ตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส
ประตู 2 ชั้นบานกระจก
ตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลสประตู 2 ชั้นบานกระจกได้รับการออกแบบเพื่อให้มีความทนทานและความสวยงาม โดยทำจากวัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง เช่น สแตนเลส 304 หรือ 316L ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการผุกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นและสารเคมี ประตูบานกระจกช่วยให้สามารถมองเห็นภายในตู้ได้สะดวก เพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องเปิดตู้ การติดตั้งซีลยางกันน้ำและฝุ่นช่วยป้องกันการรั่วซึมจากภายนอก ตู้เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการทั้งการป้องกันและการเข้าถึงที่ง่ายดาย มักใช้ในโรงงานหรือสถานีไฟฟ้าที่ต้องการความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการทำงาน.
"ตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส ประตู 2 ชั้นบานกระจกIP55-IP66"
จำหน่ายตู้สแตนเลสประตู 2 ชั้นบานกระจกและอะคริลิคกันน้ำ
จำหน่ายตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลสที่เชี่ยวชาญด้านสแตนเลส โดยจะมีหลากหลายขนาดและรูปแบบให้เลือกตามความต้องการใช้งาน ผู้ใช้สามารถเลือกตู้ที่มีคุณสมบัติตรงกับการใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม หรือสถานีไฟฟ้า สำหรับการใช้งาน ตู้สามารถใช้ในการควบคุมและป้องกันระบบไฟฟ้าภายในอาคารหรือโรงงาน โดยมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น เบรกเกอร์ สวิตช์ หรือมอเตอร์ เพื่อการควบคุมการทำงานอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้ตู้ต้องคำนึงถึงความทนทานและการระบายอากาศที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความร้อนสะสม สนใจสั่งซื้อหรือต้องการคำปรึกษา ติดต่อเราได้เลยค่ะ!
คุณสมบัติตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส
คุณสมบัติที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานและการป้องกันจากน้ำและฝุ่น โดยมีระดับการกันน้ำ IP55-IP66 ซึ่งช่วยป้องกันน้ำและฝุ่นจากการเข้าไปในตู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ วัสดุสแตนเลส 304 หรือ 316L ที่ใช้มีความทนทานต่อการกัดกร่อนและการผุกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี ตู้มีประตู 2 ชั้นบานกระจกที่ช่วยให้มองเห็นอุปกรณ์ภายในได้สะดวก และมีการติดตั้งซีลยางกันน้ำเพื่อป้องกันการรั่วซึม ตู้ยังมีการระบายอากาศที่ดีเพื่อป้องกันความร้อนสะสม ทำให้ระบบไฟฟ้าภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
การออกแบบสามารถสั่งเจาะให้มีช่องระบายอากาศช่วยให้การระบายความร้อนภายในตู้เป็นไปได้ดี แบบบานเกร็ด ลดความเสี่ยงจากการทำงานที่อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมในอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมเคมี, โรงงานอุตสาหกรรม, หรือการควบคุมระบบไฟฟ้าภายในอาคาร
รายละเอียดสินค้า
- วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: ทำจากสแตนเลส 304 หรือ 316L ที่ทนทานต่อการกัดกร่อนจากน้ำ, ความชื้น, และสารเคมี ช่วยเพิ่มอายุการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรือสารเคมี
- การป้องกันน้ำและฝุ่น: มีซีลยางหรือซีลพลาสติกที่ช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำและฝุ่นเข้าสู่ภายในตู้ ทำให้ตู้สามารถทำงานได้ในสภาพแวดล้อมที่มีฝุ่นหรือความชื้นสูง
- ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: เหมาะสำหรับการใช้งานทั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมถึงในอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานสูง เช่น อุตสาหกรรมเคมีหรือการผลิตไฟฟ้า
- ประตูบานกระจกหรืออะคริลิค: ช่วยให้สามารถมองเห็นอุปกรณ์ภายในตู้ได้สะดวก เพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบการทำงานโดยไม่ต้องเปิดตู้
- การป้องกันน้ำและฝุ่น: มาตรฐาน IP55 และ IP66 ช่วยให้ตู้สามารถป้องกันการเข้าไปของน้ำและฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย IP55 สามารถป้องกันฝุ่นบางชนิดและการฉีดน้ำจากทุกทิศทางได้ ส่วน IP66 ให้การป้องกันฝุ่นได้เต็มที่และสามารถทนการพ่นน้ำแรงดันสูงจากทุกทิศทางได้
ตู้ที่ทำจากสแตนเลส ใช้สำหรับบรรจุอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น เบรกเกอร์, สวิตช์, และระบบควบคุมต่างๆ เพื่อป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าจากฝุ่น, น้ำ, ความชื้น, และสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เหมาะสำหรับงานภายนอกอาคารหรือในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการกัดกร่อน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมและบริเวณที่มีความชื้นสูง
เคเบิ้ลแกลนกันน้ำ (Waterproof Cable Gland) คือ อุปกรณ์ที่ใช้ในการยึดจับและป้องกันการรั่วซึมของสายไฟที่ผ่านเข้าสู่ภาชนะหรือพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยจากน้ำหรือสิ่งสกปรก โดยส่วนใหญ่จะใช้ในงานที่มีสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นสูง เช่น ระบบไฟฟ้าภายนอกอาคาร หรือในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสัมผัสน้ำ เช่น เรือ อุตสาหกรรมเคมี หรือโรงงานที่มีการผลิตที่มีความชื้น
กระดูกงูร้อยสายไฟ ใช้ในการป้องกันและจัดระเบียบสายไฟ หรือสายเคเบิล ภายในอาคารหรือพื้นที่อุตสาหกรรม โดยมีโครงสร้างที่เป็นรางที่สามารถวางสายไฟได้อย่างปลอดภัยและสะดวก ช่วยให้การติดตั้งสายไฟเป็นระเบียบและง่ายต่อการบำรุงรักษา
ท่อร้อยสายไฟที่ออกแบบเป็นโครงสร้างคล้ายกระดูกงู มีความยืดหยุ่นสูง ใช้สำหรับปกป้องและจัดเก็บสายไฟหรือสายเคเบิลในระบบไฟฟ้าโดยช่วยป้องกันสายไฟจากการเสียดสี การกระแทก และความเสียหายอื่นๆ เหมาะสำหรับการใช้งานในเครื่องจักรหรือระบบที่มีการเคลื่อนไหว
ตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลสสำหรับติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้า
ตู้สแตนเลสแบบประตู 2 ชั้นถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการใช้งาน โดยฝาชั้นในสามารถติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าต่าง ๆ ได้อย่างเป็นระเบียบ ขณะที่ฝาชั้นนอกมีบานกระจกช่วยให้สามารถมองเห็นการทำงานของอุปกรณ์ภายในได้โดยไม่ต้องเปิดตู้ ลดโอกาสเกิดความเสียหายหรืออันตรายจากการสัมผัสอุปกรณ์โดยตรง การออกแบบนี้เหมาะสำหรับระบบที่ต้องการตรวจสอบสถานะเป็นประจำ เช่น ระบบควบคุมไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมหรือศูนย์ควบคุมเครื่องจักร นอกจากนี้ ประตู 2 ชั้นยังช่วยป้องกันฝุ่น น้ำ และสิ่งแปลกปลอมจากภายนอก ทำให้ระบบภายในมีความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้า
การวัดขนาดของตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส (Diameter)
การวัดขนาดอย่างละเอียดจะช่วยให้การติดตั้งและการใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับอุปกรณ์หรือการใช้งานต่างๆ ได้อย่างพอดีและปลอดภัย.
