สยามร่วมค้า | ศูนย์รวมอุปกรณ์ป้องกันสายไฟและท่ออุตสาหกรรมมาตรฐานสากล

Semi Close รางกระดูกงูร้อยสายไฟ
ทึบบนโปร่งล่าง

รางกระดูกงูร้อยสายไฟแบบทึบบน-โปร่งล่าง คือรางกระดูกงูที่มีฝาครอบปิดด้านบนเพื่อป้องกันสายไฟจากฝุ่นหรือสิ่งแปลกปลอมจากด้านบน ขณะที่ด้านล่างเปิดหรือโปร่ง เพื่อให้น้ำหนักเบา ระบายอากาศได้ดี และช่วยลดความร้อนสะสมในสายไฟ เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการป้องกันในระดับหนึ่งแต่ยังต้องการความยืดหยุ่นในการระบายความร้อน เช่น งานในเครื่องจักร CNC หรือระบบอัตโนมัติภายในอาคาร จุดเด่นคือผสมผสานข้อดีของแบบปิดและแบบเปิดเข้าด้วยกัน ทั้งเรื่องการป้องกันและความสะดวกในการตรวจสอบสายไฟ

"Semi Close รางกระดูกงูร้อยสายไฟทึบบนโปร่งล่าง"

รางกระดูกงูผลิตจากวัสดุพลาสติก PA6 ที่มีคุณสมบัติทนความร้อน

สามารถเปิดฝาด้านบนเพื่อเข้าถึงสายไฟได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องรื้อรางทั้งหมด นแรงกระแทก และทนต่อสารเคมีบางชนิดได้ดี โครงสร้างที่โปร่งด้านล่างยังช่วยให้ตรวจสอบความผิดปกติของสายไฟได้รวดเร็ว เช่น การเสียดสี หรือความร้อนสะสม เหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวแต่ยังคงการปกป้องในระดับหนึ่ง เช่น สายสัญญาณ หรือสายควบคุมในระบบ automation.
พร้อมให้คำแนะนำและเลือกขนาดที่เหมาะสมกับงานของคุณ 📌 สนใจสอบถามหรือสั่งซื้อ ติดต่อเราได้เลยค่ะ! 📞

สินค้าจัดรายการ🖱️

การติดตั้ง Semi Close Cable Drag Chain

สามารถดัดโค้งตามแนวการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรได้ดี ช่วยให้สายไฟภายในไม่เกิดการตึงหรือบิดงอเกินค่าที่กำหนด ซึ่งช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟไปพร้อมกับตัวรางเอง การมีฝาปิดด้านบนยังช่วยลดความเสี่ยงจากน้ำหยดหรือสิ่งของตกใส่สายไฟโดยตรง เหมาะกับงานที่ต้องการความสะอาดและปลอดภัย เช่น ระบบควบคุมในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และอิเล็กทรอนิกส์

พื้นที่ภายในของราง ที่ใช้ร้อยสายไฟหรือสายเคเบิล เป็นข้อมูลสำคัญในการเลือกขนาดให้เหมาะกับจำนวนและขนาดของสายไฟที่ใช้จริง

  • Inside Width (W) = ความกว้างภายในของราง 
    Inside Height (H) = ความสูงภายในของราง

📝 เช่น W = 25mm, H = 20mm → หมายถึง ภายในรางมีพื้นที่ 25×20 มม. สำหรับจัดวางสายไฟ

Features of Cable drag chain

  • ป้องกันสายไฟจากความเสียหาย ช่วยป้องกันสายไฟและสายเคเบิลจากการเสียดสี การบิดงอ หรือแรงดึงระหว่างการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร
  • รองรับการเคลื่อนไหวซ้ำอย่างต่อเนื่อง ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในระบบที่มีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น แขนกล หุ่นยนต์ CNC และเครื่องจักรอัตโนมัติ
  • ติดตั้งง่ายและถอดเปลี่ยนสะดวก โครงสร้างแบบโมดูลาร์ ทำให้สามารถตัดต่อความยาวหรือเปิดฝาครอบเพื่อวางสายไฟได้สะดวก
  • มีทั้งแบบเปิด (Open Type) และแบบปิด (Close Type) เลือกใช้งานได้ตามสภาพแวดล้อม เช่น แบบปิดเหมาะกับพื้นที่ที่มีฝุ่นละออง น้ำ หรือเศษวัสดุ
  • ผลิตจากวัสดุหลากหลาย เช่น พลาสติก PA6/PA66 ที่มีน้ำหนักเบา ทนแรงกระแทก และความร้อน หรือ เหล็กชุบกัลวาไนซ์ / สเตนเลส สำหรับงานหนัก
  • รองรับสายไฟได้หลายเส้นในรางเดียว มีขนาดหลากหลายให้เลือก ทั้งความกว้าง ความสูง และรัศมีโค้ง (Bending Radius) ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภท
หมวด สินค้าใกล้เคียง

