได้ตามต้องการ ทนต่ออุณหภูมิสูงถึง 150°C และแรงดันลมสูงสุด 3,000 Pa ช่วยลดการรั่วไหลของอากาศ ทำให้ระบบทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานนและอายุการใช้งานยาวนาน มีให้เลือกหลายขนาด ตั้งแต่ 2 นิ้วถึง 20 นิ้ว เพื่อตอบสนองการใช้งานที่แตกต่างกัน วัสดุฟอยด์หนาพิเศษช่วยเพิ่มความแข็งแรง ป้องกันการฉีกขาดและการยุบตัวเมื่อใช้งานในระบบที่มีแรงดันสูง  ขอใบเสนอราคา / สอบถามเพิ่มเติม ติดต่อเราได้ค่ะ!

สินค้าจัดรายการ🖱️

จำหน่ายท่ออลูมิเนียมฟอยล์ดูดควันระบายอากาศในโรงงาน

ท่อฟอยล์เฟล็กซ์ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการทนความร้อน เช่น ระบบดูดควันจากเตาอบหรือปล่องระบายอากาศในโรงงาน นอกจากนี้ยังสามารถทนแรงดันลมสูงสุดถึง 3,000 Pa โดยไม่เกิดการรั่วไหลหรือเสียรูปง่าย โครงสร้างแบบหลายชั้นช่วยเพิ่มความทนทาน ลดการฉีกขาด และยืดอายุการใช้งาน ท่อมีความยืดหยุ่นสูง สามารถโค้งงอและปรับความยาวได้ตามต้องการโดยไม่เสียรูป เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในพื้นที่จำกัดและพื้นที่ที่ต้องการความคล่องตัวในการติดตั้ง

คุณสมบัติในการป้องกันการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรกภายในท่อ ทำให้ระบบระบายอากาศทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพยาวนาน โดยไม่เกิดการอุดตันที่อาจส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศในระบบระบายอากาศหรือระบบดูดควัน โดยใช้วัสดุที่สามารถดูดซับเสียงได้ดี เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับงานทั้งในอุตสาหกรรมและในอาคารพาณิชย์ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงและการติดตั้งที่สะดวกง่ายดาย

Product Features:

  • ทนความร้อนสูง: สามารถทนต่ออุณหภูมิสูงได้ถึง 250°C เหมาะสำหรับใช้งานในระบบดูดควันและระบายอากาศในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ห้องครัวในโรงงานหรือระบบปรับอากาศในอุตสาหกรรม
  • ทนทานต่อแรงดันสูง: รองรับแรงดันลมสูงถึง 3,000 Pa โดยไม่เกิดการยุบตัวหรือรั่วซึม ทำให้สามารถใช้งานในระบบที่มีแรงดันลมสูงได้อย่างมั่นใจ
  • ความยืดหยุ่นสูง: มีความยืดหยุ่น สามารถโค้งงอและปรับขนาดได้ตามต้องการ ทำให้ติดตั้งง่ายและสะดวกในพื้นที่จำกัด
  • โครงสร้างหลายชั้น: ผลิตจากอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทาน ป้องกันการฉีกขาดและยืดอายุการใช้งาน
  • ป้องกันการรั่วไหลของอากาศ: ลดการรั่วไหลของอากาศในระบบระบายอากาศหรือดูดควัน ช่วยให้ระบบทำงานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
หมวด สินค้าใกล้เคียง

ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์

ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

โครงสร้างอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้นป้องกันการฉีกขาด

ผลิตจากฟอยล์อลูมิเนียม 3 ชั้นมีความแข็งแรงและทนทานมากขึ้น เนื่องจากการใช้ชั้นฟอยล์หลายชั้นจะช่วยเพิ่มความทนทานต่อการฉีกขาดและการเสียหายจากแรงดันหรือแรงกระแทก ช่วยให้ท่อสามารถใช้งานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวหรือแรงดันลมสูง โดยไม่เสี่ยงต่อการฉีกขาดหรือแตกหัก นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของท่อ ทำให้ไม่ต้องเปลี่ยนท่อบ่อยครั้ง ลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาและซ่อมแซมในระยะยาว ช่วยเสริมความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงหรือการเสียดสี เช่น ในการใช้งานในระบบระบายอากาศหรือดูดควัน ซึ่งมักต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิและแรงดันอย่างรวดเร็ว

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)

การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อเฟล็กซ์ (Diameter)

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.

  • การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
    การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.

  • การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
    เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.

  • การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
    หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้

เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.

อลูมิเนียมฟอยล์ทนต่อการขยายตัวและหดตัวจากอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลง

ท่อฟอยด์มีคุณสมบัติที่ทนต่อการขยายตัวและหดตัวจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอย่างฉับพลัน โดยไม่เสียรูปหรือเกิดการรั่วซึม เนื่องจากฟอยล์อลูมิเนียมมีความยืดหยุ่นสูงและสามารถปรับตัวตามสภาวะอุณหภูมิที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีการขยายตัวหรือหดตัวจากอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำสุดขีด ฟอยล์อลูมิเนียมที่มีหลายชั้นจะช่วยเสริมความทนทาน และป้องกันการเกิดรอยรั่วหรือความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันหรือการเคลื่อนไหว ช่วยให้การใช้งานในระบบระบายอากาศหรือดูดควันมีความปลอดภัย ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ่อยครั้ง เช่น ในการทำงานที่มีการใช้อุปกรณ์ที่ปล่อยความร้อนสูงหรือพื้นที่ที่มีการใช้งานเครื่องจักรที่ทำให้เกิดความร้อนสูง

ตารางเปรียบเทียบความหนาหนา 40 ไมครอนและ 60 ไมครอน

โครงสร้างลวดเหล็กสปริงในท่ออลูมิเนียมฟอยล์

ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ

การเลือกขนาดท่ออลูมิเนียมฟอยล์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

ารใช้งานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ระบบระบายอากาศหรือการดูดควันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ต่อไปนี้คือปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกขนาดท่อฟอยล์อลูมิเนียม:

  • ขนาดของพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่ต้องการระบายอากาศ: การคำนวณพื้นที่หรืออุปกรณ์ที่ต้องการระบายอากาศจะช่วยให้เลือกขนาดท่อฟอยล์ที่เหมาะสมได้ เช่น หากต้องการระบายอากาศในพื้นที่กว้างหรือมีอุปกรณ์หลายตัว ควรเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่กว่าเพื่อให้การไหลเวียนของอากาศดีขึ้น
  • การคำนวณการไหลของอากาศ (CFM): เพื่อให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพ ควรเลือกขนาดท่อที่สามารถรองรับการไหลของอากาศได้ตามที่ต้องการ การเลือกขนาดท่อที่มี CFM เหมาะสมกับระบบจะช่วยให้การทำงานของระบบระบายอากาศเป็นไปอย่างราบรื่น
  • ความยาวของท่อ: ขนาดของท่อฟอยล์อลูมิเนียมที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับระยะทางที่อากาศต้องเดินทาง หากท่อมีความยาวมากขึ้น ควรเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับการไหลของอากาศที่ไม่ถูกจำกัด
  • ความทนทานของท่อ: ขนาดท่อที่เลือกจะต้องสามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูง หรือความดันอากาศที่เกิดขึ้นในระหว่างการใช้งาน ท่อฟอยล์อลูมิเนียมที่หนากว่าและมีความแข็งแรงสามารถทนต่อแรงดันได้มากกว่า
  • การติดตั้งและพื้นที่การใช้งาน: หากมีพื้นที่จำกัด ควรเลือกท่อที่มีขนาดเล็กและยืดหยุ่นง่าย แต่หากมีพื้นที่กว้างหรืออุปกรณ์ขนาดใหญ่ การเลือกท่อที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจะทำให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • อุณหภูมิและแรงดัน: ควรเลือกขนาดท่อที่สามารถรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือแรงดันสูงได้อย่างปลอดภัย ท่อฟอยล์อลูมิเนียมชนิดหนาสามารถทนทานต่ออุณหภูมิและแรงดันสูงได้ดี
  • ความต้านทานต่อการกัดกร่อน: หากท่อฟอยล์อลูมิเนียมถูกใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูงหรือมีสารเคมี การเลือกขนาดท่อที่มีคุณสมบัติป้องกันการกัดกร่อนจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานและความทนทาน โดยท่อที่มีการชุบสารเคลือบที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการกัดกร่อนจากสารเคมีและน้ำ
  • ประเภทของการใช้งาน: ขนาดของท่อฟอยล์อลูมิเนียมที่เลือกจะขึ้นอยู่กับประเภทของการใช้งาน เช่น หากใช้ในระบบระบายอากาศทั่วไป การเลือกขนาดท่อที่มีขนาดใหญ่จะช่วยให้สามารถระบายอากาศได้มากขึ้น 

