ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์
ฉนวนใยแก้ว ท่อหุ้มฉนวน
ท่ออลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว ผลิตจากอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้น เคลือบโพลีเอสเตอร์และหุ้มด้วยฉนวนใยแก้วหนา 25 มม. มีความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. ซึ่งช่วยรักษาอุณหภูมิและป้องกันการสูญเสียพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ท่อมีขนาดตั้งแต่ 4 นิ้วถึง 16 นิ้ว และความยาว 10 เมตร/ท่อ สามารถใช้งานได้ในระบบระบายอากาศ, ดูดควัน, และในห้องเย็น ท่อเหมาะสำหรับการลดเสียงจากการไหลของอากาศและช่วยให้การไหลของลมมีประสิทธิภาพมากขึ้น การติดตั้งง่ายและสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ.
"ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์ ฉนวนใยแก้ว ท่อหุ้มฉนวน "
ท่อลมหุ้มฉนวน ท่อเฟล็กซ์ หุ้มฉนวน ราคา
จำหน่ายท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว จัดจำหน่ายสินค้าในกลุ่ม HVAC หรือระบบระบายอากาศ โดยท่อมีขนาดตั้งแต่ 4 นิ้วถึง 16 นิ้ว และมีความยาว 10 เมตรต่อท่อ ซึ่งสามารถใช้งานในระบบระบายอากาศทั่วไป, ดูดควัน, และห้องเย็นหรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ การใช้งานจะง่ายต่อการติดตั้งด้วยความยืดหยุ่นสูงและสามารถดัดโค้งได้ตามต้องการ การบำรุงรักษาทำได้สะดวกโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานเนื่องจากความทนทานของวัสดุความหนา 25 มม. และความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. มีคุณสมบัติที่ดีในการเก็บรักษาความเย็นหรือความร้อน เนื่องจากฉนวนใยแก้วที่มีความหนาแน่นสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการสูญเสียความร้อนหรือเย็นจากการไหลของอากาศในระบบระบายอากาศและเครื่องจักรต่าง ๆ สอบถามขนาดที่ต้องการ สนใจสั่งซื้อ ติดต่อเราได้ทันที!
จำหน่ายท่อหุ้มฉนวนใยแก้วความหนา 25 มม. และความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม
หุ้มฉนวนใยแก้วความหนา 25 มม. และความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. ช่วยให้ท่อมีความแข็งแรงและทนทานต่อการบีบอัดและการเสียดสีในระหว่างการใช้งาน ทำให้ท่อสามารถรองรับแรงดันที่สูงขึ้นและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการการป้องกันความร้อนหรือความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ฉนวนใยแก้วยังมีคุณสมบัติในการลดเสียงจากการไหลของอากาศภายในท่อ ทำให้ท่อเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการความเงียบสงบ เช่น ห้องเครื่องจักรหรือระบบ HVAC ในอาคารพาณิชย์
คุณสมบัติที่ดีในการเก็บรักษาความเย็นหรือความร้อน เนื่องจากฉนวนใยแก้วที่มีความหนาแน่นสูงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันการสูญเสียความร้อนหรือเย็นจากการไหลของอากาศในระบบระบายอากาศและเครื่องจักรต่าง ๆ ด้วยความหนาของฉนวน 25 มม. จึงช่วยเพิ่มความทนทานต่ออุณหภูมิสูงและลดการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายในท่อได้ดี นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันเสียงและการสั่นสะเทือนที่อาจเกิดขึ้นในระบบ HVAC หรืออุตสาหกรรมที่ใช้งาน
Features of Flexible Duct
โครงสร้างท่อ: ผลิตจาก แผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ 3 ชั้น ซึ่งช่วยให้ท่อมีความทนทานสูงต่อการฉีกขาดและเสียดสี
- เคลือบด้วยโพลีเอสเตอร์ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และป้องกันการเสียดสี