กระดูกงูร้อยสายไฟใช้ในการ ป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิลต่างๆ ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา

ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว

หมวด สินค้าที่เกี่ยวข้อง

ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง

เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น

Bending Radius รางกระดูกงูร้อยสายไฟ (ค่า R )

Bending Radius (ค่า R) คือหนึ่งในข้อมูลสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อติดตั้ง (Cable Drag Chain) ในระบบที่มีการเคลื่อนไหว โดยเฉพาะในงานอุตสาหกรรม เช่น เครื่อง CNC, หุ่นยนต์, ระบบอัตโนมัติ, เครื่องบรรจุ หรือแขนกลต่างๆรัศมีการโค้งงอ คือระยะทางจาก จุดหมุนศูนย์กลาง ไปยัง ผิวด้านในของการโค้ง เมื่อรางเคลื่อนไหว มักแสดงเป็นหน่วย มิลลิเมตร (mm) เช่น R28, R50, R75 เป็นต้น ป้องกันสายไฟเสียหาย หากเลือกค่า R ที่เล็กเกินไป อาจทำให้สายไฟภายในโค้งงอมากเกินจนฉีกขาด หรือขาดภายในโดยไม่รู้ตัวเพิ่มอายุการใช้งานของสายไฟและสายเคเบิลการมีระยะโค้งที่เหมาะสมช่วยให้สายไฟไม่ถูกบีบหรือยืดหดเกินความจำเป็นทำให้การเคลื่อนไหวของระบบราบรื่นค่า R ที่เหมาะสมจะช่วยให้การเคลื่อนที่ของรางเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ไม่มีแรงต้านหรือสะดุด

การวัดความขนาดของกระดูกงูเก็บสายไฟ

การวัดความขนาดของกระดูกงูต่อสายไฟ (Cable Chain Measurement)

การเว้นช่องว่างอย่างน้อย 10% ทั้งในด้านความกว้างและความสูงภายในรางเคเบิลเป็นสิ่งสำคัญมากในการติดตั้งและใช้งานเพื่อป้องกันการสึกหรอและลดโอกาสเกิดความเสียหายกับสายเคเบิลหรือสายพาน โดยการทำตามแนวทางนี้ จะช่วยให้การติดตั้งและใช้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เราสามารถทำได้ตามแนวทางดังนี้:

  • 1. การวัดความกว้างของราง (Chain Width Measurement) ทำการวัดความกว้างของ  โดยให้ความสนใจว่าความกว้างนี้ต้องพอเพียงสำหรับการติดตั้งสายเคเบิลหรือสายพานหลายเส้นในแนวขนาน ซึ่งหากมีสายหลายเส้นในรางเดียว ควรมีช่องว่างระหว่างแต่ละเส้นอย่างน้อย 10% ของความกว้างสาย
  • 2. การคำนวณค่า 10% ของความกว้างสายเคเบิล (Calculate 10% of Cable Width) เมื่อทราบความกว้างของสายเคเบิลหรือสายพานที่ต้องการติดตั้งในรางแล้ว ให้คำนวณค่า 10% ของความกว้างนี้เพื่อเป็นช่องว่างเพิ่มเติม โดยการเพิ่ม 10% นี้จะช่วยป้องกันการเสียดสีและช่วยให้การเคลื่อนที่ของสายทำได้อย่างราบรื่น ลดความตึงเครียดของสายขณะเคลื่อนที่
  • 3. เว้นช่องว่างความสูงอย่างน้อย 10% ไม่เพียงแค่ความกว้าง ช่องว่างในแนวสูงภายในรางก็ควรมีอย่างน้อย 10% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายเคเบิลหรือสายพานเช่นกัน เพื่อให้สายเคเบิลไม่เกิดการบีบอัดและสามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระขณะการทำงาน
  • 4. ประโยชน์จากการเว้นช่องว่างที่เหมาะสม การเว้นช่องว่างทั้งด้านกว้างและสูงอย่างน้อย 10% จะช่วยลดการสึกหรอที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของสายภายในราง ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของสายเคเบิลและสายพานได้ ทำให้ระบบการเคลื่อนที่ภายในเครื่องจักรทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น ลดโอกาสเกิดปัญหาขัดข้องที่อาจส่งผลต่อการผลิตหรือการทำงานของระบบ