การเลือกขนาดท่อฟอยล์อลูมิเนียมที่เหมาะสมจะช่วยให้ระบบระบายอากาศหรือการดูดควันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาการรั่วไหลหรือการติดขัดของอากาศ และเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานในระยะยาว

ตารางเปรียบเทียบความหนาหนา 40 ไมครอนและ 60 ไมครอน

คุณสมบัติท่อฟอยล์ 40 ไมครอนท่อฟอยล์ 60 ไมครอน
ความหนา40 ไมครอน60 ไมครอน
ความทนทานเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปทนทานกว่า เหมาะสำหรับงานหนักและพื้นที่ที่มีแรงดันสูง
ความยืดหยุ่นยืดหยุ่นได้ดียืดหยุ่นได้ดีและทนทานมากกว่า
ทนต่อการฉีกขาดปานกลางทนทานต่อการฉีกขาดสูงกว่า
ทนต่อความร้อนทนได้ถึง 150°Cทนได้ถึง 150 ช่วขณะ 180°C
การรับแรงดันรองรับแรงดันต่ำกว่ารองรับแรงดันสูงถึง 3,000 Pa
การใช้งานเหมาะสำหรับระบบระบายอากาศทั่วไปเหมาะสำหรับงานหนัก เช่น การดูดควันในโรงงานและอุตสาหกรรม

โครงสร้างลวดเหล็กสปริงในท่ออลูมิเนียมฟอยด์

วยรักษารูปทรงของท่อไม่ให้เสียรูปหรือเกิดการรั่วซึม แม้จะมีการยืดหรือหดตัวจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือแรงดันที่สูง ลวดเหล็กสปริงช่วยให้ท่อคงรูปทรงได้ตลอดการใช้งานและเพิ่มความทนทานต่อแรงดึงหรือการกดทับจากการติดตั้งในพื้นที่แคบหรือไม่สะดวก ท่อจึงสามารถทนทานต่อการใช้งานในระยะยาวในระบบระบายอากาศหรือการดูดควันที่ต้องเผชิญกับสภาวะที่มีการขยายตัวหรือหดตัวของวัสดุในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและแรงดันสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ช่วยป้องกันไม่ให้ท่อเสียหายจากการถูกบีบหรือยืดมากเกินไป โดยลวดสปริงจะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงให้กับท่อ ช่วยให้ท่อคงรูปอยู่ตลอดเวลา แม้จะได้รับแรงกระทำจากการใช้งานหนักหรือในสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวสูง เช่น ในระบบระบายอากาศที่มีการเคลื่อนที่ของอากาศหรือการดูดควันที่มีความเร็วสูง

ความสามารถในการรักษารูปทรงและความแข็งแรงนี้ยังช่วยลดโอกาสในการเกิดการรั่วซึมหรือการเสื่อมสภาพของท่อในระยะยาว ช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