- หุ้มด้วยฉนวนใยแก้ว ที่มีความหนา 25 มม. ซึ่งช่วยในการป้องกันการสูญเสียพลังงานและควบคุมอุณหภูมิให้คงที่ภายในท่อ
คุณสมบัติของฉนวนใยแก้ว: ฉนวนใยแก้วมีความ หนา 25 มม. และมี ความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. ซึ่งมีคุณสมบัติในการเก็บอุณหภูมิและป้องกันการสูญเสียความเย็นหรือความร้อนจากการไหลของอากาศภายในท่อ
- ลดการสูญเสียพลังงาน เนื่องจากฉนวนใยแก้วช่วยลดการรั่วไหลของอุณหภูมิ
- ขนาดและความยาว: ท่อมีขนาดตั้งแต่ 4 นิ้ว – 16 นิ้ว และความยาว 10 เมตร/ท่อน ซึ่งทำให้สามารถใช้งานในหลายสถานที่และพื้นที่ขนาดใหญ่ได้
ท่อทั้งสองประเภทมีความยืดหยุ่นและปรับรูปทรงได้ง่าย เหมาะสำหรับการติดตั้งในพื้นที่หลากหลายรูปแบบ แต่เน้นใช้งานในลักษณะเฉพาะตามวัตถุประสงค์ ท่อระบายอากาศ: ใช้สำหรับการส่งและรับอากาศในระบบระบายอากาศ เช่น การระบายอากาศในอาคารสำนักงานหรือโรงงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายใน ลดการสะสมของอากาศเสีย ควัน หรือกลิ่นไม่พึงประสงค์
ท่อดูดฝุ่น ดูดควัน: ใช้ในการดูดและขนส่งฝุ่น ควัน หรือสารเคมีในโรงงานอุตสาหกรรมหรือกระบวนการผลิตที่มีมลพิษ เช่น ฝุ่นจากการเจียร ควันจากการเชื่อม หรือไอระเหย ท่อนี้มักทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสารเคมีและอุณหภูมิสูง
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
รางกระดูกงู ใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
การติดตั้งท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว
การติดตั้งท่อหุ้มฉนวนใยแก้วยังสามารถทำได้ง่ายในพื้นที่จำกัดหรือซับซ้อน เพราะท่อมีความยืดหยุ่นและสามารถดัดโค้งตามทิศทางที่ต้องการ การเลือกใช้ท่อประเภทนี้จะช่วยลดการสูญเสียพลังงานจากการรั่วซึมของอากาศและเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศหรือการดูดควันในระบบต่าง ๆ ในกรณีที่ใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิสูงหรือสภาพแวดล้อมที่มีการสั่นสะเทือน ท่อก็ยังสามารถรองรับการทำงานได้ดีทนทานต่อการเสียดสีและการบีบอัด: ช่วยป้องกันการเสียหายจากการใช้งานที่มีการเสียดสีหรือการบีบอัด สามารถดัดโค้งและยืดหยุ่นได้ง่ายในการติดตั้ง ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือที่มีโครงสร้างซับซ้อน
การวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ (Diameter)
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (Internal Diameter – ID):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายในของท่อ (ID) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่มีขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับขนาดภายในของท่อ เช่น เวอร์เนีย หรือเครื่องมือวัดขนาดท่อที่มีความแม่นยำสูง เมื่อวัดค่า ID อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เลือกท่อที่มีขนาดเหมาะสมกับการใช้งาน เช่น ระบบระบายอากาศหรือระบบส่งของเหลวในท่อ.การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอก (External Diameter – OD):
การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ (OD) ทำได้โดยการใช้เครื่องมือวัดที่เหมาะสม เช่น ไมโครมิเตอร์ หรือเครื่องมือวัดขนาดที่สามารถวัดได้ตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางภายนอกของท่อ หากต้องการคำนวณค่า OD จากเส้นรอบวง สามารถทำได้โดยการวัดเส้นรอบวงของท่อแล้วนำค่ามาหารด้วยค่าคงที่ (π หรือ 3.1416) เพื่อหาค่าเส้นผ่านศูนย์กลางที่ถูกต้อง.การเลือกเครื่องมือวัดที่เหมาะสม:
เพื่อให้การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางทั้งภายในและภายนอกเป็นไปได้อย่างแม่นยำ ควรเลือกเครื่องมือวัดที่มีความละเอียดสูงและเหมาะสมกับประเภทท่อที่ใช้งาน ตัวอย่างเช่น การใช้เวอร์เนียแบบดิจิตอลเพื่อความสะดวกและแม่นยำในการวัด หรือการใช้ไมโครมิเตอร์สำหรับท่อขนาดเล็กที่ต้องการความแม่นยำสูง.การคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางจากเส้นรอบวง:
หากการวัดเส้นผ่านศูนย์กลางเป็นเรื่องยากหรือไม่สะดวก สามารถใช้วิธีการคำนวณจากเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อได้ โดยการวัดเส้นรอบวงแล้วนำค่ามาหารด้วยค่า π (3.1416) จะได้ค่าเส้นผ่านศูนย์กลางของท่อ ซึ่งการคำนวณนี้เป็นวิธีที่ใช้กันบ่อยในกรณีที่ไม่สามารถวัดตรงกับเส้นผ่านศูนย์กลางได้
เครื่องมือวัดเส้นรอบวง (Circumference Tape or Measuring Tape):
ในกรณีที่การวัดเส้นผ่านศูนย์กลางตรงๆ ไม่สามารถทำได้ หรือเป็นท่อขนาดใหญ่ การวัดเส้นรอบวง (Circumference) ของท่อแล้วคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางสามารถทำได้โดยใช้เครื่องมือวัดเช่น เทปวัดที่มีความยืดหยุ่นและสามารถพันรอบท่อได้ จากนั้นใช้สูตรคำนวณเส้นผ่านศูนย์กลางโดยการหารเส้นรอบวงด้วยค่า π (ประมาณ 3.1416).
เวอร์เนียคาลิปเปอร์ (Vernier Caliper):
เครื่องมือวัดที่นิยมใช้ในการวัดขนาดภายในและภายนอกของท่อได้อย่างแม่นยำ เวอร์เนียคาลิปเปอร์มีทั้งแบบดิจิตอลและแบบอนาล็อก ซึ่งสามารถวัดได้ทั้งเส้นผ่านศูนย์กลางภายใน (ID) และภายนอก (OD) โดยการใช้ปลายของเครื่องมือวัดสัมผัสกับขอบของท่อ เพื่อให้ได้ค่าที่ละเอียดและแม่นยำสูง.
ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: ตั้งแต่ 4 นิ้ว (100 มม.) ถึง 16 นิ้ว (400 มม.
ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้วมีขนาดที่หลากหลาย ซึ่งสามารถเลือกใช้งานได้ตามความต้องการ โดยมีขนาดที่นิยมดังนี้: ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: ตั้งแต่ 4 นิ้ว (100 มม.) ถึง 16 นิ้ว (400 มม.) ซึ่งสามารถปรับใช้ในระบบระบายอากาศต่างๆ ทั้งในพื้นที่ขนาดเล็กและใหญ่ ความหนาของฉนวน: 25 มม. ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนและความเย็นความยาวท่อ: ท่อมีความยาวมาตรฐานที่ 10 เมตรต่อท่อ ซึ่งสามารถยืดหรือหดได้ตามความต้องการในการติดตั้ง ขนาดเหล่านี้ทำให้ท่อเหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายอากาศ, ดูดควัน, หรือในอุตสาหกรรมที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิและลดการสูญเสียพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตารางการดูแลและบำรุงรักษาท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว
ท่อหุ้มฉนวนช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศ
ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ
รายละเอียดสินค้าท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์ ฉนวนใยแก้ว ท่อหุ้มฉนวน
- วัสดุผลิต: ผลิตจากแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์ชนิดพิเศษ ประกอบกับแผ่นโพลีเอสเตอร์ และเสริมโครงสร้างด้วยลวดสปริงเหล็กกล้า
- ฉนวนหุ้ม: ฉนวนใยแก้วความหนา 25 มม. ความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. ช่วยป้องกันการสูญเสียอุณหภูมิและลดเสียง
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง: มีให้เลือกตั้งแต่ 4 นิ้ว (100 มม.) ถึง 16 นิ้ว (400 มม.)