รัศมีการดัดโค้ง (Bending Radius) ของกระดูกงูมีจุดสำคัญที่ต้องพิจารณาดังนี้

  • หลักการเว้นพื้นที่ 15%: ควรเว้นพื้นที่ในรางอย่างน้อย 15% ของพื้นที่ทั้งหมด เพื่อให้สายไฟหรือท่อสามารถเคลื่อนไหวได้โดยไม่เกิดแรงกดหรือแรงตึงที่อาจทำให้สายเสียหาย
  • การรองรับการเคลื่อนไหวอย่างอิสระ: พื้นที่ว่างช่วยให้สายไฟหรือท่อโค้งงอได้โดยไม่มีแรงกระทำมากเกินไป ลดความเสี่ยงต่อการเสียหายจากการเสียดสี
  • ผลกระทบต่ออายุการใช้งาน: หากเว้นพื้นที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้สายไฟหรือท่อขาดความยืดหยุ่นและเกิดการสึกหรอ ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของทั้งรางและสายไฟ
  • ความสำคัญของรัศมีโค้ง: รัศมีโค้งที่เหมาะสมช่วยลดแรงกระทำต่อสายไฟและราง ทำให้ระบบเคลื่อนไหวได้ราบรื่นและยืดอายุการใช้งาน

การเข้าสายไฟเป็นเรื่องง่ายและสะดวกของกระดูกงูเก็บสายไฟ

คุณสมบัติที่ทำให้การเข้าสายไฟเป็นเรื่องง่ายและสะดวก ด้านล่างที่โปร่งช่วยให้สามารถจัดระเบียบสายไฟได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องถอดรางออกทั้งหมดเพื่อใส่สายไฟใหม่ นอกจากนี้ยังช่วยให้สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนสายไฟได้ง่ายในอนาคต เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงการใช้งานหรือการขยายระบบ พร้อมทั้งช่วยให้การบำรุงรักษาและการตรวจสอบเป็นไปได้สะดวกและรวดเร็ว เพราะสามารถเข้าถึงสายไฟได้โดยตรงจากส่วนโปร่ง ทำให้การตรวจสอบและซ่อมแซมมีความคล่องตัวสูง ช่วยเพิ่มความสะดวกในการติดตั้งในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการถอดหรือย้ายรางเพื่อเปลี่ยนสายไฟ นอกจากนี้ ด้วยการออกแบบที่โปร่งด้านล่าง จึงสามารถเพิ่มหรือลดจำนวนสายไฟได้อย่างยืดหยุ่นตามความต้องการ ช่วยให้การจัดระเบียบสายไฟมีความเป็นระเบียบและปลอดภัย พร้อมทั้งยังลดเวลาการทำงานในกรณีที่ต้องมีการเปลี่ยนสายไฟใหม่หรือบำรุงรักษาระบบต่าง ๆ

ตัวอย่างตาราง Bending Radius ที่พบได้ทั่วไป

กระดูกงูทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Close Type):

วัสดุพลาสติก PA6 / เหล็กชุบกัลวาไนท์ และสแตนเลส

วิธีการเลือกรางกระดูกงูร้อยสายไฟและ Bending Radius (ค่า R) อย่างเหมาะสม

การเลือกรางกระดูกงู (Cable Drag Chain) ที่เหมาะสมมีความสำคัญอย่างมากต่อการป้องกันสายไฟและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องจักร ดังนี้คือหลักการเลือกที่ควรคำนึงถึง:


✅ 1. ขนาดของสายไฟและจำนวนสายไฟ

  • เลือกขนาดความกว้าง (Inner Width) และความสูง (Inner Height) ของรางให้เหมาะกับจำนวนและขนาดของสายไฟ
  • แนะนำให้เหลือช่องว่างประมาณ 10-20% จากขนาดสายไฟจริง เพื่อการระบายความร้อนและป้องกันการเสียดสี

✅ 2. การเลือก Bending Radius (ค่า R)

  • Bending Radius คือ รัศมีการโค้งของกระดูกงูเมื่อมีการเคลื่อนไหว
  • ควรเลือกค่า R ที่ มากกว่าหรือเท่ากับ 6-10 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางของสายไฟที่ใหญ่ที่สุด
  • ตัวอย่าง: หากสายไฟมีขนาด Ø10 mm ควรใช้รางที่มี Bending Radius อย่างน้อย R60 – R100 mm

✅ 3. ความยาวของราง (Travel Length)

  • คำนวณจากระยะที่รางจะต้องเคลื่อนที่ไป-กลับ (Stroke Length)
  • ความยาวของราง = (Stroke Length ÷ 2) + ค่าเบี้ยวของโซ่

✅ 4. สภาพแวดล้อมการใช้งาน

  • หากมีฝุ่น น้ำ หรือเศษวัสดุแวดล้อม ควรเลือก รางแบบปิด (Close Type)
  • หากต้องการเข้าถึงสายไฟบ่อย เลือก รางแบบเปิด (Open Type)

✅ 5. วัสดุของราง

  • พลาสติก (PA6/PA66): เบา ทนต่อแรงกระแทก และเหมาะกับงานทั่วไป
  • เหล็กชุบกัลวาไนซ์หรือสเตนเลส: เหมาะสำหรับงานหนัก งานกลางแจ้ง หรือที่มีอุณหภูมิสูง

ตัวอย่างตาราง Bending Radius ที่พบได้ทั่วไป

ประเภทงานขนาดสายไฟโดยประมาณค่า R ที่แนะนำ
งานเบา (เครื่องเล็ก)Ø 5–8 mmR28 / R38
งานทั่วไปØ 10–15 mmR50 / R75
งานหนัก / ระบบอัตโนมัติØ 20–30 mmR100 / R125

กระดูกงูทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Close Type):

รางกระดูกงูที่มีโครงสร้างทึบในส่วนบนและโปร่งในส่วนล่าง โดยส่วนทึบจะช่วยป้องกันสายไฟจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เช่น ฝุ่นละออง น้ำ หรือเศษวัสดุในขณะที่ส่วนโปร่งล่างจะช่วยให้สามารถเข้าถึงสายไฟได้ง่ายขึ้นและระบายความร้อนได้ดี การออกแบบนี้ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการการป้องกันที่ดีแต่ยังคงต้องการความสะดวกในการบำรุงรักษา เช่น ในระบบอัตโนมัติ หรือเครื่องจักรที่ต้องมีการเข้าถึงสายไฟบ่อยครั้ง

  • ป้องกันการเสียดสีและสิ่งแวดล้อม: ส่วนทึบช่วยป้องกันสายไฟจากสิ่งต่าง ๆ ภายนอก
  • ระบายความร้อนดี: ส่วนโปร่งช่วยให้ความร้อนที่เกิดจากสายไฟถูกระบายออกได้ดี
  • การเข้าถึงสายไฟสะดวก: การออกแบบโปร่งล่างช่วยให้การบำรุงรักษาและการเปลี่ยนสายไฟทำได้ง่าย
  • เหมาะกับพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวสูง: รองรับการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรได้ดี
  • น้ำหนักเบาและติดตั้งง่าย: มีน้ำหนักเบาและติดตั้งง่ายไม่ซับซ้อน

ข้อดีของรางกระดูกงูทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Close Type):