อลูมิเนียมฟอยล์ติดไฟไหม

อลูมิเนียมฟอยด์โดยทั่วไปไม่ติดไฟง่าย เนื่องจากมันเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติในการทนความร้อนสูงและไม่สามารถลุกไหม้ได้ง่าย แต่ก็ยังสามารถทนความร้อนได้ตามช่วงอุณหภูมิที่กำหนด บางรึ่นอาจมีการเคลือบสารที่ช่วยเพิ่มคุณสมบัติในการทนไฟ แต่ต้องระวังการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีไฟโดยตรงหรือความร้อนสูงมากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสียหายได้ในบางกรณี ในงานที่เกี่ยวข้องกับการทนความร้อน เช่น ในการทำท่อระบายอากาศ หรือในการหุ้มสายไฟฟ้า มักจะได้รับการออกแบบให้สามารถทนต่อความร้อนได้ในระดับหนึ่ง แต่ก็ต้องพิจารณาถึงข้อจำกัดของมันในการทนต่ออุณหภูมิที่สูงมากหรือการสัมผัสกับไฟโดยตรง หากมีการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากไฟหรืออุณหภูมิสูงเกินไป เช่น ในโรงงานที่มีการทำงานกับเปลวไฟหรือการระเบิด อาจจำเป็นต้องเลือกใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติทนไฟมากขึ้น เช่น ท่อที่มีการเคลือบสารกันไฟ หรือใช้วัสดุที่มีคุณสมบัติการต้านทานไฟได้ดีกว่าโดย จะไม่ติดไฟในสถานการณ์ปกติ แต่ก็ยังต้องระมัดระวังการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เสี่ยงต่อการเกิดไฟไหม้

ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ

Fit (การปรับขนาดท่อ Flex): ขั้นตอนแรกคือการเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมกับขนาดของช่องต่อหรือปากท่อของเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้ท่อสามารถเชื่อมต่อได้อย่างแน่นหนาและไม่มีช่องว่างที่จะทำให้อากาศรั่วออกมา การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันที่ถูกดูดออกจากพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.

Extent (การยืดหรือขยายความยาวท่อ Flex): ขั้นตอนนี้หมายถึงการขยายหรือยืดความยาวของท่อให้พอดีกับระยะห่างระหว่างเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศกับจุดระบายอากาศภายนอกอาคาร ท่อที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้สามารถปรับระยะทางได้ง่ายตามขนาดของพื้นที่ที่ต้องการให้ระบบระบายอากาศทำงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องมีการบีบหรือดัดท่อเกินไป ซึ่งอาจทำให้การไหลของอากาศหรือควันไม่ดีเท่าที่ควร.

Adjust (การปรับทิศทางท่อ): หลังจากการเลือกขนาดและยืดขยายท่อแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการปรับทิศทางของท่อให้โค้งหรือหมุนไปตามทิศทางที่ต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างของอาคารและตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง เช่น การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในพื้นที่ หรือการจัดเรียงท่อให้สะดวกต่อการติดตั้งและการบำรุงรักษา โดยการดัดท่อให้โค้งงอในทิศทางที่ต้องการสามารถช่วยให้ท่อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ. 
Connect (การเชื่อมต่อท่อ): ขั้นตอนสุดท้ายคือการเชื่อมต่อท่อเข้ากับเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ และจุดระบายอากาศภายนอกอาคารให้แน่นหนา โดยการใช้ข้อต่อหรืออุปกรณ์ช่วยในการยึดท่อให้ติดแน่น เพื่อป้องกันการรั่วซึมของอากาศหรือควันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของระบบระบายอากาศ การเชื่อมต่อท่อให้แน่นหนาจะช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยประหยัดพลังงานจากการสูญเสียอากาศที่รั่ว.

หมวด สินค้าประจำหมวด

ท่อเฟล็กซ์ หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรือฟอยล์อลูมิเนียม,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)

อธิบายสรุป อลูมิเนียมฟอยล์คือวัสดุที่ทำจากอลูมิเนียมที่ผ่านกระบวนการรีดให้เป็นแผ่นบาง โดยมีคุณสมบัติที่เด่นในการทนความร้อนสูง และทนต่อการกัดกร่อน สามารถนำไปใช้งานหลากหลาย เช่น การห่อหุ้มอาหาร การทำท่อระบายอากาศ หรือใช้ในงานไฟฟ้าและอุตสาหกรรมที่ต้องการการทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือการสัมผัสกับสารเคมี มีความยืดหยุ่นในการใช้งานและสามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิหรือการสัมผัสกับสารเคมีได้อย่างดี.

Scroll to Top