- ความยาว: มีความยาวมาตรฐาน 10 เมตร/ท่อน สามารถยืดและปรับความยาวได้ตามการติดตั้ง
- คุณสมบัติเด่น:
- ทนทานต่ออุณหภูมิสูง-ต่ำ
- ลดการสูญเสียพลังงาน และลดเสียงรบกวน
- น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ดัดโค้งได้ตามต้องการ
- รองรับแรงดันลมและความเร็วลมระดับกลางถึงต่ำ
การใช้งานของท่อฟอยด์หุ้มฉนวนใยแก้ว
ระบบระบายอากาศ
- ใช้เป็นท่อส่งลมในระบบระบายอากาศของอาคารสำนักงาน, ห้างสรรพสินค้า, โรงพยาบาล และโรงงานอุตสาหกรรม
- ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของอากาศ ลดการสะสมของความร้อน และลดกลิ่นอับภายในอาคาร
- ฉนวนใยแก้วช่วยลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศผ่านท่อ
ท่อลมเย็น
- เหมาะสำหรับระบบปรับอากาศที่ต้องการควบคุมอุณหภูมิ เช่น ระบบส่งลมเย็นจากเครื่องปรับอากาศไปยังจุดปล่อยลมในห้อง
- ป้องกันการสูญเสียพลังงานจากความร้อนที่สะสมในท่อ ช่วยให้ระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดการควบแน่นของไอน้ำบนผิวท่อ ป้องกันปัญหาความชื้นสะสมที่อาจนำไปสู่เชื้อรา
ระบบดูดควันในครัว
- ใช้เป็นท่อระบายควันและไอน้ำมันจากห้องครัวในร้านอาหาร, โรงแรม และบ้านพักอาศัย
- วัสดุอลูมิเนียมฟอยล์สามารถทนความร้อนได้ดี ไม่ติดไฟง่าย และป้องกันการสะสมของเขม่า
- โครงสร้างท่อมีความยืดหยุ่น ปรับโค้งงอได้ตามลักษณะพื้นที่ ติดตั้งได้สะดวก
ตารางการดูแลและบำรุงรักษาท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว
รายการตรวจสอบ | รายละเอียด | ความถี่ในการตรวจสอบ |
---|---|---|
ตรวจสอบสภาพภายนอกของท่อ | ตรวจดูรอยฉีกขาด รอยรั่ว หรือการเสื่อมสภาพของฉนวนใยแก้ว | ทุก 6-12 เดือน |
ทำความสะอาดภายในท่อ | ใช้เครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมหรือเครื่องเป่าลมแรงดันสูง เพื่อลดการสะสมของฝุ่นและสิ่งสกปรก | ทุก 12 เดือน |
ป้องกันความชื้นและเชื้อรา | ตรวจสอบการควบแน่นของไอน้ำ และความชื้นที่อาจส่งผลต่อฉนวนใยแก้ว | ทุก 6 เดือน |
ตรวจสอบข้อต่อและจุดเชื่อมต่อ | ตรวจสอบความแน่นหนาของข้อต่อและใช้เทปฟอยล์หรือซีลแลนท์ปิดรอยรั่ว | ทุก 6 เดือน |
ตรวจสอบการบีบอัดหรือการพับงอ | ตรวจสอบว่าท่อไม่มีการบีบอัดหรือโค้งงอมากเกินไปที่อาจลดประสิทธิภาพการไหลของอากาศ | ทุก 12 เดือน |
ป้องกันสัตว์รบกวน | ติดตั้งตะแกรงหรือฝาปิดปลายท่อ ป้องกันแมลง หนู และสิ่งแปลกปลอมเข้าไปในท่อ | ทุก 12 เดือน |
ท่อหุ้มฉนวนช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศ
ท่อฉนวนใยแก้ว หุ้มฉนวนช่วยลดการสูญเสียพลังงานและลดเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศ จึงเหมาะสำหรับอาคารสำนักงาน โรงแรม ห้างสรรพสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกซื้อควรพิจารณาความหนาของฉนวนใยแก้ว ซึ่งโดยทั่วไปมีขนาด 25 มม. และความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. เพื่อการป้องกันความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ควรติดตั้งให้แน่นหนาและไม่มีรอยรั่วเพื่อให้ระบบระบายอากาศทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และควรมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ เช่น การตรวจสอบรอยรั่วและทำความสะอาดภายในท่อ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพอากาศภายในอาคาร
ขนาดให้เลือกตั้งแต่ 4 นิ้วถึง 16 นิ้ว และความยาวมาตรฐาน 10 เมตรต่อเส้น การเลือกซื้อควรพิจารณาความหนาของฉนวนใยแก้วเพื่อให้เหมาะกับการใช้งาน เช่น หากใช้ในระบบปรับอากาศ ควรเลือกท่อที่มีฉนวนหนาขึ้นเพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานและลดการเกิดหยดน้ำจากการควบแน่น ท่อประเภทนี้เหมาะกับการใช้งานในระบบดูดควัน เช่น ร้านอาหารหรือโรงงานผลิตที่มีไอร้อนและกลิ่นสะสม
อลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว ควรตรวจสอบมาตรฐานของวัสดุ เช่น ความหนาของฉนวน (25 มม.) และความหนาแน่น (16-32 กก./ลบ.ม.) เพื่อให้แน่ใจว่าท่อสามารถกันความร้อนได้ดีและลดการสูญเสียพลังงานในการทำความเย็น การใช้งานท่อชนิดนี้นิยมในระบบปรับอากาศและระบายอากาศของอาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และโรงงานอุตสาหกรรม
การติดตั้งท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้ว
ท่อหุ้มฉนวนใยแก้ว ควรใช้ข้อต่อและอุปกรณ์ยึดที่เหมาะสม เช่น คลิปหนีบ ข้อต่อแบบเกลียว หรือเทปอลูมิเนียม เพื่อป้องกันการรั่วซึมของอากาศ นอกจากนี้ การเลือกใช้ท่อที่มีฉนวนใยแก้วช่วยลดการควบแน่นของไอน้ำ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อราและปัญหาความชื้นภายในอาคาร ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งท่อในพื้นที่ที่มีความร้อนสูงหรือใกล้เปลวไฟโดยตรง เนื่องจากแม้ฉนวนใยแก้วจะทนความร้อนแต่ก็ควรมีมาตรการป้องกันเพื่อความปลอดภัยสูงสุด ในแง่ของการใช้งาน ท่อประเภทนี้เหมาะสำหรับระบบระบายอากาศที่ต้องการลดเสียงรบกวนและรักษาอุณหภูมิอากาศให้คงที่ เช่น ระบบปรับอากาศภายในอาคารและระบบระบายอากาศในอุตสาหกรรมอาหารและโรงงานผลิตต่าง ๆ
ขั้นตอนการติดตั้งท่อระบายอากาศ
Fit (การปรับขนาดท่อ Flex): ขั้นตอนแรกคือการเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมกับขนาดของช่องต่อหรือปากท่อของเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ เพื่อให้ท่อสามารถเชื่อมต่อได้อย่างแน่นหนาและไม่มีช่องว่างที่จะทำให้อากาศรั่วออกมา การเลือกขนาดท่อที่เหมาะสมช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันที่ถูกดูดออกจากพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
Extent (การยืดหรือขยายความยาวท่อ Flex): ขั้นตอนนี้หมายถึงการขยายหรือยืดความยาวของท่อให้พอดีกับระยะห่างระหว่างเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศกับจุดระบายอากาศภายนอกอาคาร ท่อที่ยืดหยุ่นจะช่วยให้สามารถปรับระยะทางได้ง่ายตามขนาดของพื้นที่ที่ต้องการให้ระบบระบายอากาศทำงานได้เต็มที่ โดยไม่ต้องมีการบีบหรือดัดท่อเกินไป ซึ่งอาจทำให้การไหลของอากาศหรือควันไม่ดีเท่าที่ควร.