การป้องกันสิ่งแวดล้อมภายนอกที่อาจทำให้สายไฟเสียหาย เช่น ฝุ่นหรือเศษวัสดุต่าง ๆ ด้านบนที่ทึบช่วยป้องกันความเสียหายจากการเสียดสีหรือสารเคมี ในขณะเดียวกัน ด้านล่างที่โปร่งช่วยให้การระบายความร้อนดีขึ้น และสะดวกในการเข้าถึงสายไฟเพื่อการบำรุงรักษาหรือเปลี่ยนสายไฟเมื่อจำเป็น นอกจากนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรสูง หรือในระบบที่ต้องการบำรุงรักษาบ่อยครั้ง ช่วยในการยืดอายุการใช้งานของสายไฟ โดยการป้องกันการเสียดสีและแรงกระแทกจากภายนอก ด้านโปร่งล่างทำให้การตรวจสอบและบำรุงรักษาสายไฟเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีความทนทานสูงต่อสภาพแวดล้อมที่มีการเคลื่อนไหวบ่อย ๆ เช่น ในระบบอัตโนมัติและเครื่องจักร CNC ที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง

วัสดุพลาสติก PA6 / เหล็กชุบกัลวาไนท์ และสแตนเลส

พลาสติก PA6 (Polyamide 6): พลาสติก PA6 มีคุณสมบัติที่ดีในการทนทานต่อแรงกดและการเสียดสีสูง พลาสติกชนิดนี้ยังมีความยืดหยุ่นดี ทนทานต่อสารเคมีบางชนิดและสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมีเบา ๆ โดยไม่เสี่ยงต่อการกัดกร่อน หรือการแตกหักจากการกระแทก นอกจากนี้ยังมีน้ำหนักเบา ทำให้การติดตั้งและการขนย้ายสะดวกมากขึ้น

เหล็กชุบกัลวาไนท์: เหล็กชุบกัลวาไนท์มีคุณสมบัติในการทนทานต่อการกัดกร่อนและความชื้นสูง เนื่องจากชั้นเคลือบสังกะสีบนพื้นผิวช่วยป้องกันการเกิดสนิม เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีการสัมผัสกับน้ำหรือสารเคมีที่สามารถทำให้เหล็กเกิดสนิมได้ เหล็กชนิดนี้มีความแข็งแรงสูงและเหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานในการรองรับน้ำหนักมาก ๆ

สแตนเลส: ทำจากสแตนเลสมีคุณสมบัติในการทนทานต่อการกัดกร่อนจากทั้งน้ำและสารเคมีได้ดีเยี่ยม สแตนเลสมีความแข็งแรงสูงและทนทานต่อการขัดสีและแรงกระแทก เหมาะสำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมหนัก เช่น อุตสาหกรรมเคมี หรืออาหารที่ต้องการความปลอดภัยและความทนทานสูง เนื่องจากสแตนเลสไม่เป็นสนิมและสามารถทนต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรงได้ดี

หมวด สินค้าประจำหมวด

Cable Drag Chain คือ รางที่ใช้ในการจัดระเบียบและป้องกันสายเคเบิลหรือท่อ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มความทนทานในสภาพแวดล้อมที่มีความร้อนสูงและสารเคมีต่าง ๆ โดยช่วยป้องกันการเสียดสี การพันกัน และการเสียหายของสายไฟ ช่วยยืดอายุการใช้งานของสายไฟหรือท่อในระยะยาว มีความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง เช่น โรงงาน, เครื่องจักร, และระบบไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการเคลื่อนที่.

อธิบายสรุป รางกระดูกงูทึบบนโปร่งล่าง (Semi-Close Type) เป็นรางที่มีการออกแบบโดยมีด้านบนทึบเพื่อป้องกันสายไฟจากการเสียดสีและสิ่งรบกวนภายนอก เช่น ฝุ่นหรือสารเคมี ขณะที่ด้านล่างโปร่งช่วยให้การระบายความร้อนได้ดีและสามารถเข้าถึงสายไฟเพื่อการบำรุงรักษาหรือการเปลี่ยนสายได้สะดวกมากขึ้น รางประเภทนี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องการการป้องกันสูงและมีการเคลื่อนไหวของเครื่องจักรบ่อยครั้ง เช่น ในระบบอัตโนมัติหรือเครื่องจักร CNC การติดตั้งและการดูแลรักษาทำได้ง่ายและรวดเร็ว ช่วยให้การใช้งานมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของสายไฟ

Scroll to Top