- ความกว้าง (Width): วัดจากขอบด้านหน้าไปยังขอบด้านหลังของตู้ (จากด้านหน้าไปด้านหลัง)
- ความสูง (Height): วัดจากพื้นถึงยอดของตู้ (จากล่างสุดไปด้านบนสุด)
- ความลึก (Depth): วัดจากด้านหน้าของตู้ถึงด้านหลัง (มักจะใช้เมื่อต้องการตรวจสอบความลึกของช่องภายในตู้
- ขนาดของช่องเปิด (Door Opening Size): หากต้องการทราบขนาดของช่องที่เปิดปิดได้ ควรวัดจากขอบบานประตูด้านหนึ่งถึงขอบอีกด้าน
- ขนาดของแผงภายใน: หากต้องการติดตั้งอุปกรณ์ภายในตู้ ควรตรวจสอบพื้นที่การติดตั้งโดยการวัดช่องว่างระหว่างแผงหรือชั้นภายในตู้
- ปรับแต่งขนาดและรูปทรง: ภาพแสดงให้เห็นว่าตู้ไฟฟ้าสแตนเลสสามารถปรับเปลี่ยนขนาดและรูปทรงได้ตามต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่และการใช้งาน
- เลือกวัสดุ: สามารถเลือกวัสดุที่ใช้ผลิตตู้ไฟได้ เช่น สแตนเลสเกรดต่างๆ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมในการใช้งาน
- เลือกประเภทของบานประตู: สามารถเลือกประเภทของบานประตูได้ เช่น บานประตูทึบ บานประตูที่มีช่องระบายอากาศ หรือบานประตูที่มีหน้าต่าง
- เลือกอุปกรณ์เสริม: สามารถเลือกอุปกรณ์เสริมต่างๆ ได้ เช่น กุญแจ มือจับ บานพับ หรือชั้นวางของ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
- เลือกสี: สามารถเลือกสีได้ตามต้องการ เพื่อให้เข้ากับการตกแต่ง
- เลือกตำแหน่งและขนาดของรูเจาะ: สามารถกำหนดตำแหน่งและขนาดของรูเจาะสำหรับเดินสายไฟหรือติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้
การตรวจสอบสถานะอุปกรณ์เป็นประจำเหมาะกับตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส
ตู้คอนโทรลไฟฟ้าสแตนเลสประตู 2 ชั้นเหมาะสำหรับระบบที่ต้องการตรวจสอบสถานะอุปกรณ์เป็นประจำ โดยฝาชั้นนอกที่มีบานกระจกช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นการทำงานของอุปกรณ์ภายในได้โดยไม่ต้องเปิดตู้ ลดความเสี่ยงในการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรง ช่วยให้การตรวจสอบและบำรุงรักษาทำได้สะดวกและรวดเร็ว เหมาะสำหรับระบบควบคุมไฟฟ้าในโรงงาน ศูนย์ควบคุมเครื่องจักร หรือสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันฝุ่นและน้ำ ทำให้ระบบภายในมีอายุการใช้งาน ช่วยลดการปนเปื้อนจากฝุ่น ความชื้น หรือสารเคมีที่อาจส่งผลต่ออุปกรณ์ภายใน ทำให้ระบบควบคุมมีเสถียรภาพมากขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบให้สามารถติดตั้งสวิตช์ ควบคุม หรืออุปกรณ์แสดงผลบนฝาชั้นใน ยังช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการควบคุมได้ง่ายโดยไม่ต้องเปิดตู้ทั้งหมด ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยในระหว่างการใช้งาน ตู้ประเภทนี้เหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูง เช่น โรงงานผลิตอาหาร เครื่องจักรอัตโนมัติ หรือศูนย์ควบคุมระบบพลังงาน
เปรียบตู้สแตนเลสเทียบบานกระจก vs. บานอะคริลิค
การสั่งผลิตตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส
ตู้สแตนเลสมาตรฐาน IK10 ป้องกันจากแรงกระแทก
วิธีเลือกตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลสให้เหมาะกับการใช้งานอุตสาหกรรม
การเลือกตู้ไฟฟ้าสแตนเลส ให้เหมาะสมกับอุตสาหกรรมต้องพิจารณาหลายปัจจัย โดยเฉพาะ ประเภทของบานประตู ซึ่งอาจเป็น บานกระจกหรืออะคริลิค ที่ช่วยให้สามารถมองเห็นภายในตู้ได้โดยไม่ต้องเปิดฝา
1. เลือกวัสดุสแตนเลสให้เหมาะสม (304 vs. 316L)
- สแตนเลส 304: เหมาะกับสภาพแวดล้อมทั่วไปที่ไม่มีการกัดกร่อนสูง เช่น โรงงานผลิตทั่วไปและศูนย์ควบคุมระบบไฟฟ้า
- สแตนเลส 316L: ทนต่อสารเคมี ความชื้น และน้ำเค็ม เหมาะกับโรงงานอาหาร โรงงานเคมี หรือพื้นที่ใกล้ทะเล
2. ระดับการป้องกันน้ำและฝุ่น (IP55 – IP66)
- IP55: ป้องกันฝุ่นและน้ำจากการฉีดพ่น เหมาะกับการใช้งานภายในอาคาร
- IP66: ป้องกันน้ำและฝุ่นได้ดียิ่งขึ้น เหมาะกับงานกลางแจ้งหรือพื้นที่ที่มีความชื้นสูง
3. ฟังก์ชันพิเศษที่ควรมี
- ระบบล็อคป้องกันการเข้าถึง เพิ่มความปลอดภัยจากบุคคลภายนอก
- บานเกร็ดระบายอากาศ ป้องกันความร้อนสะสม ลดอุณหภูมิภายในตู้
- การเจาะรูด้วยเลเซอร์ ช่วยให้ติดตั้งอุปกรณ์และสายไฟได้สะดวกขึ้น
4. การติดตั้งให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อม
- ติดตั้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง
- ใช้ขาเหล็กหรือขาตั้งยึดให้แข็งแรง ลดการสั่นสะเทือน
การเลือก ตู้ควบคุมไฟฟ้าต้องคำนึงถึงวัสดุ ระดับการป้องกัน และประเภทของบานประตูให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการใช้งาน บานกระจก เหมาะกับงานที่ต้องการความคมชัดในการมองเห็นภายใน ส่วน บานอะคริลิค เหมาะกับงานที่ต้องการความปลอดภัยและน้ำหนักเบา ทั้งนี้ควรเลือกรุ่นที่มีระบบระบายอากาศและการป้องกันที่ดีเพื่อให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย.