Adjust (การปรับทิศทางท่อ): หลังจากการเลือกขนาดและยืดขยายท่อแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการปรับทิศทางของท่อให้โค้งหรือหมุนไปตามทิศทางที่ต้องการเพื่อให้เหมาะสมกับโครงสร้างของอาคารและตำแหน่งที่ต้องการติดตั้ง เช่น การหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางในพื้นที่ หรือการจัดเรียงท่อให้สะดวกต่อการติดตั้งและการบำรุงรักษา โดยการดัดท่อให้โค้งงอในทิศทางที่ต้องการสามารถช่วยให้ท่อทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ.
Connect (การเชื่อมต่อท่อ): ขั้นตอนสุดท้ายคือการเชื่อมต่อท่อเข้ากับเครื่องดูดควันหรือพัดลมระบายอากาศ และจุดระบายอากาศภายนอกอาคารให้แน่นหนา โดยการใช้ข้อต่อหรืออุปกรณ์ช่วยในการยึดท่อให้ติดแน่น เพื่อป้องกันการรั่วซึมของอากาศหรือควันที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการทำงานของระบบระบายอากาศ การเชื่อมต่อท่อให้แน่นหนาจะช่วยให้การไหลของอากาศหรือควันมีประสิทธิภาพสูงสุด และช่วยประหยัดพลังงานจากการสูญเสียอากาศที่รั่ว.
ท่อเฟล็กซ์ หรือท่อดูดลมแบบยืดหยุ่น คืออุปกรณ์สำหรับการลำเลียงอากาศหรือวัสดุเบา ๆ ในระบบระบายอากาศและระบบอุตสาหกรรมต่าง ๆ ท่อชนิดนี้มีคุณสมบัติเด่นที่ความยืดหยุ่น น้ำหนักเบา และสามารถดัดโค้งได้ง่าย ทำให้เหมาะกับการติดตั้งในพื้นที่ที่เข้าถึงยากหรือมีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ วัสดุที่ใช้มีหลากหลาย เช่น พลาสติก PVC, PU, หรืออลูมิเนียมฟอยล์,เหล็ก,สแตนเลส ขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งาน โดยท่อบางรุ่นสามารถทนต่ออุณหภูมิสูง ทนสารเคมี หรือป้องกันไฟได้ จึงเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทาน เช่น การระบายอากาศในโรงงาน การดูดควันในครัวอุตสาหกรรม หรือการส่งผ่านอากาศในระบบ HVAC (ระบบปรับอากาศและระบายอากาศ)
อธิบายสรุป ท่อลมอลูมิเนียมฟอยล์หุ้มฉนวนใยแก้วเป็นท่อที่ผลิตจากอลูมิเนียมฟอยล์เคลือบโพลีเอสเตอร์และหุ้มด้วยฉนวนใยแก้วหนา 25 มม. ที่มีความหนาแน่น 16-32 กก./ลบ.ม. ท่อชนิดนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในระบบระบายอากาศ การดูดควัน และการระบายอากาศในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เนื่องจากมีคุณสมบัติในการป้องกันการสูญเสียพลังงาน ความร้อน และเสียงรบกวนจากการไหลของอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยลดการควบแน่นของไอน้ำและป้องกันการเกิดเชื้อรา การติดตั้งท่อประเภทนี้ง่ายและยืดหยุ่น สามารถดัดโค้งให้เหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน โดยมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงหรือแรงดันต่ำ ทำให้เหมาะสำหรับใช้งานในหลากหลายสภาพแวดล้อมทั้งในบ้านและอุตสาหกรรม