เปรียบตู้สแตนเลสเทียบบานกระจก vs. บานอะคริลิค
| คุณสมบัติ | บานกระจก | บานอะคริลิค |
|---|---|---|
| ความทนทานต่อแรงกระแทก | ต่ำกว่าอะคริลิค | ทนต่อแรงกระแทกสูงกว่า |
| ความโปร่งใส | ใสมาก มองเห็นชัดเจน | อาจมีความขุ่นเล็กน้อยเมื่อใช้งานนาน |
| ความทนทานต่อสารเคมี | สูงกว่า | อาจเกิดรอยขีดข่วนง่าย |
| น้ำหนัก | หนักกว่า | เบากว่า ติดตั้งง่าย |
การสั่งผลิตตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส
การสั่งผลิตตู้สามารถออกแบบตามขนาดที่ต้องการ เพื่อให้เหมาะสมกับการติดตั้งและการใช้งานในอุตสาหกรรมแต่ละประเภท โดยสามารถเลือกให้มีการ เจาะรูด้วยเลเซอร์ ซึ่งช่วยให้ตำแหน่งของช่องเข้าสายไฟแม่นยำและเรียบร้อย ลดความผิดพลาดในการติดตั้งได้ นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่ม บานเกร็ดระบายอากาศ เพื่อช่วยระบายความร้อนสะสมภายในตู้ ทำให้ระบบไฟฟ้าทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเลือกใช้วัสดุสแตนเลส เช่น 304 หรือ 316L ยังช่วยเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อนและการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
ขนาดสามารถปรับแต่งได้ทั้ง ความกว้าง ความสูง และความลึก เพื่อให้เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งและอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าภายใน โดยสามารถกำหนด จำนวนและตำแหน่งของรูเจาะเลเซอร์ สำหรับสายไฟ, คอนเนคเตอร์ หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ ได้ตามความต้องการ การเพิ่ม บานเกร็ดระบายอากาศ ช่วยลดความร้อนสะสม
ป้องกันความชื้น และยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ไฟฟ้าภายใน การออกแบบฝาตู้สามารถเลือกได้ทั้งแบบ ประตูชั้นเดียวหรือประตู 2 ชั้น โดยแบบ 2 ชั้นมักใช้บานกระจกหรืออะคริลิคเพื่อให้มองเห็นอุปกรณ์ภายในโดยไม่ต้องเปิดฝา นอกจากนี้ยังสามารถเลือกระดับการป้องกันฝุ่นและน้ำได้ตั้งแต่ IP55 จนถึง IP66 เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่ต้องการใช้งาน.
เปรียบเทียบตู้ควบคุมไฟฟ้าแบบเหล็กพ่นสี vs. สแตนเลส อันไหนดีกว่า?
ตู้ควบคุมไฟฟ้าแบบ เหล็กพ่นสี มีราคาถูกกว่าและเหมาะกับการใช้งานภายในอาคารทั่วไป แต่มีข้อเสียคือ เสี่ยงต่อการเกิดสนิม หากสีเคลือบลอกหรือเกิดความชื้น ขณะที่ ตู้สแตนเลส มีความทนทานต่อการกัดกร่อนสูงกว่า โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความชื้นหรือสารเคมี เช่น โรงงานอาหารและอุตสาหกรรมหนัก แม้ว่าสแตนเลสจะมีราคาสูงกว่า แต่มีอายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องบำรุงรักษาบ่อย เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัยและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง ดังนั้น การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับงบประมาณและสภาพแวดล้อมที่ต้องติดตั้ง ตู้เหล็กพ่นสี ยังมีข้อจำกัดในการทนต่อการขีดข่วนและการเสียดสี ซึ่งอาจทำให้ชั้นสีหลุดลอกและเสี่ยงต่อการเกิดสนิมในระยะยาว แต่การดูแลรักษาง่าย และไม่ต้องการการลงทุนสูง ในทางกลับกัน สแตนเลส แม้จะมีราคาสูง แต่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ท้าทาย เช่น ความร้อนสูงหรือสารเคมีกัดกร่อน นอกจากนี้ยังง่ายต่อการทำความสะอาดและดูแลรักษ
ตู้สแตนเลสมาตรฐาน IK10 ป้องกันจากแรงกระแทก
ตู้ที่มีการป้องกันจากแรงกระแทกตามมาตรฐาน IK rating ซึ่งใช้เพื่อบ่งชี้ถึงความทนทานของอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือเครื่องมือที่สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ โดย IK10 เป็นระดับสูงสุดในมาตรฐานนี้ ซึ่งแสดงว่า สามารถทนแรงกระแทกที่มีความรุนแรงถึง 20 จูล (J) โดยแรงกระแทกนี้จะเปรียบเทียบได้กับการถูกกระแทกด้วยท่อนไม้หนักประมาณ 5 กิโลกรัมจากความสูง 40 เซนติเมตร
คุณสมบัติของตู้ไฟสแตนเลส IK10 ได้แก่:
- ทนทานต่อการกระแทก: สามารถป้องกันการกระแทกจากของหนักหรือวัตถุที่ตกหล่นได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงจากแรงกระแทกสูง เช่น พื้นที่อุตสาหกรรมหรือที่สาธารณะ
- วัสดุแข็งแรง:ที่มีการผลิตตามมาตรฐาน IK10 มักจะทำจากสแตนเลสที่มีความทนทานสูง ทนต่อการขีดข่วนและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน
- เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความปลอดภัย: เนื่องจากสามารถป้องกันการบุกรุกจากการกระแทกและทำให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในจะปลอดภัยจากการเสียหาย
- ใช้งานในพื้นที่เสี่ยง: ตู้ประเภทนี้เหมาะสำหรับการติดตั้งในสถานที่ที่อาจมีการเสี่ยงจากการชนหรือกระแทก เช่น โรงงาน, พื้นที่กลางแจ้ง, หรือที่สาธารณะ
การใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแรงทนทานในการป้องกันอุปกรณ์ภายในจากแรงกระแทกโดยตรง เช่น งานระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม หรือที่ตั้งในพื้นที่ที่มีการใช้งานที่รุนแรง
Cable Gland ทั้ง 3 วัสดุ: สแตนเลส, ทองเหลืองชุบนิกเกิล, และพลาสติก โดยสแตนเลส (Stainless Steel) เป็นวัสดุที่ทนทานต่อการกัดกร่อนและการเสื่อมสภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมีและอุตสาหกรรมอาหาร ขณะที่ทองเหลืองชุบนิกเกิล (Nickel Plated Brass) มีความแข็งแรงและทนทานต่อการกัดกร่อน ทำให้เหมาะสำหรับงานไฟฟ้าที่ต้องการความทนทานสูง เช่น ระบบไฟฟ้าทั่วไปและงานที่มีแรงดันไฟฟ้าสูง ส่วนพลาสติก (Plastic) เช่น PA66 หรือ Nylon 6/6 ทนต่อสารเคมีและการกัดกร่อนจากสภาพแวดล้อมภายนอก ใช้งานได้ดีในอุตสาหกรรมทั่วไปที่ไม่สัมผัสกับสารเคมีที่รุนแรง ทั้งสามวัสดุนี้เหมาะกับการเลือกใช้ในงานที่มีความต้องการพิเศษตามสภาพแวดล้อมต่างๆ
อธิบายสรุป ตู้ควบคุมไฟฟ้าสแตนเลส ประตู 2 ชั้นบานกระจก เป็นการออกแบบที่ช่วยเพิ่มความสะดวกในการตรวจสอบอุปกรณ์ภายในตู้โดยไม่ต้องเปิดฝา โดยประตูชั้นนอกเป็นบานกระจกที่สามารถมองเห็นการทำงานของอุปกรณ์ได้อย่างชัดเจน ขณะที่ฝาชั้นในจะมีพื้นที่สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมต่าง ๆ การออกแบบนี้ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานเพราะลดความเสี่ยงจากการสัมผัสอุปกรณ์ไฟฟ้าโดยตรง นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันฝุ่นและน้ำจากภายนอกได้อย่างดี โดยมีวัสดุสแตนเลสที่ทนทานต่อการกัดกร่อน เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการความทนทานและความสะดวกในการตรวจสอบสถานะของระบบไฟฟ้า.